เที่ยวกรีนแลนด์ Greenland ดินแดนสีขาวสุดขอบโลกกับความหนาวติดลบ ประเทศทางตอนเหนือสุดของทวีป ดินแดนแห่งธารน้ำแข็ง ภูเขาน้ำแข็ง พระอาทิตย์เที่ยงคืน ตำนานนางเงือกและแสงเหนือออโรร่า
ครั้งนี้เราจะพาคุณเดินทางไปในพื้นที่สุดขอบโลกที่ยังมีคนอาศัยอยู่ ณ กรีนแลนด์ (Greenland) เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก พื้นที่ประมาณ 2,175,900 ตารางกิโลเมตร กับ 1 ใน 3 ของประเทศที่เป็นน้ำแข็ง ไปสัมผัสความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ก้อนน้ำแข็งที่เคลื่อนตัวผ่านทะเล การเดินบนธารน้ำแข็งสุดตื่นเต้น คริสทีเนีย ดินแดนเสรีชน และสัมผัสวิธีชีวิตของคน ชาวอินูอิต (Inuits)
การท่องเที่ยวในดินแดนอันหนาวเหน็บบนเกาะกรีนแลนด์ใน ช่วงต้นฤดูหนาวหรือประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนตุลาคม จึงถือได้ว่าเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด …อากาศที่ไม่หนาวมากจนเกินไป บวกกับการมองเห็นแสงเหนือออโรร่าได้ง่าย หากท้องฟ้าโปร่งใส
ที่ กรีนแลนด์(Greenland) เราจะพบก้อนน้ำแข็งมากมาย ขนาดน้อยใหญ่แตกต่างกันไป
กรีนแลนด์ ดินแดนแห่ง Big Iceberg
ภูเขาหรือก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่มหึมา ที่มีส่วนที่ลอยน้ำเพียงแค่ 10% นอกจากนั้นเป็นส่วนจมอยู่ใต้น้ำ ความงดงามของธารน้ำแข็งที่แฝงมาด้วยความน่ากลัวที่อยู่เบื้องล่าง ทำให้ดินแดนกรีนแลนด์มีกลิ่นอายของการผจญภัยตั้งแต่เพียงแค่ได้ยินชื่อ
ว่าด้วยเรื่องของการทำวีซ่า “Valid for Greenland” เที่ยวกรีนแลนด์
“กรีนแลนด์” เป็นประเทศที่ถือว่าอยู่การปกครองของประเทศเดนมาร์ค ดังนั้นแล้วการทำวีซ่า ขั้นตอนวิธีการ การเตรียมเอกสารต่างๆ ล้วนมีความเหมือนกับการไปยื่นวีซ่าที่สถานทูตเดนมาร์คทุกประการ (ซึ่งรวมถึงผู้ที่จะไปไอซ์แลนด์ด้วย เพราะเดนมาร์คเป็นผู้รับดูแลกิจการของไอซ์แลนด์ทั้งหมดในประเทศไทยครับ)
การทำวีซ่ากรีนแลนด์ปัจจุบัน ถือว่าทำได้ค่อนข้างง่ายมาก ทุกท่านสามารถทำผ่านขั้นตอนของทาง VFS Global ได้ผ่านทางเว็บออนไลน์ โดยขั้นตอนในปัจจุบันนี้ (สิงหาคม 2563) จะมีเปลี่ยนแปลงตรงที่ ต้องมีการยื่นเอกสารออนไลน์เองผ่านหน้าเว็บไซต์สถานทูตเดนมาร์ค แล้วค่อยไปส่งเอกสารที่ VFS Global อีกครั้ง ซึ่งทำให้เราไม่ต้องเขียนใส่ฟอร์มกระดาษเหมือนแต่ก่อน แต่นั่นทำให้ขั้นตอนทั้งหมดกลายเป็นระบบคอมพิวเตอร์หมดแล้ว
และที่สำคัญอย่าลืม!!! เช็ควีซ่าทุกครั้งหลังได้มาว่า มีคำว่า “Valid for Greenland” หรือไม่ ซึ่งจะชี้เป็นชี้ตายว่าเราจะได้ไปไม่ได้ไปก็ตรงนี้ละครับ
เกือบทั้งหมดที่จะเดินทางไปกรีนแลนด์ต้องมาเริ่มต้นที่โคเปนเฮเกน ด้วยเหตุผลที่ว่า สายการบิน Air Greenland นั้น เป็นเพียงสายการบินเดียวที่จะพาเราไปกรีนแลนด์จากฝั่งแผ่นดินทวีปยุโรปได้ และมีเพียงโคเปนเฮเกน เมืองเดียวเท่านั้นที่สายการบินนี้ทำการอยู่ เราจึงต้องเดินทางมาโคเปนเฮเกนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม โคเปนเฮเกน (Copenhagen) เมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเดนมาร์กและเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญ เช่น รัฐสภา รัฐบาล พระราชวัง ถือได้ว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่เมืองหนึ่งในยุโรป จึงเป็นจุดหมายที่เหมาะกับการแวะพักก่อนเข้ากรีนแลนด์เป็นอย่างยิ่ง
