ชิมแปนซี ที่ ยูกันดา (Chimpanzee Trekking) ผมเดินทางมาที่ประเทศยูกันดา (Uganda) ประเทศขนาดกลางทางด้านแอฟริกาตะวันออกโดยตั้งใจว่าจะเดินป่าตามหาลิงกอริลล่าภูเขาที่พวกเราเรียกพวกมันกันอย่างเอ็นดูว่า “เจ้าหลังเงิน” หรือ Silverback สัตว์สงวนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้เพียงที่เดียวในโลก และผมก็สามารถเดินป่าปีนเขาข้ามห้วยไปพบพวกมันในธรรมชาติได้สำเร็จเรียบร้อยในป่ารกชัฏของวนอุทยาน Bwindi Impenetrable Park โดยใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมง พร้อมกับเหงื่ออีกเป็นลิตร และอาการปวดน่อง ปวดเข่า ปวดขาที่ตามมาในวันรุ่งขึ้น แต่ผมคิดว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มมากๆ เมื่อได้สบตากับพวกมันที่เดินไปมาอย่างอิสรเสรีโดยไม่มีลูกกรงกั้นแม้แต่ซี่เดียว
แต่นั่นยังไม่พอ เพราะยังมีสัตว์อีกหนึ่งชนิดที่มีความใกล้เคียงมนุษย์มากที่สุดที่ผมจะมาตามหามัน นั่นคือ “ชิมแปนซี” (Chimpanzee)
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ซีรีย์การเดินทาง “มนตราซาฟารียูกันดา ตามหากอริลลาฝูงสุดท้าย ปิดท้ายที่รวันดา” อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
- ยูกันดาซาฟารี (Uganda Safari) มนตรายูกันดา
- เดินป่าเฝ้าดูเพื่อนร่วมโลกผู้ใกล้ชิดลิงชิมแปนซี (Chimpanzee Trekking) (ท่านกำลังอ่านอยู่)
- ตะลุยป่าดงดิบยูกันดาตามหากอริลลาภูเขา (Mountain Gorilla Trekking)
- รวันดา (Rwanda) สวิตเซอร์แลนด์แห่งแอฟริกา
แนะนำผู้เขียนบทความ
โลจน์ นันทิวัชรินทร์
หนุ่มเอเจนซี่โฆษณาผู้มีปรัชญาชีวิตว่า “ทำมาหาเที่ยว” เพราะเรื่องเที่ยวมาก่อนเรื่องกินเสมอ ชอบไปประเทศนอกแผนที่ที่ไม่มีใครอยากไปเลยต้องเต็มใจเป็น “Solo Traveler”
ทำไมต้องมาดู ลิงชิมแปนซี ยูกันดา กันด้วยละ
DNA ของมนุษย์กับชิมแปนซีต่างมีความใกล้เคียงกันมากกว่า 98%
ถึงจะเหนื่อย เมื่อย และโทรมแค่ไหนผมก็ยังไม่เข็ด ไหนๆ ผมก็ได้ไปเห็นลิงกอริลล่ามาแล้ว ผมน่าจะไปเดินป่าหาสัตว์ประเภทอื่นๆ บ้างในเมื่อมาถึงแอฟริกาทั้งที
ยูกันดาถือเป็น “ตัวแม่” ทางด้าน โปรแกรมการเดินป่า (Trekking) อย่างแท้ทรู หากเราลองค้นหาในอินเทอร์เน็ตแล้วจะพบว่าที่นี่มีโปรแกรมเดินป่าตามรอยสัตว์ให้เลือกเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นลิง ค่าง บ่าง ชะนี กระรอก กระแต ค้างคาว ฯลฯ หรือแม้แต่งูเหลือม โดยโปรแกรมเดินป่าตามหาสัตว์ต่างๆ นั้นจะมีอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศขึ้นอยู่กับว่าพื้นที่นั้นๆ มีสัตว์ชนิดใดชุกชุม หลังจากที่อ่านข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแล้ว สัตว์ตัวแรกที่ผมตัดออกไปทันทีเลยคืองูเหลือมครับ ผมไม่ค่อยอี๋อ๋อฮิฮะกับน้องงูยักษ์เหล่านี้เท่าไหร่ ในที่สุดผมก็ตัดสินใจได้ว่าผมจะไปเดินป่าตามหาลิงชิมแปนซี ที่ป่าในเขตเมือง คิบาเล่ (Kibale) ทางตอนใต้ของยูกันดา
