หากคุณเป็นนักเดินทางที่หลงใหลในการสำรวจดินแดนที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก เกาะ เหล่านี้อาจเป็นตัวเลือกที่น่าทึ่งสำหรับการเดินทางครั้งต่อไป แต่ละเกาะในรายการนี้มีความสวยงามที่แตกต่างกัน ทั้งธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์และบรรยากาศที่เงียบสงบที่ไม่เหมือนใคร มารู้จัก 10 เกาะลับที่อาจไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่เต็มไปด้วยความสวยสะกดใจที่จะทำให้คุณต้องตกหลุมรัก
- 1. เกาะโซโคตรา (Socotra) – เยเมน
- 2. เกาะโอโรนา (Orona Island) – คิริบาส
- 3. เกาะอามามิ โอชิมะ (Amami Oshima) – ญี่ปุ่น
- 4. เกาะฟลอเรอานา (Floreana Island) – เอกวาดอร์
- 5. เกาะโมโนร์ก้า (Menorca) – สเปน
- 6. เกาะอัลแดบรา (Aldabra Atoll) – เซเชลส์
- 7. เกาะบูราฮารา (Burahrah Island) – อินโดนีเซีย
- 8. เกาะอิชิเกอากิ (Ishigaki Island) – ญี่ปุ่น
- 9. เกาะคอนดาโด (Condado Island) – ฟิลิปปินส์
- 10. เกาะโคนเซฟชั่น (Conception Island) – บาฮามาส
- สรุป
1. เกาะโซโคตรา (Socotra) – เยเมน
เกาะโซโคตรา ตั้งอยู่ห่างจากแหลมโซมาเลียในมหาสมุทรอินเดีย เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยเมน เกาะนี้ถูกขนานนามว่าเป็น “เกาะแห่งพืชแปลก” ด้วยลักษณะภูมิประเทศและพืชพันธุ์ที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก สิ่งที่โดดเด่นที่สุดบนเกาะโซโคตราคือต้น “ดราโกนส์ บลัด” (Dragon’s Blood Tree) ซึ่งเป็นต้นไม้รูปทรงแปลกตาที่มียางสีแดงคล้ายเลือด ชาวพื้นเมืองเชื่อว่ายางนี้มีสรรพคุณในการรักษาโรคและใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา
นอกจากต้นดราโกนส์ บลัด เกาะโซโคตรายังมีพืชพรรณที่หายากอื่นๆ เช่น ต้นยูกาลิปตัสพันธุ์ Socotran และพืชหลายชนิดที่พัฒนามาจากการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมที่ร้อนและแห้งแล้ง เกาะนี้ยังมีชายหาดที่สวยงามและแนวปะการังที่เหมาะแก่การดำน้ำ นักเดินทางที่มาเยือนโซโคตราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร และได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจซึ่งไม่ได้พบเห็นได้ง่ายในที่อื่นๆ
2. เกาะโอโรนา (Orona Island) – คิริบาส
เกาะโอโรนา หรือที่ชาวพื้นเมืองเรียกว่า “อารันกา” (Aranuka) เป็นเกาะที่ซ่อนตัวอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ใกล้เขตร้อนของประเทศคิริบาส พื้นที่ของเกาะโอโรนาส่วนใหญ่ยังคงความบริสุทธิ์และไม่ได้ถูกพัฒนามากนัก ส่งผลให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นปะการังสีสันสดใส ปลาสายพันธุ์หายาก รวมถึงนกทะเลที่หากินตามแนวชายฝั่ง นอกจากนี้ เกาะนี้ยังมีหาดทรายขาวสะอาดและน้ำทะเลใสแจ๋วที่มองเห็นพื้นทรายใต้น้ำได้อย่างชัดเจน
เกาะโอโรนาไม่มีประชากรอยู่อาศัยถาวร และการเข้าถึงเป็นไปอย่างยากลำบาก ทำให้เกาะนี้เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบไร้สิ่งรบกวน สถานที่แห่งนี้จึงมีความสงบและสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติได้อย่างแท้จริง เหมาะสำหรับการหลีกหนีความวุ่นวายของชีวิตในเมือง
3. เกาะอามามิ โอชิมะ (Amami Oshima) – ญี่ปุ่น
เกาะ อามามิ โอชิมะ ตั้งอยู่ในเขตคาโกชิมะของญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในหมู่เกาะที่ยังคงความงดงามและเป็นธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่น เกาะนี้เต็มไปด้วยชายหาดสีขาวและน้ำทะเลใส มีป่าทรอปิคอลที่หนาแน่นและเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหายาก เช่น กระรอกอามามิสีดำและนกสายพันธุ์หายากหลายชนิด
นอกจากการเที่ยวชมธรรมชาติแล้ว เกาะอามามิยังมีวัฒนธรรมที่หลากหลายและเฉพาะตัว ชาวพื้นเมืองบนเกาะยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมและมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัย สามารถดำน้ำดูปะการังที่อุดมสมบูรณ์รอบเกาะ หรือเดินป่าเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติที่ยังไม่ถูกแตะต้อง การมาท่องเที่ยวที่เกาะอามามิ โอชิมะจึงเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจและยากที่จะลืม