สถานที่ท่องเที่ยวโคเปนเฮเกน สำหรับ 1 วันก็คงจะหนีไม่พ้นการไปดู โบสถ์ ปราสาท วังต่างๆที่ถือว่าสวยงามเหมาะกับการไปเดินเล่นเป็นอย่างยิ่ง
ท่าเรือนูฮาว (Nyhavn) ท่าเรือที่มีการแต่งแต้มสี เติมสีสันให้ภาพเรือที่ดูทะมึนตึง กลับมีชีวิตชีวา ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่กลางเมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ใกล้กันมีรูปปั้น Little Mermaid เรื่องเล่าตำนานนางเอกที่เล่าส่งต่อกันมาหลายชั่วอายุคน ป้อมทหารเก่า วังโบราณ ในภาพยนตร์เรื่อง Danish girl
นอกจากนั้นกรุงโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ยังมี ถนนสตอรยก์ (Strøget) ถนนคนเดินที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งทั้งสองฝั่งถนนเติมไปด้วยร้านขายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง อาทิ Louise Vuitton, Prada, Gucci, Bottega Veneta, และ Hermes เป็นต้น
สำหรับคนที่อยากมาหาสถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆ ดินแดนเล็กๆแห่งหนึ่งกลางกรุงโคเปนเฮเก้น ชื่อว่า เมือง คริสเตียเนีย (Christiania) ดินแดนเสรีชน สถานที่ไม่มีกฎหมาย นับถือธรรมชาติ และมี กฎหมู่สั้นๆเพียง 3 ข้อ คือ Have fun, Don’t Run, No Photos ในกฎหมู่คงแฝงไปด้วยคำสอน คือการมีความสุข เดินเพื่อมองเห็นความสวยงามรอบข้างไม่ต้องวิ่งไม่ต้องรีบร้อน ส่วนการห้ามถ่ายภาพคงเป็นเพราะว่า ณ สถานที่แห่งนี้ กัญชา เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย การค้า เสพ เป็นเรื่องเสรี เดินไปยิ้มไปหัวเราะไป นับเป็นเมืองที่เหมาะกับการ Slow life ที่แท้จริง
ข้ามมหาสมุทรสู่อิลูลิชแซต (Ilulisat) กรีนแลนด์ (Greenland) เริ่มต้นเที่ยวกรีนแลนด์
ด้วยความใหญ่ของเกาะกรีนแลนด์ ทำให้การเดินทางทุกอย่างต้องทำโดย “เครื่องบิน” เกือบจะ 100% ถนนหนทางมีอยู่เฉพาะในเขตเมืองเท่านั้น ออกนอกเมืองไปก็จะกลายเป็น off-road ก่อนที่ถนนจะค่อยๆหายไปจนกลายเป็นป่าหรือทุ่งน้ำแข็ง และการท่องเที่ยวกรีนแลนด์โดยส่วนใหญ่จะเน้นที่ฝั่งตะวันตกของเกาะเป็นหลัก เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในระยะที่ไม่ไกลกันมากนัก และเป็นบริเวณที่ๆมีผู้คนอาศัยอยู่เยอะที่สุด (ซึ่งก็ยังถือว่าน้อยมากๆอยู่ดีเมื่อเทียบกับมาตรฐานเมืองปกติ)
เมืองอิลูลิชแซต (Ilulissat) เมืองท่องเที่ยวสำคัญ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย มีมรดกโลกทางธรรมชาติอย่าง อิลูลิชแซต ไอซ์ฟยอร์ด (Ice fjord) ความยาวกว่า 70 กิโลเมตร สถานที่เต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็ง และภูเขาน้ำแข็งมากมายในฤดูหนาวสีสันที่สดใสของบ้าน ตัดกับสีขาวของหิมะ คล้ายภาพหมู่บ้านในการ์ตูนของเด็ก
Hiking “The World Heritage Trail” เดินชมธารน้ำแข็งเส้นทางมรดกโลก
