แอฟริกาใต้ นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องความงามของธรรมชาติแล้ว แต่รู้หรือไม่แอฟริกาใต้ก็ผ่านประวัติศาสตร์ที่ยากลำบากมามากมายเหมือนกัน
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลย เรื่องการเหยียดสีผิวที่โด่งดังในแอฟริกาใต้ การล่าอาณานิคมของยุโรป และการต่อสู่เพื่ออิสรภาพ และความเท่าเทียมกัน ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆ เพื่อจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์อีกด้วย ดังนั้นแล้วจึงทำให้ผู้ที่ชื่นชอบทางประวัติศาสตร์มาเยี่ยม ยิ่งไปกว่านั้นเป็นประเทศที่ได้รับการเป็นมรดกโลกจาก UNESCO มากที่สุดในแอฟริกา พาทัวร์โลจี้จะพามาดูว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวไหนบ้างที่เป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และควรค่าต่อการจดจำของแอฟริกาใต้
ช่วงเวลาที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นใน แอฟริกาใต้
ช่วงศตวรรษที่ 17 ผู้ที่อาศัยอยู่ในแอฟริกาใต้ในยุคแรกสุดคือชนพื้นเมืองชาวซาน และชาวคอยคอย (San and Khoikhoi) ซึ่งอาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้มาเป็นเวลาหลายพันปี การเข้ามาตั้งถิ่นฐานของชาวยุโรปในศตวรรษที่ 17 ทำให้เกิดการพลัดถิ่นฐานของชนพื้นเมืองเหล่านี้ และเป็นจุดเริ่มต้นของการล่าอาณานิคมของแอฟริกาใต้
ช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 ชาวดัตช์ และอังกฤษได้ตั้งถิ่นฐานในแอฟริกาใต้ ซึ่งชาวดัตช์ได้ก่อตั้งอาณานิคมที่แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) ในศตวรรษที่ 19 การค้นพบเพชร และทองคำในแอฟริกาใต้นำไปสู่การเข้ามาของชาวยุโรปจำนวนมาก และทำให้มีการขยายอาณานิคมของอังกฤษเพิ่มขึ้น
ในปี ค.ศ. 1948 พรรคชาตินิยม (National Party) ซึ่งเป็นพรรคที่มีอำนาจของคนผิวขาวเข้ามามีอำนาจ นำไปสู่ระบบการแบ่งแยกทางเชื้อชาติที่เรียกว่าการแบ่งแยกสีผิว ภายใต้การแบ่งแยกสีผิว และโอกาสของชาวแอฟริกาใต้ที่ไม่ใช่คนผิวขาวถูกจำกัด และรัฐบาลได้ใช้ระบบแบ่งแยกเชื้อชาติในการเลือกปฏิบัติ
การต่อสู้กับการแบ่งแยกสีผิวนำโดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่หลากหลาย รวมถึงเนลสัน แมนเดลา (Nelson Mandela) ซึ่งถูกจับกุมในปี 1962 และถูกจำคุก 27 ปี ประชาคมระหว่างประเทศยังกดดันรัฐบาลแอฟริกาใต้ให้ยุติการแบ่งแยกสีผิว ในปี 1990 รัฐบาลได้ปล่อยตัวแมนเดลาในที่สุด และเป็นการเริ่มการเจรจาเพื่อยุติระบบการแบ่งแยกเชื้อชาติ
ในปี ค.ศ. 1994 แอฟริกาใต้จัดการการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเป็นครั้งแรก และเนลสัน แมนเดลา (Nelson Mandela) ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีผิวดำคนแรกของประเทศ ตั้งแต่นั้นมา แอฟริกาใต้ได้เปลี่ยนการแยกสีผิว และส่งเสริมการปรองดองเพื่อความยุติธรรมทางสังคม
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของแอฟริกาใต้
เกาะ Robben (Robben Island) เป็นเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งเคปทาวน์ เป็นเรือนจำที่มีชื่อเสียง ในการกักขังนักโทษทางการเมืองในช่วงการเเบ่งแยกสีผิวของแอฟริกาใต้รวมถึงอดีตประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา (Nelson Mandela Capture Site) ก็เป็นหนึ่งในนักโทษนั้น โดยเกาะแห่งนี้เคยเป็นเรือนจำมาถึงเกือบ 400 ปี !! และเป็นเรือนจำที่มีความปลอดภัยสูง
เกาะ Robben ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี 1999 และเป็นสถานที่ที่ยอดนิยม เรือนจำบนเกาะร็อบเบินขึ้อชื่อเรื่องสภาพอากาศที่โหดร้าย นักโทษที่ถูกขังจะต้องถูกให้ทำงานหนัก โดยปัจจุบันเกาะร็อบเบินเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงการแบ่งแยกสีผิว การต่อสู่เพื่ออิสรภาพ และความเท่าเทียมกันในแอฟริกาใต้
แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 15 เมื่อ Bartolomeu Dias นักเดินเรือชาวโปรตุเกสพบเห็นที่นี่เป็นครั้งแรก ต่อมาดิอาสตั้งชื่อแหลมนี้ว่า “แหลมแห่งพายุ” และถือเป็นหลักชัยสำคัญสำหรับนักเดินเรือชาวยุโรปขณะที่พวกเขาเดินเรือในน่านน้ำที่อันตรายของมหาสมุทรแอตแลนติก
