แม้ว่าทุกวันนี้จะมีข่าวสารบ้านเมืองมากมายให้ได้ติดตาม ทว่าประเด็นที่มีความสำคัญระดับนานาชาติอย่างสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด สงครามที่ปะทุขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาส่งผลกระทบกับประเทศยูเครนอย่างใหญ่หลวง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของยูเครนต้องหยุดชะงักทั้งที่เพิ่งฟื้นตัวจากวิกฤติโควิดได้ไม่นาน
ด้วยเหตุนี้ชาวโลกจึงร่วมกันติดแฮชแท็ก #StandWithUkraine เพื่อรณรงค์ช่วยเหลือคนท้องถิ่นที่ได้รับความเดือดร้อนจากสงคราม ไม่ว่าจะเป็นการจองห้องพักโรงแรมในยูเครนเพื่ออุดหนุนผู้ประกอบการ หรือสั่งซื้องานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แม้จะเป็นความช่วยเหลือเพียงเล็กน้อย แต่รายได้จากงานฝีมือก็ทำให้ผู้คนจากหลายชุมชนสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ในภาวะวิกฤติ
ในวันนี้ ทีมงานพาทัวร์โลจี้ของเราจะพาคุณมารู้จักกับศูนย์กลางงานประดิษฐ์ของแฮนด์เมดที่ขึ้นชื่อที่สุดในยูเครน ที่เมืองยาโวริฟ (Yavoriv) ทางตะวันตกของประเทศ นอกจากงานหัตถกรรมแล้ว ยาโวริฟยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย หากพร้อมแล้วละก็ มารับชมกันได้เลย
รู้จักยาโวริฟ (Yavoriv)
ยาโวริฟเป็นเมืองหนึ่งใน แคว้นลวิฟ (Lviv) ทางตะวันตกของยูเครน เมืองนี้ตั้งอยู่ห่างจากชายแดนยูเครน – โปแลนด์เพียง 15 กิโลเมตรเท่านั้น แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีผู้อาศัยแค่หมื่นกว่าคนในปัจจุบัน ทว่ายาโวริฟกลับเต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นผืนป่า ทิวเขา และบ่อน้ำพุร้อน
ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 เป็นต้นมา ยาโวริฟจึงกลายมาเป็นที่พักตากอากาศยอดนิยมของกษัตริย์และขุนนางโปแลนด์ เมืองนี้ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ชื่นชอบของชนชั้นสูงในยุโรปต่อมา ทว่าด้วยความที่เป็นเมืองชายแดนและจุดยุทธศาสตร์การทหาร ยาโวริฟจึงเผชิญภาวะสงครามและการแย่งชิงดินแดนหลายครั้ง ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 มาจนถึงสงครามรัสเซีย – ยูเครนในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ชาวฮุตซุล (Hutsuls) ชนพื้นเมืองที่อาศัยในพื้นที่ตั้งแต่ครั้งบุพกาลยังคงปักหลักอยู่ในแผ่นดินของบรรพบุรุษ พวกเขาสืบทอดภูมิปัญญารุ่นปู่ย่าตายายในการประดิษฐ์งานฝีมือต่างๆ จนกลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก งานหัตถกรรมฮุตซุลอย่างปุยซังกี (Pysanki) ศิลปะบนเปลือกไข่ หรือลิชนิก (Lizhnyk) ผ้าทอขนสัตว์ลวดลายซับซ้อนกลายเป็นของฝากยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนยูเครนต้องซื้อหากลับไป จึงอาจกล่าวได้ว่า ชาวฮุตซุลเป็นผู้ทำให้ยาโวริฟเป็นที่โด่งดังในสากลโลกเลยก็ว่าได้
หัตถกรรมขึ้นชื่อในยาโวริฟ
ดังที่กล่าวถึงไปในข้างต้น ชาวฮุตซุลเป็นชนพื้นเมืองที่อาศัยบนเทือกเขาคาร์เพเทียน (Carpathian Mountains) มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ศิลปหัตถกรรมของพวกเขาจึงข้องเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนภูเขา งานฝีมือที่ขึ้นชื่อมีดังนี้
ลิชนิก (Lizhnyk)
ลิชนิก (Lizhnyk) เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เชื่อกันว่าถือกำเนิดขึ้นที่เมืองยาโวริฟแห่งนี้ ลิชนิกคือผ้าห่มผืนหนาที่ทอจากขนแกะภูเขาคาร์เพเทียน ชาวยูเครนรู้จักสิ่งทอที่ว่าในชื่อ “ผ้าห่มฮุตซุล” เนื่องจากในอดีต ชาวฮุตซุลจะทอผ้าเพื่อใช้สอยในชุมชนเท่านั้น