ด้วยความรู้อันน้อยนิดเกี่ยวกับลิงชนิดนี้ ผมก็เหมือนกับใครหลายคนที่ทึกทักเอาว่าลิงชิมแปนซีเป็นญาติพี่น้องกับมนุษย์อย่างเรามาแต่โบราณกาล หรือเราเองก็อาจมีวิวัฒนาการมาจากพวกเขาก็เป็นได้ แต่เมื่อลองค้นหาข้อมูลในเชิงวิทยาศาสตร์อ่านต่อไปเรื่อยๆ ก็พบว่า มนุษย์และชิมแปนซีมีความใกล้ชิดกันมาก ๆ DNA ของเราต่างมีความใกล้เคียงกันมากกว่า 98 % เราต่างเป็นสัตว์สังคมที่มีการเรียนรู้และถ่ายทอดความรู้ได้ ไม่ใช่การใช้สัญชาตญาณเพียงอย่างเดียวแบบสัตว์หลายๆ ชนิด มาดูความพิเศษของลิงชนิดนี้กันดีกว่า เช่น
- ชิมแปนซีและมนุษย์ต่างเป็นสัตว์ที่แสดงอารมณ์ผ่านกล้ามเนื้อบนใบหน้าให้อีกฝ่ายรับรู้ว่ากำลังรู้สึกอย่างไร
- ทั้งมนุษย์และชิมแปนซีต่างก็มีภาษาในการสื่อสาร
- ชิมแปนซีเป็นลิงที่สามารถเดินแบบยืดตัวตรง (Walking Upright) ได้เหมือนกับคนเรา
- ชิมแปนซีเป็นลิงไม่กี่ชนิดที่สามารถใช้เครื่องมือต่างๆ มาเป็นอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกได้ เช่นใช้หินทุบเหมือนมนุษย์ใช้ฆ้อน ใช้ก้านไม้แยงช่องเล็กๆ เพื่อนำสิ่งที่อยู่ภายในนั้นออกมา ซึ่งสัตว์หลายชนิดไม่มีสามารถทำได้
ผมชักเริ่มรู้สึกว่าน้องลิงชิมแปนซีนี้เป็นลิงอัจฉริยะเสียแล้วล่ะ….. ต้องไปเจอให้ได้
จาก คัมปาลา (Kampala) สู่ คิบาเล่ (Kibale)
จาก คัมปาลา (Kampala) เมืองหลวงอันแสนวุ่นวายของยูกันดา รถตู้พาผมล่องใต้ไปเมือง คิบาเล่ (Kibale) ที่อยู่ห่างออกมาหลายร้อยกิโลเมตร ผมหลับสัปหงกสะลึมสะลือมาตลอดวันจนรู้สึกตัวว่ารถตู้กำลังจอด ณ ที่ใดที่หนึ่ง เมื่อผมลืมตาขึ้น ผมก็ตกใจสุดขีดเพราะที่กระจกนั้นมีคนจำนวนมากกำลังเคาะป๊อก ป๊อก ป๊อก ทุกคนจ้องมาที่ผมพร้อมตะโกนโหวกเหวกอะไรบางอย่างด้วยเสียงอันดัง
“กรี๊ดดดดดด….. ใจเย็นครับ ใจเย็นครับ ผมไปทำอะไรให้พี่โกรธครับเนี่ย!” ผมสะดุ้งตัวตื่น รีบผงะถอยหน้าที่แนบกระจกออกมา ก่อนจะพบว่าพี่ๆ น้องๆ เหล่านั้นล้วนใส่เสื้อกั๊กแบบวินมอเตอร์ไซค์สีฟ้ากันหมดและในมือของพวกเขามีกล้วย มะละกอ ขวดน้ำอัดลมหลากสีหลากรสบรรจุอยู่ในลัง
“หนีห่าว… กล้วยไหม สดๆ จากสวนเลยจ้ะ”
“หนีห่าว… มะละกอก็มีครับ สดกว่ากล้วยอีก”
“หลับมานาน… นั่งรถมาเหนื่อยแย่เลย รับน้ำอัดลมหวานๆ เย็นๆ สักขวดไหมจ๊ะ”