สถานที่ที่ไม่มีถนนเข้าถึง อาศัยการเดินเท่านั้น เส้นทางบนสะพานไม้ที่ทอดยาวตลอดแนว ที่ บริเวณ Sermermiut มีการขุดพบหลักฐานทางประวิติศาสตร์อายุกว่า 4,000 ปีความยิ่งใหญ่ของ ฟยอร์ดน้ำแข็งอิลูลิชแซต (Illulissat Ice fjord) ซึ่งจะพาไปสู่แหลมที่จะสามารถมองเห็นภูเขาน้ำแข็งตั้งตระหง่านทอดแนวยาวคู่ขนานกับชายฝั่งด้านใต้น้ำเป็นภาพประติมากรรมอันน่าทึ่งของภูเขาน้ำแข็งขาวโผลนไปสุดลูกหูลูกตา เสน่ห์ของเมืองนี้ คือ เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ รวมไปถึงวัฒนธรรมของชาวกรีนแลนด์ดิก ท่าเรือของชาวประมง และอุตสาหกรรมการประมงอันทันสมัย เป็นแหล่งอาหารรวมถึงการส่งออก
ที่สุดของการเที่ยวกรีนแลนด์คงไม่พ้นการได้ ล่องเรือชมภูเขาน้ำแข็ง ดื่มด่ำบรรยากาศสีขาวโผลนสองข้างทางของ Iceberg, Glacier น้อยใหญ่ ชวนให้จินตนาการถึงความยิ่งใหญ่ของส่วนที่มองไม่เห็นซึ่่งจมอยู่ด้านใต้มหาสมุทร
Hotel Arctic ห้องราคาหลักหมื่นแต่วิวราคาหลักล้าน
เมืองอิลูลิชแซต มีโรงแรมอยู่หลายแห่งก็จริง แต่ถ้าให้แนะนำว่าต้องมาพักที่ไหนแล้ว เห็นที่จะไม่พ้นโรงแรมแห่งนี้คือ
ที่นี่คือ Hotel Arctic โรงแรมในเครือข่ายเดียวกันกับสายการบิน Air Greenland เจ้าเก่า ชัยภูมิของโรงแรมนี้ตั้งอยู่บนเนินเขามองออกไปเห็น ฟยอร์ดน้ำแข็งอิลูลิชแซต (Illulissat Ice fjord) แบบจากหน้าต่างห้องนอนเลยทีเดียว โดยห้องนอนทุกห้องจะหันหน้าออกเข้าสู่ทะเลทั้งหมด ที่นี่เป็นหนึ่งในโรงแรมระดับ 4 ดาวที่ตั้งอยู่เหนือสุดของโลก โรงแรมแห่งนี้รองรับแขกระดับ super VVIP มาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เช่น ระดับเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ถ้าท่านได้มาพักที่นี่ก็ไม่ต่าง VVIP เช่นกัน
นุก (Nuuk) เมืองใหญ่สุดของกรีนแลนด์ ที่เพียบพร้อมไปด้วยความเจริญเทียบเท่าเมืองในยุโรป ประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญ ๆ มากมาย เช่น มหาวิทยาลัยกรีนแลนด์, สนามกีฬาแห่งชาติ, หอสมุด, รัฐสภา และ ศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรม เป็นต้น
เมืองหลวงแห่งนี้มีประชากรเพียงประมาณ 15,000 คนเท่านั้น (แต่ก็ยังคิดเป็นถึง 1/4 ประชากรทั้งประเทศ) ทำให้เป็นเมืองหลวงที่มีประชากรน้อยที่สุดของโลก เล็กขนาดเราสามารถเดินทั่วเมืองได้โดยเท้าสองข้างของเรา แต่ถึงจะเล็กขนาดนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆก็ยังคงมี แม้กระทั่งห้างสรรพสินค้าครับ
ตัวเมือง Nuuk นั้นถูกตั้งมาตั้งแต่สมัย ค.ศ. 1782 โดยมิชชันนารีชาวเดนิชนามว่า Hans Egede ซึ่งกลายเป็นบุคคลสำคัญของประเทศ เราจะเห็นชื่อเขาได้ทั่วไปตามโรงแรม ถนน ต่างๆ โดยในช่วงแรกของการสร้างเมืองนั้น เขตเมืองเก่าจะอยู่บริเวณริมอ่าวและบ้านเรือนจะถูกแต่งแต้มสีสรรในรูปแบบของชาวสแกนดิเนเวียน ในขณะที่ในเขตเมืองใหม่จะเป็นอาคารพาณิชย์รวมถึงตึกสูงต่างๆ
นุกฟยอร์ด (Nuuk Fjord)
เมืองเดียวของกรีนแลนด์ที่มีสนามบินที่มีขนาดใหญ่พอที่จะให้ เครื่องบินจากภาคพื้นทวีปยุโรปสามารถลงจอดได้ คังเกอร์ลุสซวก (Kangerlussuaq) เป็นเมืองที่เกิดจากผลลัพธ์ของสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ทางกองทัพสหรัฐอเมริกาได้มาตั้งฐานทัพอากาศที่กรีนแลนด์เพื่อเป็นหน่วยสนับสนุนการรบของฝ่ายสัมพันธมิตร ทำให้เกิดการสร้างสนามบินมาตรฐาน ณ เมืองแห่งนี้ หรือในชื่อ Sondrestrom Air Base ในเวลานั้น