4. เกาะฟลอเรอานา (Floreana Island) – เอกวาดอร์
เกาะฟลอเรอานาเป็นหนึ่งในเกาะที่เก่าแก่ที่สุดในหมู่เกาะกาลาปากอส ประเทศเอกวาดอร์ แม้จะไม่เป็นที่รู้จักมากเท่ากับเกาะอิซาเบลลา (Isabela) หรือซานตาครูซ (Santa Cruz) แต่ฟลอเรอานากลับมีเอกลักษณ์และความงามที่เงียบสงบเหมาะสำหรับการพักผ่อน เกาะนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติอันสมบูรณ์และเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์หายาก เช่น เต่ายักษ์กาลาปากอสและฟลามิงโกที่สามารถพบได้ในบึงน้ำเค็มภายในเกาะ
นอกจากนี้ เกาะฟลอเรอานายังเป็นที่โปรดปรานของนักดำน้ำที่ต้องการสำรวจโลกใต้ทะเลที่มีปลาฉลามหัวค้อน ปลากระเบน และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลหลากหลายชนิด บรรยากาศบนเกาะนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลบหนีจากความวุ่นวายของชีวิตในเมืองและอยากสัมผัสกับธรรมชาติที่เงียบสงบและเป็นเอกลักษณ์ เกาะฟลอเรอานาอาจไม่ใช่สถานที่ที่พลุกพล่าน แต่ก็เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าค้นหาสำหรับคนรักธรรมชาติ
5. เกาะโมโนร์ก้า (Menorca) – สเปน
เกาะโมโนร์ก้าเป็นหนึ่งในหมู่เกาะแบลีแอริก (Balearic Islands) ของสเปน ซึ่งรวมถึงเกาะมาจอร์กา (Mallorca) และอิบิซา (Ibiza) อย่างไรก็ตาม โมโนร์ก้ายังคงความเงียบสงบและไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากเท่ากับเกาะในเครือเดียวกัน เกาะนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาความเป็นธรรมชาติและบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ด้วยชายหาดที่งดงามและน้ำทะเลสีฟ้าใส โดยเฉพาะหาด Macarella และหาด Mitjana ซึ่งเป็นจุดที่สามารถพักผ่อนและดื่มด่ำกับทิวทัศน์ธรรมชาติอันเงียบสงบได้อย่างเต็มที่
นอกจากชายหาดที่สวยงามแล้ว โมโนร์ก้ายังมีเส้นทางเดินป่าและเส้นทางจักรยานที่ทอดยาวตลอดแนวชายฝั่ง นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจทิวทัศน์บนยอดเขา หรือลงไปสำรวจถ้ำหินปูนตามแนวชายหาดที่ซ่อนตัวอยู่หลายจุด เกาะโมโนร์ก้าจึงเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายและสัมผัสธรรมชาติที่บริสุทธิ์ของสเปน
6. เกาะอัลแดบรา (Aldabra Atoll) – เซเชลส์
เกาะอัลแดบราเป็นหมู่เกาะปะการังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดียและเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเซเชลส์ หมู่เกาะแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เนื่องจากความหลากหลายทางธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์อย่างมาก เกาะอัลแดบรานี้เป็นที่อยู่อาศัยของเต่ายักษ์อัลแดบรา ซึ่งเป็นพันธุ์เต่าที่หายากและไม่พบในที่อื่น โดยมีประชากรมากกว่า 100,000 ตัว นอกจากนี้ยังมีสัตว์และพืชเฉพาะถิ่นมากมาย เช่น นกพันธุ์หายาก สัตว์น้ำ และปะการังหลายชนิด
การเดินทางไปยังเกาะอัลแดบรานั้นไม่ง่ายนัก เนื่องจากความห่างไกลและการควบคุมการเข้าถึงเพื่อรักษาสมดุลทางนิเวศวิทยา แต่สำหรับผู้ที่มีโอกาสได้มาเยือน จะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่แทบไม่เคยถูกแตะต้อง และได้รับประสบการณ์พิเศษในการอยู่ร่วมกับสัตว์ที่น่าทึ่งในสิ่งแวดล้อมที่ยังคงความสมบูรณ์ เกาะอัลแดบราคือสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบเงียบสงบ และเป็นจุดหมายปลายทางที่แฝงไปด้วยความลึกลับและความมหัศจรรย์
7. เกาะบูราฮารา (Burahrah Island) – อินโดนีเซีย
เกาะบูราฮารา ตั้งอยู่ในหมู่เกาะอินโดนีเซีย ถือเป็นเกาะที่ยังคงความเงียบสงบและไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่สวยงามและธรรมชาติที่สมบูรณ์ เกาะบูราฮารามีชื่อเสียงในเรื่องของแนวปะการังหลากสีสันซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่หลากหลาย นักดำน้ำจะได้เห็นปะการังที่คงสภาพสมบูรณ์ ปลาหลากสี และสิ่งมีชีวิตทางทะเลมากมายในน้ำทะเลที่ใสสะอาด
