เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยว “ทะเล” มักเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน เพราะทะเลไม่ได้มีเพียงความสวยงามของน้ำเค็มและชายหาดที่ทอดยาว แต่ยังแฝงไปด้วยวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความหลากหลายทางธรรมชาติอีกมากมาย ในโลกใบนี้ มีทะเลอยู่หลากหลายแห่งที่ถูกขนานนามตาม “สีสัน” ของพวกมัน ซึ่งแต่ละแห่งก็มีเรื่องราวและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันอย่างน่าอัศจรรย์
ทะเลดำ (Black Sea)
ทะเลดำ (Black Sea) ตั้งอยู่ระหว่างยุโรปตะวันออกและเอเชียตะวันตก ครอบคลุมพื้นที่ของหลายประเทศอย่างตุรกี รัสเซีย บัลแกเรีย โรมาเนีย ยูเครน และจอร์เจีย ลักษณะของทะเลดำคือเป็นทะเลปิด (หรือกึ่งปิด) ซึ่งเชื่อมต่อออกสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้ผ่านทางช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus) ในตุรกี และช่องแคบดาร์ดาเนลส์ (Dardanelles) น้ำทะเลที่นี่มักมีสภาพเค็มปานกลางเมื่อเทียบกับทะเลเปิดทั่วไป
ต้นกำเนิดชื่อ “ทะเลดำ”
มีทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับสาเหตุที่ทะเลแห่งนี้ถูกเรียกว่า “ทะเลดำ” บ้างก็ว่ามาจากสภาพอากาศที่แปรปรวนและพายุที่รุนแรง ทำให้น่านน้ำบางส่วนดูมืดครึ้มอยู่เสมอ อีกทฤษฎีหนึ่งบอกว่าอาจเป็นเพราะสีของน้ำทะเลในชั้นลึกหรือเมื่อท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆดำ ส่งผลให้น้ำทะเลสะท้อนแสงจนดูมืดสนิท ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีใด ทะเลดำก็ยังคงเป็นหนึ่งในทะเลที่มีบรรยากาศลึกลับและดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย
ขอบคุณภาพจาก : pierpointcandle
แหล่งท่องเที่ยว
- รีสอร์ทริมทะเล: เมืองชายฝั่งต่าง ๆ รอบทะเลดำ เช่น โซชี (Sochi) ในรัสเซีย และวาร์นา (Varna) ในบัลแกเรีย มีรีสอร์ทระดับโลกที่สามารถให้บริการนักท่องเที่ยวได้อย่างครบครัน
- สำรวจวัฒนธรรมหลายชาติ: เนื่องจากพื้นที่รอบทะเลดำมีประวัติศาสตร์และอารยธรรมผสมผสานกันมายาวนาน นักเดินทางสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมของชนชาติหลากหลายได้อย่างใกล้ชิด
- กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง: ทะเลดำเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการล่องเรือ ตกปลา หรือแม้แต่เล่นกระดานโต้คลื่น (Windsurfing) ในบางฤดูกาล
ด้วยทำเลที่ตั้งอันเป็นเอกลักษณ์และเรื่องราวทางภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย ทะเลดำจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสมนต์ขลังแห่งธรรมชาติผสานกับวัฒนธรรมหลากเชื้อชาติ
ทะเลแดง (Red Sea)
ทะเลแดง (Red Sea) เป็นทะเลที่คั่นระหว่างแอฟริกาและเอเชีย โดยมีประเทศอียิปต์ ซูดาน ซาอุดีอาระเบีย เยเมน โซมาเลีย และจิบูตีล้อมรอบอยู่ บริเวณนี้นับเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือที่สำคัญและคึกคักมากที่สุดในโลก เพราะเชื่อมต่อกับมหาสมุทรอินเดียและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนผ่านคลองสุเอซ นอกจากนี้ ทะเลแดงยังมีคาบสมุทรไซนาย (Sinai Peninsula) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ยาวนาน
