ไอซ์แลนด์ เป็นประเทศที่มีธรรมชาติอันสวยงามและมหัศจรรย์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นธารน้ำแข็ง ภูเขาไฟ หรือธารน้ำพุร้อน แต่ในท่ามกลางปรากฏการณ์ธรรมชาติเหล่านี้ ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าทึ่งไม่แพ้กัน นั่นคือ “หินช้างแห่งเฮเมย์” (Elephant Rock of Heimaey) ซึ่งเป็นประติมากรรมธรรมชาติที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
ประวัติการค้นพบ หินช้าง
หินช้างแห่งเฮเมย์ตั้งอยู่ที่เกาะเฮเมย์ (Heimaey) ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มเกาะเวสต์แมน (Vestmannaeyjar) ของไอซ์แลนด์ หินช้างนี้มีลักษณะที่เหมือนกับหัวของช้างขนาดยักษ์ที่มองออกไปสู่มหาสมุทร ประติมากรรมธรรมชาตินี้เกิดจากการก่อตัวของหินลาวาที่เย็นตัวลงและถูกกัดเซาะโดยลมและน้ำทะเลเป็นเวลาหลายล้านปี
ลักษณะของหินช้าง
หินช้างแห่งเฮเมย์มีความสูงประมาณ 15 เมตร และมีความคล้ายคลึงกับหัวช้างอย่างน่าทึ่ง จุดเด่นที่สำคัญคือรูปทรงของหินที่มีลักษณะเป็นหัวช้าง ซึ่งประกอบไปด้วยตา จมูก และงวงช้างที่ยื่นออกมา นอกจากนี้ ผิวของหินยังมีลวดลายที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเล ทำให้ดูเหมือนผิวหนังของช้างจริงๆ
การเกิดขึ้นของหินช้าง
หินช้างแห่งเฮเมย์เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ Eldfell ในปี 1973 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของเกาะเฮเมย์ ลาวาที่ไหลออกมาจากการปะทุได้เย็นลงและแข็งตัวเป็นหินบะซอลต์ (Basalt) โดยกระแสลมและน้ำทะเลได้กัดเซาะและปั้นแต่งให้หินมีลักษณะคล้ายช้าง
กิจกรรมที่น่าสนใจรอบหินช้าง
นอกจากการชมความงดงามของหินช้างแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจในบริเวณนี้ เช่น การปีนเขา การเดินป่า และการดูนก เกาะเฮเมย์เป็นแหล่งที่อยู่ของนกพัฟฟินจำนวนมาก นักท่องเที่ยวสามารถชมการบินของนกพัฟฟินได้ในช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟ Eldheimar ที่น่าสนใจให้เยี่ยมชม
การถ่ายภาพหินช้างเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เนื่องจากรูปทรงของหินที่มีความคล้ายคลึงกับหัวช้างและวิวทิวทัศน์ของมหาสมุทรทำให้เป็นฉากที่งดงามและไม่เหมือนใคร ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพคือช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งจะให้แสงสว่างที่นุ่มนวลและสีสันที่สวยงาม
เที่ยวช่วงไหนดีในฤดูกาลต่างๆ
การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชมหินช้างแห่งเฮเมย์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากแต่ละฤดูกาลมีความงดงามและเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป นี่คือคำแนะนำในการเยี่ยมชมในแต่ละฤดูกาล:
ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)
ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่นิยมมากที่สุดสำหรับการเยี่ยมชมไอซ์แลนด์ เนื่องจากมีอุณหภูมิที่อบอุ่นและกลางวันยาวนาน ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางได้เต็มที่:
- อุณหภูมิและสภาพอากาศ: อุณหภูมิในช่วงฤดูร้อนอยู่ระหว่าง 10-15 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอากาศที่สบายและเหมาะสำหรับการเดินทาง
- กิจกรรม: การเดินป่า ปีนเขา และการถ่ายภาพในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งมีแสงที่สวยงามเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่นกพัฟฟินกลับมาวางไข่ ทำให้สามารถชมการบินของนกพัฟฟินได้ใกล้ชิด
- ข้อควรระวัง: นักท่องเที่ยวควรจองที่พักและเรือล่วงหน้า เนื่องจากเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมาก
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)
ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาที่มีอากาศเย็นลงและมีนักท่องเที่ยวลดลง ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสงบ:
- อุณหภูมิและสภาพอากาศ: อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 5-10 องศาเซลเซียส และเริ่มมีลมแรงขึ้น
- กิจกรรม: การเดินป่าและการถ่ายภาพในแสงอาทิตย์ที่นุ่มนวล ฤดูนี้ยังเป็นช่วงที่เห็นปรากฏการณ์แสงเหนือได้ชัดเจน
- ข้อควรระวัง: ต้องเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นและกันลม และตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้า
ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)
ฤดูหนาวเป็นช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นและกลางคืนยาวนาน แต่เป็นช่วงที่สามารถสัมผัสกับความงดงามของหิมะและแสงเหนือได้อย่างเต็มที่:
- อุณหภูมิและสภาพอากาศ: อุณหภูมิอยู่ระหว่าง -1 ถึง 4 องศาเซลเซียส อาจมีหิมะตกและลมแรง
- กิจกรรม: การชมแสงเหนือ การถ่ายภาพทิวทัศน์ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ และการเดินเล่นบนชายหาดที่มีหิมะตก
- ข้อควรระวัง: ควรเตรียมเสื้อผ้าที่กันหนาวและรองเท้าที่มีคุณสมบัติกันลื่น เนื่องจากพื้นดินอาจลื่นจากน้ำแข็ง
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)
ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาที่อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นและธรรมชาติเริ่มฟื้นคืนชีพ ทำให้เป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการเยี่ยมชม:
- อุณหภูมิและสภาพอากาศ: อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 5-10 องศาเซลเซียส มีแสงแดดมากขึ้นและหิมะเริ่มละลาย
- กิจกรรม: การเดินป่าและการถ่ายภาพทิวทัศน์ที่เริ่มมีสีสันจากพืชพันธุ์ที่ฟื้นคืนชีพ
- ข้อควรระวัง: แม้ว่าหิมะจะละลาย แต่ยังคงมีความเย็นอยู่ ควรเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นและพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
สถานที่พักและร้านอาหาร
เมื่อเดินทางไปยังหินช้างแห่งเฮเมย์ การเลือกสถานที่พักและร้านอาหารที่ดีจะช่วยให้การเดินทางของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและเพลิดเพลินมากขึ้น:
ที่พักแนะนำ
- Hotel Vestmannaeyjar: โรงแรมที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเฮเมย์ ให้บริการห้องพักที่สะดวกสบายและอาหารเช้ารสเลิศ
- Guesthouse Hrafnabjörg: ที่พักแบบเกสต์เฮ้าส์ที่มีบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสงบ
- Aska Hostel: โฮสเทลที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวแบบแบ็คแพ็คเกอร์ มีราคาประหยัดและบรรยากาศสนุกสนาน
ร้านอาหารแนะนำ
- Slippurinn: ร้านอาหารที่เน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและมีเมนูอาหารทะเลสดใหม่
- Gott: ร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารสไตล์ฟิวชั่น มีเมนูที่หลากหลายทั้งอาหารท้องถิ่นและนานาชาติ
- Einsi Kaldi: ร้านอาหารที่มีเมนูที่สร้างสรรค์และใช้วัตถุดิบที่สดใหม่จากท้องถิ่น
ของฝากที่คุณควรนำกลับ
หลังจากการเยี่ยมชมหินช้างแห่งเฮเมย์และเกาะเฮเมย์เสร็จสิ้น คุณสามารถเดินทางกลับไปยังท่าเรือเพื่อกลับไปยังเมืองท่าแลนด์ย์หรือเมืองอื่นๆ ของไอซ์แลนด์ อย่าลืมนำสิ่งของที่ระลึกกลับบ้าน เช่น ของฝากที่ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่น หรือภาพถ่ายที่สวยงามจากการเดินทาง
บทสรุป
หินช้างแห่งเฮเมย์เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าทึ่งที่สุดในไอซ์แลนด์ ด้วยรูปทรงที่คล้ายคลึงกับหัวช้างและวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ทำให้เป็นสถานที่ที่ควรเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิต การเดินทางไปยังหินช้างแห่งเฮเมย์นั้นไม่ยากนัก และยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจในบริเวณนี้ ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขา การดูนก หรือการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์
การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวทุกคนควรให้ความสำคัญ เพื่อให้ธรรมชาติอันงดงามนี้ยังคงอยู่ให้เราชื่นชมไปอีกยาวนาน
หากคุณกำลังมองหาปลายทางท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครและต้องการสัมผัสกับธรรมชาติอันงดงาม ไอซ์แลนด์และหินช้างแห่งเฮเมย์คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด ประสบการณ์ที่ได้รับจะเป็นความทรงจำที่น่าจดจำและคุ้มค่ากับการเดินทางอย่างแน่นอน
ชมบทความไอซ์แลนด์อื่นๆได้ที่นี้