ผมถึงกับหายใจโล่งเมื่อพบว่าที่นี่คือจุดพักรถระหว่างทางและเหล่าพ่อค้าแม่ขายกำลังเร่เข้ามาเสนอขายสินค้าต่างๆ นานากันอย่างเอิกเกริก หาใช่การปล้นหรือการประทุษร้ายใดๆ ทั้งสิ้น และความจริงทุกคนต่างส่งยิ้มยิงฟันขาวตัดกับผิวของเขามาให้ผมอย่างน่ารัก ว่าแล้วผมก็อุดหนุนกล้วยมาลูกสองลูกพร้อมกับน้ำดื่มขวดใหญ่ก่อนจะหลับต่อจนรถตู้พาผมไปถึงเมืองคิบาเล่ในตอนค่ำวันนั้น
อุทยานแห่งชาติคิบาเล่ (Kibale National Park) บ้านของ ชิมแปนซี ยูกันดา
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น รถจาก อุทยานแห่งชาติคิบาเล่ (Kibale National Park) มารับผมตั้งแต่ก่อน 6 โมงเช้าเพื่อมุ่งไปที่ทำการของอุทยาน เราต้องไปรายงานตัวพร้อมรับฟังบรรยายให้ทราบถึงกฎ กติกา และมารยาทในการเดินป่าตามหาลิงชิมแปนซีในวันนี้
“ในที่นี้ใครเคยไปดูลิงกอริลล่ามาแล้วบ้างครับ” โจ หัวหน้าเรนเจอร์ผู้นำทาง ถามขึ้นเมื่อเริ่มบรรยาย เขาเป็นนายพรานที่จะพาผมและคณะผจญภัยหลากชาติหลากภาษาเข้าไปเดินตามหาน้องลิงชิมแปนซีในวันนี้ และมีมือสองสามมือยกขึ้นเพื่อแสดงตัวว่าเคยมีประสบการณ์ Gorilla Trekking มาก่อน
“กอริลล่าเป็นลิงยักษ์ที่อ่อนโยนและเป็นมังสวิรัติ 100 % แต่ชิมแปนซีไม่ใช่ มันเป็นสัตว์กินเนื้อด้วยเช่นกัน และมันไม่ใจดีเหมือนกอริลล่านะครับ”
ประโยคนี้เรียกเสียงฮือฮาออกมาจากนักเดินป่าสมัครเล่นในวันนี้ ผมแอบรู้สึกว่าใจเต้นแรงขึ้นนิดหน่อย “ที่ผมพูดมาเมื่อสักครู่นั้นผมไม่ได้มีเจตนาจะขู่ แต่ผมอยากเตือนว่าเราไม่ควรเสี่ยงทำอะไรที่เป็นการยั่วยุลิงป่าชนิดนี้โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่หลายฝูงในป่าคิบาเล่เช่นนี้ เพราะมันจะอันตรายมากๆ” โจอธิบายต่อ คำพูดของโจเมื่อสักครู่นี้ได้ผลมากๆ เพราะทุกคนตื่นจากอาการง่วงงุน แถมยังนั่งระวังตรงตั้งใจฟังเขาทันที และผมได้ยินทุกคนพึมพำด้วยความกลัวเกรงต่อโจว่า “ได้โปรดบอกมาเลยโจว่าเราต้องทำอย่างไรบ้าง ได้โปรดบอกมาเถิดพ่อคุณ พวกเรายินดีน้อมรับคำสั่ง” พร้อมสัญญาจะทำตามคำแนะนำของเขาทุกคำ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า …..” โจหัวเราะออกมาเมื่อเห็นอาการเกร็งของพวกเรา “ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นนะครับ ผมแค่อยากย้ำว่าเราอยู่ในดินแดนของเขา เราควรระวังตัวและให้ความเคารพ
กฎสามสี่ข้อ
โจบอกเล่าเรื่อง “กฎสามข้อ” ที่สำคัญสำหรับการเดินดูสัตว์เหล่านี้คือ
“กฎข้อแรก” ถ้ามีใครไอ จาม ปวดหัว ตัวร้อนนั่งอยู่ในนี้ไหมครับ ถ้ามี ผมขอให้แสดงตัวเลย เพราะเราไม่สามารถอนุญาตให้คุณไปเยี่ยมน้องลิงได้” โชคดีว่าทุกคนสุขภาพแข็งแรงดี และจะได้ไปพบน้องลิงชิมแปนซีได้ทั้งหมด…เย่!!!