ประชากรในเมืองนี้มีเพียงประมาณ 500-600 คน ซึ่งจะมากน้อยแปรผันไปตามแต่ในฤดูกาล และในช่วงฤดูร้อนเมืองนี้จะคึกคักเป็นพิเศษเนื่องจากเหล่าทหารอเมริกันจะเดินทางฝึกการรบ ณ เมืองแห่งนี้ ทำให้เศรษฐกิจของเมืองนี้ขึ้นอยู่กับธุรกิจการบินเป็นหลัก รวมถึงเรื่องของการท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยเฉพาะการเข้าถึง Greenlandic Ice sheet ชั้นน้ำแข็งที่ปกคลุมพื้นโลก ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากแอนตาร์กติกา
ธารน้ำแข็งรัสเซล(Russel Glacier)
หน้าผาน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่สูงกว่า 60 เมตร เดินบนธารน้ำแข็ง ความอลังการรอบทิศทาง 360 องศา ระหว่างทาง ผ่านทุ่งหญ้าทุนดรา ที่สามารถพบ Musk ox และเรนเดียร์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ
Ice Cap Point 660
Greenlandic Ice Sheet กรีนแลนดิคไอซ์ชีต คือ ประติมากรรมธรรมชาติบนพื้นพิภพที่ถูกสร้างมาหลายล้านปีมีส่วนประกอบไปด้วย หิมะ น้ำแข็ง ก๊าซ ละออง หรือ ของเหลวที่มารวมตัวกัน ถึงแม้เบื้องบนจะดูเหมือนพื้นน้ำแข็งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่เบื้องล่างไอซ์ชีตผืนนี้ไม่ต่างจากสิ่งมีชีวิตมีวงรอบของการดำรงอยู่ มีการเจริญเติบโต มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา โดยน้ำแข็งเหล่านี้จะเคลื่อนไหวตัวอย่างช้าๆเข้าสู่ทะเลในทุกๆวัน ความหนาโดยเฉลี่ยของผืนน้ำแข็งแห่งนี้คือ 2-3 กิโลเมตร
Ice Cap Point 660 คือจุดที่เป็นไอซ์ชีตที่เราสามารถเดินเข้าไปได้ด้วยรถยนต์ที่สมบุกสมบันผ่านทะเลทราย ทะเลสาบ และหุบเขาต่างๆ ก่อนที่จะทอดตัวลงสู่ผืนน้ำแข็งอันยิ่งใหญ่ การได้มาเดินบนแผ่นน้ำแข็งนี้จะให้อารมณ์เสมือนหนึ่งว่าเราไม่ได้เดินอยูบนโลกใบนี้
แสงเหนือที่กรีนแลนด์
ด้วยจุดยุทธศาสตร์ของเกาะที่ตั้งอยู่ใกล้บริเวณขั้นโลกขั้นสูงสุด เกาะกรีนแลนด์จึงเป็นแหล่งสนามแม่เหล็กโลกพลังงานสูงที่คอยดูดอนุภาคจากบริเวณส่วนต่างๆของโลกมารวมกันที่พื้นที่เหล่านี้
แหล่งงานที่เราไม่อาจสัมผัสได้ด้วยความรู้สึกทางกาย แต่พลังงานเหล่านี้ได้แปรสภาพเป็นความมหัศจรรย์บนท้องฟ้าที่ออกมาในรูปร่างของ “แสงเหนือ” ที่มีความรุนแรงและเห็นได้ชัดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่อื่นๆของโลก อาจต้องพึ่งพาพลังงานของลมสุริยะต้นกำเนิดของแสงเหนือในระดับปานกลางถึงสูง แต่นั่นไม่ใช่สำหรับเกาะกรีนแลนด์ที่ขอเพียงแค่แรงกระเพื่อมเล็กน้อยจากดวงอาทิตย์เรา แสงเหนือก็พร้อมจะโชว์ตัวให้เราได้แทบจะทุกวินาที
และควรทราบอีกอย่างหนึ่งว่า “กรีนแลนด์” เป็นหนึ่งในพื้นที่ๆมีวันที่ฟ้าใสจำนวนวันมากกว่าใครๆ นับได้เป็นร้อยวันต่อปี มลภาวะทางแสงก็ถือว่าน้อยมากๆ จึงทำให้กรีนแลนด์ ได้รับการยกให้เป็น “สุดยอดสถานที่ชมแสงเหนือ” อันดับต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้ครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาวสามารถเเห็นแสงเหนือได้ง่ายเกือบแทบทุกคืนทั้งนี้ขึ้นกับสภาพอากาศและระดับความแรงนั่นเอง!
