พบกับ 10 วิธีประหยัดงบสำหรับการ เที่ยวรอบโลก โดยไม่ต้องใช้งบมาก เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่โดยไม่ต้องจ่ายแพง! บทความนี้จะบอกถึง 10 วิธีที่ช่วยให้คุณ เที่ยวรอบโลก ได้แบบประหยัด พร้อมแนะนำเคล็ดลับที่ทำให้คุณสนุกกับการเดินทางอย่างคุ้มค่าที่สุด
- 1. ใช้เที่ยวบินราคาประหยัด
- 2. พักในที่พักแบบโฮสเทลหรือ Airbnb
- 3. แลกเปลี่ยนบ้านหรือที่พักกับคนท้องถิ่น
- 4. รับงานอาสาสมัครในต่างประเทศ
- 5. ใช้ระบบการแลกเปลี่ยนแรงงาน (Work Exchange)
- 6. เดินทางโดยรถสาธารณะหรือโบกรถ (Hitchhiking)
- 7. เลือกรับประทานอาหารท้องถิ่น
- 8. วางแผนการเดินทางล่วงหน้า
- 9. ใช้แอปพลิเคชันเพื่อค้นหาส่วนลดและข้อเสนอพิเศษ
- 10. เช่าอุปกรณ์และสิ่งของจำเป็นแทนการซื้อ
1. ใช้เที่ยวบินราคาประหยัด
การเลือกใช้สายการบินราคาประหยัด (Low-cost airlines) เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีสายการบินราคาประหยัดหลายแห่งที่ให้บริการทั่วโลก เช่น AirAsia, Ryanair, และ EasyJet ซึ่งมีเที่ยวบินครอบคลุมจุดหมายปลายทางหลายแห่งในเอเชียและยุโรป นอกจากนี้ บางสายการบินยังมีการลดราคาพิเศษและโปรโมชั่นต่างๆ ที่สามารถช่วยให้คุณเดินทางในราคาถูกกว่าปกติ
การตั้งแจ้งเตือนราคาตั๋วกับเว็บไซต์เปรียบเทียบราคา เช่น Skyscanner, Google Flights หรือ Kayak เป็นเทคนิคที่ทำให้คุณได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีโปรโมชั่นพิเศษหรือราคาที่ลดลง ในกรณีที่คุณยืดหยุ่นเวลาเดินทางได้ ควรเลือกเดินทางในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (Low Season) ซึ่งมักจะมีราคาตั๋วและค่าที่พักที่ถูกลง นอกจากนี้ การจองตั๋วล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 เดือนจะเพิ่มโอกาสในการได้ราคาที่คุ้มค่ามากขึ้น
เทคนิคอีกข้อหนึ่งคือการบินด้วยตั๋วแบบต่อเที่ยว (One-way ticket) กับสายการบินที่ต่างกัน เนื่องจากบางครั้งการจองแบบนี้อาจถูกกว่าการซื้อตั๋วไปกลับ (Round trip) กับสายการบินเดียวกัน
2. พักในที่พักแบบโฮสเทลหรือ Airbnb
การเลือกที่พักที่ประหยัดช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการเลือกโรงแรมหรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่ที่ค่าที่พักสูง โฮสเทล เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คเกอร์เพราะมีราคาที่ถูกกว่าโรงแรม โดยบางแห่งยังมีห้องพักส่วนตัวให้เลือกในราคาที่ประหยัดมากกว่า ซึ่งโฮสเทลไม่เพียงแต่เป็นที่พักแต่ยังเป็นสถานที่ที่คุณสามารถพบปะเพื่อนใหม่จากหลากหลายประเทศ การพักร่วมกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ยังสร้างโอกาสให้คุณแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทาง และยังมีโฮสเทลหลายแห่งที่จัดกิจกรรมสำหรับแขกเพื่อสร้างความสนุกสนานและสร้างมิตรภาพ
Airbnb เป็นอีกตัวเลือกที่ประหยัดและหลากหลาย ซึ่งคุณสามารถเลือกที่พักได้ตามงบประมาณและความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักส่วนตัว ห้องพักในบ้านเจ้าของ หรือแม้แต่บ้านทั้งหลังที่เปิดให้เช่า นอกจากนี้ การพักกับเจ้าของบ้านท้องถิ่นยังช่วยให้คุณได้สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของพื้นที่นั้นๆ และบางครั้งเจ้าของบ้านยังช่วยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองนั้นๆ ด้วย