“ข้อที่สอง” ผมขอให้ทุกคนเดินให้เบาที่สุด อย่าส่งเสียงใดๆ และใช้เสียงเมื่อจำเป็นเท่านั้น หากพวกเราเสียงดัง พวกลิงอาจยิ่งหนีเข้าป่าไปเลย แล้วคุณก็จะอดเจอพวกลิงไปเลยนะครับ” โจบอกข้อพึงปฏิบัติข้อต่อมาซึ่งทุกคนพยักหน้าน้อมรับกันอย่างดี
“ข้อที่สาม” เมื่อลิงชิมแปนซีปรากฏตัวขึ้น เขาอาจอยู่บนต้นไม้ หรือลงมาเดินที่พื้นดินก็ได้นะครับ ผมขอให้ช่วยกันรักษาระยะห่างไว้อย่างต่ำ 8 เมตร หรือ 25 ฟุต ห้ามถ่ายภาพพวกเขาโดยใช้แฟลชเด็ดขาด และอนุญาตให้ใช้เพียงกล้องเก็บเสียงเท่านั้น อย่ากินอาหารหรือดื่มน้ำต่อหน้าพวกเขาโดยเด็ดขาด เพราะกลิ่นอาหารหรือเครื่องดื่มอาจกระตุ้นความสนใจ และเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวเกิดได้ มีใครจะฝากขนม คุกกี้ ผลไม้ หรือเครื่องดื่มในกล่องไว้กับศูนย์ตอนนี้เลยไหมครับ” เมื่อจบประโยคนี้ผมเห็นหลายต่อหลายคนหยิบคุกกี้ กล้วยหอม ส้ม ขนมปัง และนมกล่องออกมาใส่ถุงพลาสติกฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ และแน่นอนว่าคุกกี้โอริโอ้ (ดับเบิ้ลครีม) ของโปรดผมก็รวมอยู่ในนั้น
“ข้อสุดท้าย อย่าเลียนแบบเสียงร้องของชิมแปนซีที่คุณได้ยิน ไม่ว่าเขาจะร้องออกมาเป็นเสียงอย่างไร คุณห้ามทำเสียงเลียนแบบเสียงพวกมันโดยเด็ดขาด รวมทั้งห้ามทำท่าทางเลียนแบบพวกมันด้วย” โจย้ำอย่างจริงจัง
“ทำไมเหรอครับ ผมขออนุญาตถามนิดนึงครับ” หนุ่มชาวอังกฤษถามคำถามนี้กับโจด้วยความเกรงใจ
“เพราะลิงชิมแปนซีมีภาษาของพวกมันครับ และคุณไม่มีทางรู้ว่าเลยคุณกำลังพูดอะไรอยู่ในภาษาของพวกมัน….. เสียงเสียงนั้น คำพูดคำนั้น หรือท่าทางแบบนั้นอาจไปกระตุ้นพฤติกรรมก้าวร้าวของลิงชิมแปนซีได้” โจอธิบายให้เข้าใจ
“ประทานโทษครับโจ เราถ่ายได้ไหมครับ ไม่ว่าจะถ่ายเบาหรือถ่ายหนัก ถ้ามันจำเป็นมากๆ นี่ต้องทำยังไงครับ คือเราจะเดินป่ากัน 4 – 5 ชั่วโมงเพื่อตามน้องลิงชิมแปนซีเช่นนี้ ผมเกรงว่าอาจมีอาการปวดหนักปวดเบากันได้น่ะครับโจ” อันนี้เป็นคำถามผมเองครับ แต่ผมคิดว่าหลายคนก็คงมีคำถามเช่นนี้
“ได้ครับ… แต่คุณต้องแจ้งพรานผู้นำทางทันที และออกมาจากทางเดินที่กำหนดไว้ ไปขุดหลุมลึกไม่ต่ำกว่า 30 เซนติเมตร เมื่อทำธุระเสร็จก็ขอให้กลบหลุมนั้นให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะทุกข์หนักหรือทุกข์เบาก็ต้องขุดหลุมและกลบเช่นนี้หมดนะครับ” โจย้ำ และผมก็คิดว่าผมควรไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนเดินป่า ผมไม่อยากไปขุดหลุมเพื่อถ่าย ในขณะที่ทั้งพรานและคนอื่นๆ ต้องมานั่งรอผมทำธุระ