ในศตวรรษที่ 16 บริษัทอินเดียตะวันออกของดัตช์ได้จัดตั้งเป็นสถานีขนส่งทางน้ำ และกลายเป็นจุดแวะพักที่สำคัญสำหรับการเดินเรือ ที่เดินทางระหว่างยุโรป และเอเชีย ต่อมาแหลมนี้ถูกยึดครองโดยอังกฤษ และกลายเป็นอาณานิคมของอังกฤษในปี 1806 ปัจจุบันยังเป็นที่ตั้งของประภาคารเก่า และใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งคู่ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Table Mountain
พิพิธภัณฑ์ District Six เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในเมืองเคปทาวน์ เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของผู้คนกว่า 60,000 คน ที่ต้องพลัดถิ่น ในช่วงยุคแบ่งแยกสีผิว โดยพื้นที่ดังกล่าวได้รับการประกาศให้เป็นเขต “เฉพาะคนผิวขาว” และชาวเมืองถูกกวาดต้อนไปยัง Cape Flats ที่อยู่บริเวณชานเมืองของ Cape Town ซึ่งเป็นพื้นที่แห้งแล้ง และยากจน การบังคับย้ายถิ่นฐานดำเนินไปอย่างโหดร้าย โดยผู้อยู่อาศัยจำนวนมากต้องสูญเสียบ้าน ธุรกิจ และทรัพย์สินส่วนตัว
พิพิธภัณฑ์การแบ่งแยกสีผิว (Apartheid Museum) ตั้งอยู่ในโจฮันเนสเบิร์ก (Johannesburg) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้บอกเล่าเรื่องราวในอดีตของการแบ่งแยกสีผิวของแอฟริกาใต้แก่สาธารณชน ในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ การเลือกปฏิบัติ และความเท่าเทียม ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ โดยให้ความรู้ความเข้าใจอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของการแบ่งแยกสีผิวและผลกระทบต่อประเทศและประชาชน
Union Buildings อาคารสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย ตั้งอยู่ในพริทอเรีย (Pretoria) อาคารเหล่านี้เป็นที่นั่งของรัฐบาลแอฟริกาใต้ในช่วงยุคแบ่งแยกสีผิว และปัจจุบันเป็นที่นั่งของประธานาธิบดีแอฟริกาใต้
โซเวโต (Soweto) โดยย่อมาจาก South Western Township และก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เป็นพื้นที่แยกสำหรับประชากรที่ไม่ใช่คนผิวขาว ติดกับเมืองโจฮันเนสเบิร์ก (Johannesburg) เป็นศูนย์กลางของการต่อต้านการเหยียดสีผิว และที่นี่เคยเป็นการประท้วงของนักเรียนหลายพันคนที่ประท้วงการต่อต้านภาษาแอฟริกันเป็นภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอนในโรงเรียน และดังที่ทราบกันดีว่าเป็นการปราบปรามอย่างโหดเหี้ยมโดยรัฐบาล และถือเป็นจุดเปลี่ยนในการต่อสู้กับการแบ่งแยกสีผิว
Bo-Kaap เป็นย่านที่ตั้งอยู่ใน Cape Town และเป็นที่รู้จักกันโดยบ้านที่มีสีสันสดใส Bo-Kaap มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ย้อนกลับไปในทศวรรษที่ 1760 พื้นที่นี้ถูกตั้งขึ้นโดยทาสจากตะวันออก ซึ่งถูกพามายังแหลมโดยบริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ ผู้ตั้งถิ่นฐานเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากหมู่เกาะมาเลย์ อินเดีย และส่วนอื่นๆ ของแอฟริกา ซึ่งพวกเขาได้นำวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และอาหารของตนเองเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ด้วย
Isandlwana เป็นเนินเขาที่ตั้งอยู่ในจังหวัด KwaZulu-Natal ของแอฟริกาใต้ ใกล้กับพรมแดน eSwatini เป็นที่รู้จักว่าเป็นที่ตั้งของสมรภูมิ Isandlwana ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 1897 ระหว่างสงครามแองโกล-ซูลู (Anglo-Zulu War)
โดยรวมแล้ว ประวัติศาสตร์ของแอฟริกาใต้มีความซับซ้อน และถูกทำเครื่องหมายด้วยการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ ความเสมอภาค และสิทธิมนุษยชน แต่ยังรวมถึงการยืนหยัด ความมุ่งมั่นของประชาชนในการสร้างอนาคตที่ดีกว่า เพราะยังไงแล้วมนุษย์ทุกคนก็มีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน
หรือถ้าใครอยากรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆ แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร โดยเราจะนำความรู้ดีๆ สาระดีๆ หรือประวัติศาสตร์ของสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ มาบอกเล่าเรื่องราวให้ได้อ่านกัน สามารถติดตาม หมอๆ ตะลุยโลก และ Patourlogy หรือถ้าใครต้องการท่องเที่ยวแบบเป็นกรุ๊ปส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นทัวร์นอกกระแส ขั้วโลกเหนือยังขั้วโลกใต้ ที่ประทับใจยันโลกหน้า สามารถติดต่อทาง Facebookและ Line ได้เลย เรายินดีพร้อมบริการทุกคนเป็นอย่างยิ่ง
อ้างอิงบทความ
- https://www.exploresouthafrica.net/history/
- https://www.sahistory.org.za