เที่ยวกรีนแลนด์ (Greenland) ดินแดนสีขาวสุดขอบโลกกับความหนาวติดลบ พื้นที่สุดขอบโลกที่ยังมีคนอาศัยอยู่ สัมผัสความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ก้อนน้ำแข็งที่เคลื่อนตัวผ่านทะเล การเดินบนธารน้ำแข็งสุดตื่นเต้น และวิธีชีวิตของคน ชาวอินูอิต (Inuits)
ออกไปตามหาฝัน
ออกจากพื้นที่เดิมๆ
ออกไปพบเจอสิ่งใหม่ๆ
เรายินดีที่จะพาคุณไปตามทริปในฝันที่คุณสามารถออกแบบได้เอง
แผนการเดินทางมาตรฐานกรีนแลนด์
สำหรับระยะเวลาเดินทางที่เหมาะสมในประเทศกรีนแลนด์นั้น ขั้นต่ำต้องมีเวลาค้างคืนที่กรีนแลนด์อย่างน้อย 7 คืน ซึ่งถ้ารวมระยะเวลาเดินทาง ไป/กลับ จากกรุงเทพแล้วนั้น ก็จะต้องใช้เวลาร่วมๆ 11 วัน เป็นอย่างน้อย ไม่แนะนำให้เดินทางด้วยเวลาที่น้อยกว่านี้ เพราะด้วยระยะทางที่ไกล เวลาที่แตกต่างกับเราค่อนข้างมาก เราจึงควรมีเวลาให้กับสถานที่แห่งนี้ให้มากที่สุด แผนการเดินทางที่เหมาะสมจึงสัมพันธ์กับไฟลต์ที่ต้องออกแบบได้อย่างลงตัว
สนใจร่วมเดินทางกับพวกเรา
เรามีจัดทริปการเดินทางให้กับท่านที่สนใจการเดินทางแบบนี้ การเดินทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียความฝันของทุกคน เรายินดีเป็นผู้ทำความฝันของคุณให้เป็นความจริง ทริปการเดินทางของเราเหมือนกับงานศิลปะหนึ่งชิ้นที่ได้รับการออกแบบดีไซน์และตกแต่งจนกลายเป็นสุนทรียภาพแห่งการเดินทางที่แท้จริง
ไม่ว่าท่านจะมาคนเดียว เป็นคู่ เป็นครอบครัว ก็ลงตัวด้วยการจัดสรรที่พักทอย่างสะดวกสบาย
ติดตามแผนการเดินทางประจำปี พ.ศ.2565 เป็นต้นไปได้ที่นี่
หรือถ้าหากท่านต้องการให้เราจัดกลุ่มส่วนตัวสำหรับครอบครัวของท่าน เราก็ยินดีเช่นกันเพื่อจะทำให้การเดินทางข้ามทวีปครั้งนี้เป็นความทรงจำที่ดีแบบไม่มีวันลืม
- สอบถามเพิ่มเติม โทร : 096 640 4534
- แอด Line : https://line.me/R/ti/p/%40patourlogy
3 Comments
ไม่เรียกคนกรีนแลนด์ว่าเอสกิโมนะคะ. เรียกว่า Inuit ( อีนูอิท) ถ้าเรียกเอสกิโม คนที่นี่ถือว่าเหยียดเค้าค่ะ เราอยุ่ที่Ilulissat สิบกว่าปีแล้วค่ะ
ขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ ได้แก้ไขข้อความให้เหมาะสมแล้วครับ