ก้าวแรกเพื่อตามหา ชิมแปนซี ยูกันดา
ในที่สุดก็ถึงเวลาออกเดิน คณะเดินทางได้รับการแบ่งเป็นกลุ่มเล็กๆ กลุ่มละ 8 คน โดยมีพรานนำและตามขบวนไปกลุ่มละ 4 คน และสิ่งที่เขากำชับเราตั้งแต่เริ่มเดินคือการเก็บชายกางเกงไว้ให้มิดชิดในรองเท้า ทั้งนี้สัตว์ที่ต้องระวังมาก ๆ นั้นคือ “มด” ครับ มดป่าแอฟริกันตัวเขื่องอาจมีฤทธิ์เดชที่น่ากลัวมากๆ พวกมันมักอยู่กันเป็นฝูง และการโดนกัดเพียงครั้งเดียวอาจสร้างความเจ็บปวดทุรนทุรายไม่แพ้สัตว์มีพิษชนิดอื่น ว่าแล้วผมก็รีบตรวจสภาพชายกางเกงอย่างรอบคอบอีกครั้ง
ป่าคิบาเล่ (Kibale) ยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ต้นไม้ต้นใหญ่ๆ ขนาดหลายคนโอบยังขึ้นเขียวครึ้ม หลายต้นสูงนับหลายสิบหรืออาจถึงร้อยเมตรจนต้องแหงนคอตั้งบ่า บางต้นมีเห็ดยักษ์ขึ้นสูงอยู่บนลำต้น และแม้แต่เห็ดนั้นก็มีขนาดใหญ่ราวกับแปลที่กว้างพอสำหรับคนนอนได้เลย ตลอดทางนั้นพวกเราเดินกันอย่างเงียบมากๆ แทบไม่มีใครคุยกับใคร คำขู่ของโจที่บอกว่าเสียงของเราจะขับไล่ลิงให้หนีไปไกลๆ นั้นได้ผลชะงัด และหลังจากเดินตามโจและพรานป่ามากว่าสองชั่วโมงเราก็ได้รับรางวัล นั่นคือลิงชิมแปนซีจำนวนหนึ่งที่นั่งกินผลมะเดื่อ (Fig) อยู่บนต้นสูงลิบลิ่ว
“ระวังมันฉี่ลงมานะ” โจเตือน และอีกไม่นานผมก็เห็นหยดน้ำฉ่ำซ่าลอยลงมาจากกิ่ง….โชคดีที่ไม่โดนผม น้องลิงฝูงนี้มีเป็นครอบครัวด้วย แม่กำลังให้นมลูก ลูกวิ่งไปมาล้อหลอกหยอกกัน และก็มีตัวพ่อที่โดดไปมากิ่งนู้นทีกิ่งนี้ที และเข้าไปผสมพันธุ์กับลิงตัวเมียอื่นๆ ในป่าคิบาเล่มีต้นมะเดื่ออยู่มาก และน่าจะเป็นต้นไม้ที่ชิมแปนซีชื่นชอบทีเดียวเพราะกิ่งไหนที่มีผลอยู่ ผมก็จะเห็นว่ามีลิงจับจองกันไปเสียแล้ว
จากป่ามะเดื่อ เราเดินเข้าไปในป่าลึกขึ้นด้วยความหวังว่าอาจมีชิมแปนซีสักตัวสองตัวที่อยากจะลงมาเดินเล่นยืดแข้งยืดขาบ้าง และนั่นน่าจะเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้ใกล้ชิดพวกมันบนพื้นราบบ้าง
อีกราวสองชั่วโมงต่อมาเราก็โชคดีอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงวิทยุเข้ามาที่โจ
“เจ้าแพทริกกับเพื่อนซี้ของมันกำลังลงมาที่พื้น เลยป่ามะเดื่อไปทาง 11 นาฬิกา รีบมาเลย” โจรีบหันมาให้สัญญาณมือให้พวกเราเร่งฝีเท้าตาม “แพทริก” และพวกที่กำลังปีนลงมาจากต้นไม้