นอกจากผ้าห่มหนานุ่มแล้ว ผ้าลิชนิกยังนิยมนำมาคลุมโซฟาหรือม้านั่งเพื่อเสริมสัมผัสนุ่มสบายและให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว ผ้าดังกล่าวจึงถือเป็นสิ่งทออเนกประสงค์ของชาวฮุตซุลเลยก็ว่าได้
ผ้าลิชนิกโดดเด่นด้วยลวดลายเรขาคณิตอันเป็นเอกลักษณ์ ในอดีตชาวฮุตซุลนิยมย้อมด้ายเพียงสีขาว ดำ และเทาเพื่อใช้ทอผ้าห่ม ลิชนิกแบบดั้งเดิมจึงมีสีค่อนข้างขรึม
ชาวฮุตซุลนิยมทอผ้าด้วยด้าย 3 สีนี้จนกระทั่งในทศวรรษที่ 1920 เมื่อคุณครูผู้หนึ่งจากในเมืองย้ายเข้ามาอยู่ในยาโวริฟกับภรรยา ครูผู้นั้นเป็นคนแรกที่แนะนำให้ชาวบ้านลองประดิษฐ์ลวดลายใหม่ๆ และใช้สีสันสดใสในการย้อมเส้นด้าย การเปลี่ยนแปลงครั้งนั้นทำให้ลิชนิกเป็นที่นิยมในยูเครนอย่างกว้างขวาง
และตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930 เป็นต้นมา ชาวฮุตซุลในยาโวริฟก็ประดิษฐ์ลิชนิกเพื่อส่งขาย จนกระทั่งมีรายได้มาจุนเจือครอบครัวและชุมชนต่อไป
ปุยซังกี (Pysanki)
ปุยซังกี (Pysanki) คืองานศิลปะบนเปลือกไข่ที่ขึ้นชื่อในยูเครน ปัจจุบันเปลือกไข่วาดลวดลายกลายเป็นของขวัญในเทศกาลสำคัญอย่างอีสเตอร์ ทว่าในชุมชนฮุตซุล ปุยซังกีกลับมีความสำคัญยิ่งกว่านั้น พวกเขาเชื่อว่าเปลือกไข่หลากสีเป็นเครื่องรางที่ใช้ป้องกันโลกใบนี้จากปีศาจร้ายที่ถูกจองจำ ชาวฮุตซุลจึงประดิษฐ์ปุยซังกีหลายหมื่นใบในแต่ละปีเพื่อเก็บไว้ในครัวเรือนเพื่อคุ้มภัย มอบเป็นของกำนัลแก่เพื่อนบ้าน และวางขายในฐานะของฝากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
ขั้นตอนการทำปุยซังกีมีความยากและซับซ้อน ไข่ไก่จะถูกนำมาทำความสะอาด วาดลวดลายด้วยดินสอ ก่อนลงขี้ผึ้งบนลวดลายเหล่านั้น ช่างฝีมือจะลงสีต่างๆ และละลายขี้ผึ้งระหว่างทำ เมื่อเสร็จสมบูรณ์ดีแล้ว เนื้อไข่ด้านในจะถูกเจาะออก ก่อนนำไปจัดใส่ตะกร้า
ลวดลายที่นิยมทำมีทั้งรูปทรงเรขาคณิต สัตว์ในตำนาน และสัญลักษณ์ทางคริสต์ศิลป์ ปุยซังกีจึงเป็นหนึ่งในของฝากยอดนิยมตลอดกาลของประเทศยูเครน
สถานที่ท่องเที่ยวในยาโวริฟ
นอกจากงานฝีมือโฮมเมดแล้ว ยาโวริฟยังขึ้นชื่อเรื่องแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เราจะพาคุณมารู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญใกล้ตัวเมืองยาโวริฟ ดังนี้
อุทยานแห่งชาติยาโวริฟสกี (Yavorivskyi National Park)
อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ฐานทัพยาโวริฟ (Yavoriv Military Base) มีพื้นที่กว่า 17,560 เอเคอร์ พื้นที่เกือบทั้งหมดของอุทยานปกคลุมด้วยป่าไม้ พืชท้องถิ่นอย่างต้นบีช ฮอร์นบีม (Hornbeam) และต้นสนชนิดต่างๆ มีให้เห็นทั่วไปในบริเวณ
นอกจากผืนป่าและสัตว์นานาชนิดแล้ว นักท่องเที่ยวสายเทร็คกิ้งยังนิยมปีนเขาสำรวจเส้นทางธรรมชาติ ยาโวริฟสกีตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาคาร์เพเทียนที่เต็มไปด้วยหุบเขาสลับซับซ้อน อุทยานแห่งนี้จึงเหมาะแก่การชมพระอาทิตย์ตกดินในยามค่ำ
ชโคล (Shklo)
ชโคลเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองยาโวริฟราว 18 กิโลเมตร แม้จะเป็นเพียงหมู่บ้านชนบท แต่ชโคลกลับมีชื่อเสียงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันในฐานะสถานที่ตากอากาศที่สำคัญในยูเครน หมู่บ้านนี้เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีกำมะถันและแร่ธาตุต่างๆ ที่เชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษา
ผู้ดีในสมัยโบราณนิยมเดินทางมาแช่น้ำพุร้อนเพื่อบำบัดอาการป่วยเรื้อรัง ทุกวันนี้ชโคลเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทและสปาน้ำพุร้อนมากมายให้เลือกสรร นักท่องเที่ยวนิยมมาชื่นชมความงดงามของธรรมชาติและพักผ่อนในสปาช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงสิงหาคมที่อากาศอบอุ่น เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักสุขภาพโดยแท้
โบสถ์ราดรูซ (Radruz Chapel)
หากใครชื่นชอบอาคารไม้สไตล์วินเทจแล้วละก็ ราดรูซจะตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ ราดรูซเป็นโบสถ์ในนิกายกรีกออร์โทดอกซ์ที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ตามแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของชาวฮุตซุลที่ใช้เพียงหินและไม้ในการสร้างอาคารเท่านั้น
แม้จะอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมืองยาโวริฟ แต่โบสถ์ราดรูซก็เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวสายโรดทริป เส้นทางระหว่างยาโวริฟและราดรูซเต็มไปด้วยธรรมชาติน่าตื่นตา เหมาะกับการเดินทางตามวิถีสโลว์ไลฟ์ของใครหลายคน
อาหารขึ้นชื่อในยาโวริฟ
แน่นอนว่าการท่องเที่ยวดินแดนใหม่ๆ จะไม่อาจสมบูรณ์ได้หากไม่ได้รับประทานอาหารท้องถิ่น และในยาโวริฟเองก็มีอาหารพื้นบ้านฮุตซุลมากมายที่ปรุงจากวัตถุดิบในพื้นที่ให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น เซเลนี บอร์ช (Zeleny Borsch) ซุปผักโขมปรุงรสด้วยสมุนไพร โฮลุปต์ซี (Holubtsi) กะหล่ำปลียัดไส้เนื้อสับ และโครฟยังกา (Krovyanka) ไส้กรอกเลือดรสชาติเข้มข้น
นอกจากอาหารจานหลักแล้ว ของทานเล่นของชาวฮุตซุลก็ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน คนต่างถิ่นนิยมชิมเดรูนี (Deruny) มันฝรั่งทอดสัญชาติยูเครน และฮาลุชกี (Halushky) แป้งนึ่งผสมเนื้อสัตว์และผัก เรียกได้ว่าเป็นเมนูเด็ดที่ผู้มาเยือนไม่ควรพลาด
เป็นอย่างไรกันบ้างกับยาโวริฟ เมืองชายแดนตะวันตกสุดของยูเครน แน่นอนว่านอกจากงานหัตถกรรม สถานที่ท่องเที่ยว และอาหารที่แนะนำไป ยาโวริฟยังมีสถานที่และกิจกรรมอื่นๆ มากมายรอคอยให้คุณมาสัมผัส เป็นที่น่าเสียดายที่ในปัจจุบัน ประเทศยูเครนยังคงเผชิญภัยสงครามทุกเช้าค่ำ
เราจึงได้แต่ภาวนาให้สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยุติ เพื่อที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศจะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง และหากใครไม่ต้องการพลาดเรื่องราวและเกร็ดความรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวนานาชาติละก็ อย่าลืมติดตามพวกเราได้ที่ www.patourlogy.com เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการวางแผนท่องเที่ยวครั้งใหม่ของคุณ
อ้างอิง
- Green Ukraine. Carpathian national dishes. (2022). [Online]. Accessed 2022 April 27. Available from: https://green-ukraine.com/the-gutsul-cuisine
- Green Ukraine. Hutsul Wooden Churches. (2022). [Online]. Accessed 2022 April 27. Available from: https://green-ukraine.com/wooden-churches-of-the-carpathians
- Points West Living. The history and symbolism of Vegreville’s Pysanka (Easter Egg). (2011). [Online]. Accessed 2022 April 27. Available from: http://pointswestliving.com/news_detail.php?id=151
- Ukraïner. Carpathian Lizhnyk — A Hutsul Invention. (2018). [Online]. Accessed 2022 April 27. Available from: https://ukrainer.net/carpathian-lizhnyk
- Yavorivskyi National Park. About the park. (n.d.). [Online]. Accessed 2022 April 27. Available from: https://yavorivskyi-park.in.ua/en/about-us/about-the-park