เกาะบูราฮารายังมีชายหาดทรายขาวที่สวยงาม ซึ่งเงียบสงบและเหมาะสำหรับการพักผ่อนหรือการตั้งแคมป์ริมทะเล ในช่วงเย็น นักท่องเที่ยวสามารถชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามบนเส้นขอบฟ้า ทำให้เกาะแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสงบและบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง การมาเยือนเกาะบูราฮาราจึงเหมาะสำหรับผู้ที่รักการสำรวจธรรมชาติและการพักผ่อนในที่เงียบสงบห่างไกลจากความวุ่นวาย
8. เกาะอิชิเกอากิ (Ishigaki Island) – ญี่ปุ่น
เกาะอิชิเกอากิ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะโอกินาวาของญี่ปุ่น ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวรู้จักมากนัก โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แม้ว่าจะมีชื่อเสียงในญี่ปุ่นว่าเป็นสวรรค์ของการดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก เกาะนี้มีแนวปะการังที่งดงามและน้ำทะเลใสสะอาด ทำให้เหมาะสำหรับการดำน้ำเพื่อชมปะการังและสิ่งมีชีวิตทางทะเลต่างๆ เช่น ปลาสีสันสดใส ปลาดาว และเต่าทะเล
เกาะอิชิเกอากิยังมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ซึ่งเหมาะสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกดิน นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินป่าในป่าทรอปิคอลที่ยังคงความเป็นธรรมชาติและไม่ถูกรบกวนจากมนุษย์ สำหรับผู้ที่รักการผจญภัย เกาะอิชิเกอากิยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น การพายเรือคายัคในแม่น้ำมังก์โกรฟ หรือการขึ้นไปชมวิวบนยอดเขา เพื่อสัมผัสกับความสวยงามของเกาะอิชิเกอากิจากมุมสูง
9. เกาะคอนดาโด (Condado Island) – ฟิลิปปินส์
เกาะคอนดาโด เป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในฟิลิปปินส์ ที่นี่มีความสวยงามและธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ เกาะนี้เต็มไปด้วยหาดทรายสีขาวและแนวปะการังที่ยังไม่ถูกทำลาย นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม
เกาะคอนดาโดมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่เหมาะสำหรับการดำน้ำชมปะการังและสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่หลากหลาย ผู้ที่รักการผจญภัยสามารถเดินทางมาที่นี่เพื่อสำรวจแนวปะการังที่ยังคงความสมบูรณ์ หรือเพียงนอนพักผ่อนบนชายหาดที่เงียบสงบ นอกจากนี้ เกาะคอนดาโดยังเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงที่พระอาทิตย์กำลังจะตก ทำให้ภาพที่ได้มีสีสันที่อบอุ่นและเป็นธรรมชาติ
10. เกาะโคนเซฟชั่น (Conception Island) – บาฮามาส
เกาะโคนเซฟชั่น ในบาฮามาส เป็นเกาะที่ได้รับการคุ้มครองและยังคงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศทั้งบนบกและในน้ำ เกาะนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ ทำให้ได้รับการคุ้มครองเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด นักท่องเที่ยวจะได้พบกับธรรมชาติที่ยังคงสวยงาม ทั้งแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ชายหาดสีขาวนวล และน้ำทะเลที่ใสจนสามารถมองเห็นพื้นทรายใต้ทะเล
สิ่งที่ทำให้เกาะโคนเซฟชั่นโดดเด่นก็คือ การที่นักท่องเที่ยวสามารถชมเต่าทะเลที่วางไข่บนชายหาดของเกาะได้ในบางฤดูกาล นอกจากนี้ยังมีปลาหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงโลมาที่มักมาแหวกว่ายใกล้ชายฝั่งของเกาะ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ เกาะโคนเซฟชั่นจึงเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในบรรยากาศที่เงียบสงบ และยังเป็นโอกาสที่ดีในการสัมผัสกับธรรมชาติที่ไม่ถูกรบกวนจากมนุษย์
สรุป
เกาะลับเหล่านี้อาจไม่ได้เป็นที่รู้จักหรือมีชื่อเสียงในวงการท่องเที่ยว แต่ทุกเกาะเต็มไปด้วยความสวยงามและธรรมชาติที่สมบูรณ์ เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสำรวจโลกและสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ห่างไกลจากการท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ การไปเยือนเกาะลับเหล่านี้ควรคำนึงถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติและเคารพสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ธรรมชาติเหล่านี้คงอยู่ต่อไปในอนาคต
ชมบทความท่องเที่ยวอื่นๆได้ที่นี้