ลิงชิมแปนซีที่คิบาเล่ส่วนมากมีชื่อนะครับ เจ้าหน้าที่และพรานแทบทั้งหมดล้วนเดินป่าสังเกตพฤติกรรมพวกมันมานาน จนรู้จักและจำได้ดี และผมก็ทึ่งมากๆ ที่พวกเขารู้จักและจดจำพวกมันได้ เพราะสำหรับผมนั้น ผมดูยังไงผมก็ไม่มีทางรู้เลยว่าตัวไหนเป็นตัวไหนหรือชื่ออะไร
เรารีบพุ่งไปทิศทาง 11 นาฬิกา และเราก็โชคดีอีกครั้งที่เห็นลิงชิมแปนซีจำนวนนึงกำลังเดินดุ่มอยู่บนพื้น พวกมันเป็นลิงขนาดสูงประมาณสี่ฟุตที่เดินไปตามแนวป่า และด้วยอะไรก็ไม่ทราบครับ พวกมันหันหลังกลับมาแล้วเดินย้อนผ่านผมไปในระยะใกล้มากจนผมเห็นพวกมันชัดมากๆ จนใจผมนี้เต้นไม่เป็นจังหวะ และในชั่วเวลาไม่กี่วินาทีต่อมามันก็เดินหายไปในป่าลึก และนั่นคือครั้งเดียวในชีวิตที่ผมได้เห็นลิงชิมแปนซีใกล้ขนาดนี้
เราเดินเงียบๆ สะกดรอยพวกมันอีกพักใหญ่จนเวลาผ่านไปทั้งหมดรวม 6 ชั่วโมง และโจก็ส่งสัญญาณพาพวกเราเดินกลับมาที่ศูนย์เป็นอันจบสิ้นกระบวนการเดินป่าตามล่าชิมแปนซีในวันนี้ การเดินตามล่าลิงชิมแปนซีในป่าคิบาเล่นั้นง่ายกว่าตามหาลิงกอริลล่าที่ป่าบวินดีมาก เพราะป่าคิบาเล่นั้นเป็นป่าโปร่ง เดินได้ไม่ยาก แถมยังไม่ต้องออกแรงปีนเขาเพราะเป็นทางราบเสียส่วนใหญ่ ต้นไม้ใหญ่เขียวชอุ่มนำความสดชื่นมาให้ผู้เดิน
ที่สำคัญ…. ฝูงลิงชิมแปนซีก็เป็นดาราอารมณ์ดีที่ออกมาโชว์ตัวให้เราเห็นโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวยูกันดา ผมคิดว่าไม่น่าพลาดที่นี่เช่นกันครับ
สนใจร่วมเดินทางไปเที่ยวยูกันดากับผู้เขียน
เรามีจัดทริปการเดินทางให้กับท่านที่สนใจการเดินทางแบบนี้ เรายินดีเป็นผู้ทำความฝันของคุณให้เป็นความจริง ทริปการเดินทางของเราเหมือนกับงานศิลปะหนึ่งชิ้นที่ได้รับการออกแบบดีไซน์และตกแต่งจนกลายเป็นสุนทรียภาพแห่งการเดินทางที่แท้จริง
ไม่ว่าท่านจะมาคนเดียว เป็นคู่ เป็นครอบครัว ก็ลงตัวด้วยการจัดสรรที่จะมอบความทรงจำที่ไม่มีวันลืม
ติดตามแผนการเดินทางประจำปี พ.ศ.2565 เป็นต้นไปได้ที่นี่
ทริปแห่งความทรงจำ ล้ำค่าไปด้วยประวัติศาสตร์ขนานแท้ รอคุณมาค้นพบด้วยตัวคุณเอง
หรือถ้าหากท่านต้องการให้เราจัดกลุ่มส่วนตัวสำหรับครอบครัวของท่าน เราก็ยินดีเช่นกันเพื่อจะทำให้การเดินทางข้ามทวีปครั้งนี้เป็นความทรงจำที่ดีแบบไม่มีวันลืม
- สอบถามเพิ่มเติม โทร : 096 640 4534
- แอด Line : https://line.me/R/ti/p/%40patourlogy