3. แลกเปลี่ยนบ้านหรือที่พักกับคนท้องถิ่น
การแลกเปลี่ยนที่พัก เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว โดยมีแพลตฟอร์มและเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อระหว่างนักเดินทางที่ต้องการแลกเปลี่ยนบ้านกันชั่วคราว เช่น HomeExchange และ Love Home Swap ซึ่งระบบนี้ทำให้คุณสามารถเดินทางและพักในบ้านของคนท้องถิ่นโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่พัก การแลกเปลี่ยนที่พักยังเปิดโอกาสให้คุณได้สำรวจวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น และใช้ชีวิตอย่างแท้จริงในเมืองหรือชุมชนที่คุณไปเยือน
นอกจากนี้ การแลกเปลี่ยนบ้านกับเจ้าของบ้านในประเทศอื่นๆ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นกว่าการพักในโฮสเทลหรือโรงแรม คุณยังสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่บ้านเช่น ห้องครัว และเครื่องซักผ้าได้อย่างเต็มที่ ช่วยประหยัดค่าอาหารและค่าซักรีดระหว่างการเดินทาง
4. รับงานอาสาสมัครในต่างประเทศ
การทำงานอาสาสมัครในต่างประเทศไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่ยังเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ชีวิตในแบบที่ไม่เหมือนใคร หลายองค์กรยินดีรับนักเดินทางที่ต้องการช่วยเหลือสังคมหรือชุมชนในต่างประเทศ โดยมีเว็บไซต์ที่รวบรวมโครงการอาสาสมัคร เช่น Workaway, HelpX และ WWOOF (World Wide Opportunities on Organic Farms) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงนักเดินทางกับฟาร์มและชุมชนที่ต้องการความช่วยเหลือ
โดยทั่วไป การเข้าร่วมโครงการอาสาสมัครจะช่วยให้คุณได้รับที่พักฟรี บางแห่งยังมีการจัดเตรียมอาหารให้ด้วยเช่นกัน คุณอาจได้ทำงานช่วยเหลือในฟาร์ม การสอนภาษาอังกฤษ หรือการทำงานกับชุมชนท้องถิ่น นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางแล้ว คุณยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นและมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับผู้คนในพื้นที่นั้น ๆ การทำงานอาสาสมัครยังเสริมสร้างทักษะใหม่ ๆ ที่อาจมีประโยชน์ในชีวิตประจำวันและช่วยสร้างความสัมพันธ์ใหม่กับเพื่อนต่างชาติ
5. ใช้ระบบการแลกเปลี่ยนแรงงาน (Work Exchange)
การแลกเปลี่ยนแรงงาน หรือ Work Exchange เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเดินทางที่ต้องการพักผ่อนและประหยัดเงินไปพร้อมกัน โดยใช้ทักษะหรือแรงงานของคุณเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนเพื่อรับที่พักและอาหารฟรี เว็บไซต์อย่าง Worldpackers และ Workaway เชื่อมโยงคุณกับโฮสเทล ร้านกาแฟ ฟาร์ม และที่พักต่าง ๆ ที่ต้องการผู้ช่วยงาน เช่น การทำความสะอาด การจัดการร้าน การดูแลสวน หรือการช่วยทำอาหาร
การเข้าร่วมโปรแกรมแลกเปลี่ยนแรงงานเป็นวิธีที่ไม่เพียงแต่ประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลาย คุณอาจได้เรียนรู้วิธีการทำฟาร์มในท้องถิ่นหรือช่วยทำงานในโฮสเทลที่มีแขกจากทั่วทุกมุมโลก การทำงานประเภทนี้มักใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้คุณมีเวลาว่างในการเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง
ข้อดีของการทำงานแลกเปลี่ยนแรงงานคือคุณจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของคนในพื้นที่และเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการสถานที่หรือธุรกิจในท้องถิ่น บางครั้งอาจได้รับทักษะที่เป็นประโยชน์ในอนาคต รวมถึงมีโอกาสสร้างเพื่อนใหม่ที่มาจากทั่วโลก ถือเป็นการเดินทางที่สร้างคุณค่าและประสบการณ์ที่คุ้มค่า
6. เดินทางโดยรถสาธารณะหรือโบกรถ (Hitchhiking)
การเดินทางโดย รถสาธารณะ เช่น รถบัส รถไฟ หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นวิธีที่ประหยัดและสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ระบบขนส่งสาธารณะในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และประเทศในยุโรป มีความสะดวกสบายและเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ได้ง่าย การซื้อตั๋วรายวันหรือรายสัปดาห์สำหรับรถสาธารณะยังช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มาก
อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดค่าเดินทางคือ การโบกรถ (Hitchhiking) แม้จะไม่เป็นที่นิยมในบางประเทศ แต่ในบางที่ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และประเทศในแถบยุโรป การโบกรถเป็นวิธีที่นักท่องเที่ยวเลือกใช้เมื่อเดินทางข้ามเมืองหรือเดินทางไปยังสถานที่ที่ระบบขนส่งสาธารณะเข้าไม่ถึง การโบกรถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก และยังเปิดโอกาสให้คุณได้พบเจอผู้คนท้องถิ่นที่อาจแบ่งปันประสบการณ์และแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ให้คุณได้รู้จัก
ข้อควรระวังสำหรับการโบกรถคือคุณควรพิจารณาความปลอดภัยเป็นสำคัญ ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ที่รับคุณขึ้นรถ และควรเดินทางกับเพื่อนหากเป็นไปได้ การเลือกใช้รถสาธารณะหรือการโบกรถช่วยให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบลึกซึ้งกว่าแค่การเดินทาง
7. เลือกรับประทานอาหารท้องถิ่น
การรับประทานอาหารท้องถิ่นไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากกว่าการทานอาหารในร้านหรูหรือร้านอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ยังช่วยให้คุณได้สัมผัสรสชาติและวัฒนธรรมของประเทศนั้นอย่างแท้จริง การทานอาหารข้างทาง เช่น แผงลอย หรือร้านเล็ก ๆ ที่คนท้องถิ่นนิยมเป็นวิธีที่ดีในการลิ้มรสชาติอาหารแบบดั้งเดิมในราคาย่อมเยา คุณจะได้ลองอาหารอร่อยหลากหลาย เช่น ซุปร้อน ๆ ในเวียดนาม ทาโก้ในเม็กซิโก หรือเครปในฝรั่งเศส
เคล็ดลับในการหาอาหารท้องถิ่นที่คุ้มค่าและอร่อยคือการสอบถามคนในท้องถิ่น หรือใช้แอปพลิเคชันรีวิวร้านอาหารอย่าง Yelp หรือ Google Maps ซึ่งสามารถช่วยให้คุณค้นหาร้านที่นักท่องเที่ยวยังไม่รู้จัก และหากคุณพักในที่พักที่มีครัวส่วนกลางหรือห้องครัวส่วนตัว เช่น โฮสเทลหรือ Airbnb คุณยังสามารถซื้อวัตถุดิบสด ๆ จากตลาดท้องถิ่นแล้วทำอาหารทานเอง ซึ่งช่วยประหยัดเงินและยังให้ประสบการณ์การทำอาหารแบบพื้นเมืองด้วยตัวเอง
8. วางแผนการเดินทางล่วงหน้า
การวางแผนการเดินทางล่วงหน้า เป็นวิธีที่สำคัญในการประหยัดงบประมาณ เพราะคุณจะมีเวลาในการค้นหาข้อเสนอที่ดีที่สุดและยังสามารถวางแผนเส้นทางการเดินทางให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก หรือแม้แต่ตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวล่วงหน้าช่วยให้คุณได้ราคาที่ถูกกว่าการจองในนาทีสุดท้าย นอกจากนี้ การวางแผนยังช่วยลดการเดินทางที่ซ้ำซ้อน ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางภายในประเทศ
อีกเทคนิคหนึ่งที่ช่วยในการวางแผนคือการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวฟรี เช่น พิพิธภัณฑ์หรือสวนสาธารณะบางแห่งที่เปิดให้เข้าฟรีในวันเฉพาะ การวางแผนการท่องเที่ยวรอบ ๆ ช่วงเวลานั้นจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก บางครั้งการเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับ (Day trip) ไปยังสถานที่ใกล้เคียงยังเป็นทางเลือกที่ประหยัดและทำให้คุณสามารถเที่ยวหลาย ๆ ที่ได้ในระยะเวลาอันสั้น
9. ใช้แอปพลิเคชันเพื่อค้นหาส่วนลดและข้อเสนอพิเศษ
ในยุคดิจิทัลแบบนี้ การใช้งานแอปพลิเคชันและเว็บไซต์เพื่อติดตามส่วนลดและข้อเสนอพิเศษเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวได้ แอปอย่าง Klook, GetYourGuide, และ Groupon นั้นมีโปรโมชั่นและส่วนลดสำหรับกิจกรรมท่องเที่ยว ตั๋วเข้าสถานที่สำคัญ และแม้แต่ทัวร์เมือง แอปพลิเคชันเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยคุณค้นหาข้อเสนอที่ดีที่สุด แต่บางครั้งยังให้สิทธิประโยชน์พิเศษ เช่น การเข้าชมแบบ VIP หรือส่วนลดสำหรับกลุ่มเพื่อน
นอกจากนี้ บางแอปพลิเคชันยังมีโปรแกรมสะสมแต้มที่คุณสามารถนำมาแลกเป็นส่วนลดได้ในอนาคต เช่น Agoda Rewards หรือ Booking.com Genius Program ทำให้คุณได้รับประโยชน์มากขึ้นเมื่อใช้บริการบ่อย ๆ แอปเหล่านี้ยังช่วยให้คุณเปรียบเทียบราคาที่พัก ตั๋ว และกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก เพื่อให้คุณเลือกข้อเสนอที่ดีที่สุดและประหยัดเงินไปในตัว
10. เช่าอุปกรณ์และสิ่งของจำเป็นแทนการซื้อ
เมื่อคุณเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องการอุปกรณ์พิเศษ เช่น การแคมป์ปิ้งในป่า การเดินเขา หรือการเล่นกีฬาฤดูหนาวอย่างสกีหรือสโนว์บอร์ด การเช่าอุปกรณ์แทนการซื้อเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดเงินและลดภาระในการขนสัมภาระขณะเดินทาง คุณสามารถเช่าอุปกรณ์ในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้ในราคาที่ไม่แพง โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้งานเพียงครั้งเดียวหรือเฉพาะในบางพื้นที่เท่านั้น
การเช่าอุปกรณ์ยังช่วยให้คุณได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสมกับสถานที่ท่องเที่ยวนั้น ๆ โดยไม่ต้องลงทุนในการซื้อที่มีราคาแพง นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ในการค้นหาสถานที่เช่าอุปกรณ์ในราคาที่คุ้มค่า เช่น Rental Gear หรือ REI Co-op สำหรับอุปกรณ์แคมป์ปิ้งหรือกิจกรรมกลางแจ้ง การเช่าอุปกรณ์ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณประหยัดเงิน แต่ยังทำให้การเดินทางของคุณคล่องตัวขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักสัมภาระ
ด้วยวิธีการทั้ง 10 ข้อนี้ คุณสามารถวางแผนการท่องเที่ยวรอบโลกได้แบบประหยัดโดยไม่ต้องเสียเงินมาก และยังทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่น่าจดจำ แม้ว่าการประหยัดจะเป็นจุดสำคัญ แต่อย่าลืมที่จะสนุกและใช้เวลาให้เต็มที่ในการสัมผัสประสบการณ์และวัฒนธรรมจากทั่วทุกมุมโลก
ชมบทความท่องเที่ยวอื่นๆได้ที่นี้