ทำไมถึงเรียกว่า “ทะเลแดง”
ทะเลแดงไม่ได้มีสีแดงตลอดเวลาเหมือนชื่อ แต่สีแดงที่ถูกพูดถึงอาจมาจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเป็นครั้งคราว เมื่อมีแพลงก์ตอนหรือสาหร่ายชนิดหนึ่งในน้ำเจริญเติบโตเป็นจำนวนมาก อาจเปลี่ยนสีน้ำทะเลให้ดูออกสีแดง แต่ในวันปกติน้ำทะเลที่นี่จะมีสีน้ำเงินเขียวใสแจ๋ว
จุดดำน้ำระดับโลกและกีฬาทางน้ำ
- ปะการังและโลกใต้ทะเล: ทะเลแดงขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำที่สวยที่สุดในโลก ด้วยแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์และสัตว์ทะเลนานาชนิด เช่น ปลานโปเลียน ปลาการ์ตูน ปลาฉลาม และปลาไหลทะเล
- เมืองดำน้ำยอดนิยม: เมืองชาร์มเอลชีค (Sharm El Sheikh) และฮูร์กาดา (Hurghada) ในอียิปต์ คือจุดหมายที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากใช้เป็นฐานเพื่อออกเรือดำน้ำหรือทดลองกิจกรรมทางน้ำอื่น ๆ
- การแล่นเรือและการท่องเรือยอชต์: ด้วยสภาพอากาศที่แห้งและมีแดดมากกว่า 300 วันต่อปี ทำให้ทะเลแดงเป็นที่นิยมสำหรับผู้รักการแล่นเรือใบและการท่องเรือยอชต์ในบรรยากาศที่สงบแต่ไม่ธรรมดา
ความน่าหลงใหลของทะเลแดงจึงไม่ได้มีเพียงสีของน้ำทะเลเท่านั้น หากยังมีโลกใต้ทะเลสุดตระการตา วัฒนธรรมที่ผสมผสาน และภูมิทัศน์ทะเลทรายอันเป็นเอกลักษณ์ให้คุณได้ค้นหาแบบไม่มีวันหมด
ทะเลขาว (White Sea)
ทะเลขาว (White Sea) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย บริเวณใกล้กับขั้วโลกเหนือ เชื่อมต่อกับทะเลบาเรนต์ส (Barents Sea) ซึ่งอยู่ในมหาสมุทรอาร์กติก จึงทำให้อุณหภูมิบริเวณนี้ค่อนข้างหนาวเย็นเกือบตลอดปี และในช่วงฤดูหนาวน้ำทะเลจะกลายเป็นน้ำแข็งหลายส่วน
เหตุผลของชื่อ “ทะเลขาว”
ลักษณะหนึ่งที่โดดเด่นของทะเลขาวคือ การปกคลุมด้วยน้ำแข็งหรือหิมะเป็นเวลานานในฤดูหนาว ทำให้พื้นที่นี้ดูขาวโพลนอย่างแท้จริง ชื่อนี้จึงอาจมาจากภาพทิวทัศน์ที่เห็นได้ชัดเจนว่าสีขาวของน้ำแข็งและหิมะครอบคลุมทั่วบริเวณ ในขณะที่ช่วงฤดูร้อนที่นี่จะมีหิมะละลายบางส่วน แต่น้ำทะเลก็ยังคงอุณหภูมิต่ำและอากาศเย็นสบาย
กิจกรรมและประสบการณ์สุดพิเศษ
- การชมแสงเหนือ (Aurora Borealis): ด้วยความที่ทะเลขาวอยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ ทำให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้เห็นแสงเหนืออันงดงาม และสามารถเก็บภาพความประทับใจได้เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ง่าย
- การตกปลาน้ำแข็ง (Ice Fishing): ช่วงที่ผิวน้ำทะเลกลายเป็นน้ำแข็งหนา กิจกรรมตกปลาน้ำแข็งเป็นสิ่งที่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวชื่นชอบ คุณจะได้เปิดรูบนแผ่นน้ำแข็งแล้วหย่อนเบ็ดลงไปตกปลาในน้ำเย็นจัดใต้พื้นผิวน้ำแข็ง
- เดินเล่นบนทะเลน้ำแข็ง: ในช่วงที่อากาศหนาวจนทะเลกลายสภาพเป็นลานน้ำแข็งขนาดใหญ่ คุณอาจลองสัมผัสประสบการณ์เดินหรือขับสโนว์โมบิลบนพื้นผิวน้ำแข็ง ชมวิวกว้างไกลสุดสายตาที่ปกคลุมด้วยสีขาว
ทะเลขาวเป็นตัวอย่างของความงดงามในดินแดนหนาวเย็นและเป็นเอกลักษณ์หาชมยาก เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติอันบริสุทธิ์และประสบการณ์ท้าทายขั้วโลกเหนือ
ทะเลเหลือง (Yellow Sea)
ทะเลเหลือง (Yellow Sea) เป็นทะเลตื้นที่คั่นระหว่างประเทศจีนและคาบสมุทรเกาหลี เชื่อมต่อกับทะเลจีนตะวันออก (East China Sea) เดิมทีทะเลเหลืองได้ชื่อมาจากสีของน้ำที่มีลักษณะขุ่นและออกเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล เนื่องจากแม่น้ำใหญ่หลายสาย เช่น แม่น้ำฮวงโห (Huang He) พัดพาตะกอนและโคลนมาสะสมไว้ในทะเลแห่งนี้
ความสำคัญทางเศรษฐกิจ
- ประมง: ด้วยความที่ทะเลเหลืองเป็นแหล่งที่อยู่ของปลาหลากหลายชนิด การประมงจึงเป็นกิจกรรมเศรษฐกิจหลักของทั้งจีนและเกาหลี ชาวประมงนิยมออกหาปลาตลอดทั้งปี
- การขนส่ง: ทะเลเหลืองถือเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญสำหรับการค้าขายระหว่างจีน เกาหลี และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
- ความหลากหลายทางชีวภาพ: แม้ทะเลเหลืองจะมีความตื้น แต่ก็ยังเป็นระบบนิเวศที่พักพิงสัตว์น้ำหลายชนิด และเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญสำหรับนกอพยพที่บินผ่านระหว่างฤดูกาล
สถานที่ท่องเที่ยวรอบทะเลเหลือง
- ชิงเต่า (Qingdao): เมืองชายทะเลของจีนที่มีชื่อเสียงเรื่องเบียร์ (Tsingtao) และสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากยุคอาณานิคมเยอรมัน
- อินชอน (Incheon): เมืองท่าชายฝั่งของเกาหลีใต้ ติดกับทะเลเหลือง โดดเด่นเรื่องความทันสมัย แหล่งช็อปปิ้ง อาหารทะเลสดใหม่ และทางเดินเรียบริมทะเลที่สวยงาม
- ชายหาดและอุทยานธรรมชาติ: รอบทะเลเหลืองมีชายหาดหลายแห่งที่เหมาะแก่การพักผ่อน รวมถึงอุทยานชุ่มน้ำ (Wetland) หลายพื้นที่ ซึ่งเป็นแหล่งอนุรักษ์สัตว์น้ำและนกหายาก
แม้ทะเลเหลืองอาจไม่ได้มีน้ำทะเลสวยใสดุจคริสตัลเหมือนทะเลในเขตร้อน แต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตของผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่ผูกพันกับทะเลแห่งนี้มาหลายพันปี
บทสรุป
“ทะเล” ทั้ง 4 แห่งที่เราได้ทำความรู้จัก – ทะเลดำ ทะเลแดง ทะเลขาว และทะเลเหลือง – ล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แต่ละที่มีทั้งความสวยงามและเสน่ห์ที่ตรึงตาตรึงใจ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมอย่างดำน้ำ ตกปลา หรือเพียงแค่เดินเล่นพักผ่อนริมชายฝั่ง คุณจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และวัฒนธรรมอันหลากหลาย จนทำให้คุณประทับใจแบบไม่มีวันลืม
หากมีโอกาส ลองใส่จุดหมาย “ทะเลหลากสี” แห่งใดแห่งหนึ่งไว้ในลิสต์การท่องเที่ยวครั้งต่อไปของคุณ อาจจะเริ่มจากทะเลแดงที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลโลกใต้ทะเล ออกสำรวจทะเลดำที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท้าความหนาวเย็นกับทะเลขาว เพื่อสัมผัสหิมะและน้ำแข็ง หรือจะดำดิ่งสู่เรื่องราวอันยาวนานของทะเลเหลือง ซึ่งเป็นขุมทรัพย์ด้านประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออก