เมื่อถึงช่วงปลายปี คริสต์มาสเป็นเทศกาลที่หลายคนรอคอย ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟที่ประดับประดาทั่วเมือง ตลาดคริสต์มาสที่คึกคัก หรือหิมะที่โปรยปรายลงมาทำให้ทุกอย่างดูอบอุ่นและสวยงาม ในปี 2024 หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่พิเศษเพื่อฉลองคริสต์มาส นี่คือ 9 ที่เที่ยวสุดฟินที่คุณไม่ควรพลาด
- 1. นิวยอร์ก ซิตี้, สหรัฐอเมริกา (New York City, USA)
- 2. สตราสบูร์ก, ฝรั่งเศส (Strasbourg, France)
- 3. กรุงลอนดอน, อังกฤษ (London, UK)
- 4. เมืองบูดาเปสต์, ฮังการี (Budapest, Hungary)
- 5. โคเปนเฮเกน, เดนมาร์ก (Copenhagen, Denmark)
- 6. กรุงเวียนนา, ออสเตรีย (Vienna, Austria)
- 7. เมืองโคโลญ, เยอรมนี (Cologne, Germany)
- 8. เมืองควิเบก ซิตี้, แคนาดา (Quebec City, Canada)
- 9. เมืองรูวาเนียมิ, ฟินแลนด์ (Rovaniemi, Finland)
- สรุป
1. นิวยอร์ก ซิตี้, สหรัฐอเมริกา (New York City, USA)
เมื่อพูดถึงการฉลองคริสต์มาสในนิวยอร์ก ซิตี้ คงไม่มีที่ไหนจะโด่งดังไปกว่า Rockefeller Center ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทุกปี Rockefeller Center จะประดับต้นคริสต์มาสยักษ์ที่มีแสงไฟระยิบระยับ ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองคริสต์มาสในเมืองนี้ ในปี 2024 การไปเยือนต้นคริสต์มาสที่ Rockefeller Center เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ยังมีลานสเก็ตน้ำแข็งใต้ต้นคริสต์มาสที่มีบรรยากาศที่สนุกสนานและโรแมนติก โดยนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเล่นสเก็ตน้ำแข็งภายใต้แสงไฟที่งดงาม
นิวยอร์ก ซิตี้ ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นใน Fifth Avenue ที่เต็มไปด้วยร้านค้าตกแต่งธีมคริสต์มาสอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของขวัญให้ครอบครัวและเพื่อน ๆ หรือเดินชมหน้าต่างร้านค้าที่มีการจัดแสดงพิเศษช่วงเทศกาล
ตลาดคริสต์มาสในนิวยอร์ก ซิตี้ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะตลาดใน Bryant Park และ Union Square ที่เต็มไปด้วยแผงขายสินค้าหัตถกรรม อาหารท้องถิ่น เครื่องประดับต้นคริสต์มาส และของขวัญที่ไม่เหมือนใคร สำหรับผู้ที่ชอบการสัมผัสบรรยากาศของคริสต์มาสที่สดใสและเต็มไปด้วยพลัง นิวยอร์ก ซิตี้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ
2. สตราสบูร์ก, ฝรั่งเศส (Strasbourg, France)
สตราสบูร์ก เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในฐานะ “เมืองหลวงแห่งคริสต์มาส” ด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานของการฉลองคริสต์มาสที่นี่ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกและความอบอุ่นในตลาดคริสต์มาสที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป
ตลาดคริสต์มาสของสตราสบูร์กในปี 2024 จะมีการตกแต่งด้วยไฟประดับที่งดงามและกลิ่นหอมของไวน์แดงร้อน (Vin Chaud) ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่นิยมดื่มในช่วงเทศกาลคริสต์มาส นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่น อาหารฝรั่งเศสต้นตำรับ และขนมหวานที่ทำให้การเดินเที่ยวตลาดคริสต์มาสเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ
จุดเด่นของการฉลองคริสต์มาสในสตราสบูร์กไม่ใช่เพียงแค่ตลาดคริสต์มาส แต่ยังมีการจัดกิจกรรมดนตรีคริสต์มาสในโบสถ์โบราณและการแสดงสดที่เพิ่มความอบอุ่นให้กับบรรยากาศของเมือง นอกจากนี้ การเดินเล่นในเขตเมืองเก่า (La Petite France) ที่เต็มไปด้วยตึกเก่าแก่และสะพานที่ถูกประดับด้วยไฟคริสต์มาส ยังทำให้การเยือนสตราสบูร์กในช่วงคริสต์มาสเป็นประสบการณ์ที่พิเศษไม่เหมือนใคร
3. กรุงลอนดอน, อังกฤษ (London, UK)
คริสต์มาสในลอนดอนถือเป็นหนึ่งในเทศกาลที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องการสัมผัส เพราะที่นี่เต็มไปด้วยแสงไฟที่ประดับประดาอย่างงดงามทั่วทั้งเมือง ถนน Oxford Street และ Regent Street เป็นสถานที่ยอดนิยมในการชมแสงไฟคริสต์มาส โดยในปี 2024 จะมีการประดับไฟตามถนนเหล่านี้ให้สว่างไสวและสวยงาม ซึ่งทำให้การเดินเที่ยวและช้อปปิ้งในลอนดอนในช่วงคริสต์มาสมีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
หนึ่งในสถานที่ยอดฮิตที่ควรไปเยือนในลอนดอนคือ Hyde Park Winter Wonderland ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมสนุก ๆ สำหรับครอบครัวและเพื่อนฝูง ที่นี่มีทั้งตลาดคริสต์มาส สวนสนุก และลานสเก็ตน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ยังมีการแสดงสดและโชว์ที่ทำให้บรรยากาศในสวนสนุกเต็มไปด้วยความรื่นเริงและความอบอุ่น
การไปเยือนลอนดอนในช่วงคริสต์มาสยังเป็นโอกาสในการสัมผัสกับความหรูหราของเมืองนี้ด้วยการไปชม Covent Garden ซึ่งเต็มไปด้วยแสงไฟและการจัดแสดงคริสต์มาสที่มีสไตล์ นอกจากนี้ ร้านอาหารและคาเฟ่ในลอนดอนยังมีเมนูพิเศษสำหรับเทศกาลนี้ ที่นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองอาหารและเครื่องดื่มคริสต์มาสต้นตำรับได้
4. เมืองบูดาเปสต์, ฮังการี (Budapest, Hungary)
บูดาเปสต์ในช่วงคริสต์มาสเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความงดงามและมนต์เสน่ห์แบบยุโรปกลาง เมืองนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและสะพานที่ทอดข้ามแม่น้ำดานูบ ที่นี่จะมีบรรยากาศคริสต์มาสที่อัดแน่นไปด้วยแสงไฟและตลาดคริสต์มาสที่เต็มไปด้วยสินค้าหัตถกรรมและอาหารพื้นเมือง
ตลาดคริสต์มาสที่ Vorosmarty Square เป็นตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุดในเมือง คุณสามารถเดินเล่นท่ามกลางบูธที่ขายของขวัญงานฝีมือท้องถิ่น และลองอาหารฮังการีดั้งเดิมเช่น Kürtőskalács (เค้กทรงกรวยอบกับน้ำตาล) นอกจากนี้ยังมีไวน์แดงร้อนที่เป็นสิ่งที่ต้องลองเมื่อมาเยือนบูดาเปสต์ในฤดูหนาว
อีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือ Basilica Christmas Market ที่จัดขึ้นด้านหน้าวิหารเซนต์สตีเฟน สถานที่นี้เต็มไปด้วยบรรยากาศของแสงไฟคริสต์มาสที่สวยงามและการแสดงดนตรีคริสต์มาสแบบสด ๆ นอกจากนี้ บูดาเปสต์ยังเป็นเมืองที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นริมแม่น้ำดานูบและถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ของปราสาทและสะพานที่ประดับด้วยแสงไฟในช่วงค่ำ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งในฤดูหนาว คุณไม่ควรพลาดการไปที่ City Park Ice Rink ซึ่งเป็นลานสเก็ตน้ำแข็งกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป สามารถเพลิดเพลินกับการเล่นสเก็ตท่ามกลางบรรยากาศคริสต์มาสที่โรแมนติกได้อย่างเต็มที่
5. โคเปนเฮเกน, เดนมาร์ก (Copenhagen, Denmark)
โคเปนเฮเกนในช่วงคริสต์มาสเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและเสน่ห์แบบสแกนดิเนเวีย จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือ Tivoli Gardens ซึ่งเป็นสวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ในช่วงคริสต์มาส สวนสนุกแห่งนี้จะเปลี่ยนไปเป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยแสงไฟคริสต์มาสและการตกแต่งที่สวยงาม
นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมตลาดคริสต์มาสที่จัดขึ้นภายในสวนสนุก โดยมีบูธขายสินค้าท้องถิ่น อาหาร และเครื่องดื่มอย่าง Glogg (ไวน์แดงร้อนแบบเดนมาร์ก) นอกจากนี้ ยังมีลานสเก็ตน้ำแข็งที่เด็ก ๆ และผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินได้
อีกหนึ่งจุดที่ควรไปเยือนคือ Nyhavn ย่านริมแม่น้ำที่มีอาคารสีสันสดใส ในช่วงคริสต์มาส Nyhavn จะเต็มไปด้วยตลาดคริสต์มาสและแสงไฟที่ส่องสว่าง นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นริมแม่น้ำและนั่งจิบกาแฟหรือไวน์แดงร้อนพร้อมทั้งชมวิวเรือสำราญที่จอดอยู่ริมฝั่ง
นอกจากนี้ โคเปนเฮเกนยังมีถนนช้อปปิ้งชื่อดัง Stroget ที่มีการประดับประดาอย่างสวยงามในช่วงคริสต์มาส คุณสามารถเลือกซื้อของขวัญคริสต์มาสจากร้านค้าหรูหรือร้านค้าแบรนด์ดังระดับโลก พร้อมกับลิ้มลองขนมหวานท้องถิ่นและอาหารดั้งเดิมของเดนมาร์ก
6. กรุงเวียนนา, ออสเตรีย (Vienna, Austria)
เวียนนาเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการเฉลิมฉลองคริสต์มาสอย่างยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะตลาดคริสต์มาสที่ Rathausplatz หรือหน้าศาลาว่าการเมือง ที่นี่จัดเป็นตลาดคริสต์มาสขนาดใหญ่ที่นักท่องเที่ยวหลายคนใฝ่ฝันที่จะมาเยือนในช่วงฤดูหนาว ตลาดนี้ไม่เพียงแต่มีของขวัญคริสต์มาสที่งดงามเท่านั้น แต่ยังมีการแสดงดนตรีคริสต์มาสและกิจกรรมสำหรับครอบครัว
ตลาดคริสต์มาสที่เวียนนายังมีชื่อเสียงในเรื่องของการประดับประดาแสงไฟและต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางศาลากลาง นอกจากนี้ ยังมีบูธขายอาหารที่มีของทานเล่นแบบออสเตรีย เช่น Sacher Torte เค้กช็อกโกแลตชื่อดังของออสเตรีย และไวน์แดงร้อนที่ทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นท่ามกลางอากาศหนาว
นักท่องเที่ยวที่มองหากิจกรรมที่โรแมนติกในเวียนนาควรลอง ลานสเก็ตน้ำแข็ง Wiener Eistraum ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ศาลาว่าการเมือง เป็นลานสเก็ตน้ำแข็งกลางแจ้งที่มีเส้นทางที่สวยงามและมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยแสงไฟคริสต์มาส
นอกจากนี้ เวียนนายังเป็นที่รู้จักในเรื่องของ Vienna Christmas Concerts คอนเสิร์ตคริสต์มาสที่จัดขึ้นในโบสถ์และหอประชุมต่าง ๆ ทั่วเมือง การฟังเพลงคลาสสิกในบรรยากาศที่อบอุ่นในฤดูหนาวจะทำให้คริสต์มาสของคุณที่เวียนนาเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน
7. เมืองโคโลญ, เยอรมนี (Cologne, Germany)
โคโลญเป็นเมืองที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวในช่วงคริสต์มาส ที่นี่มีตลาดคริสต์มาสหลายแห่งที่จัดขึ้นทั่วเมือง แต่มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ถือเป็นสถานที่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการฉลองคริสต์มาส ตลาดคริสต์มาสที่ตั้งอยู่หน้ามหาวิหารนี้มีบรรยากาศที่งดงามและสวยงาม โดยมีการประดับไฟคริสต์มาสทั่วทั้งตลาดพร้อมต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่
ในตลาดคริสต์มาสนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับสินค้าท้องถิ่นที่หลากหลาย เช่น ของขวัญที่ทำด้วยมือ เครื่องประดับคริสต์มาส และของหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของเยอรมัน เช่น Lebkuchen (ขนมปังขิง) และ Glühwein (ไวน์ร้อน) ตลาดคริสต์มาสที่โคโลญยังมีการแสดงดนตรีสดที่สร้างบรรยากาศแห่งความสุขและความโรแมนติกในฤดูหนาว จึงไม่แปลกใจที่โคโลญเป็นหนึ่งในจุดหมายที่ต้องไปเยือนในช่วงคริสต์มาส
8. เมืองควิเบก ซิตี้, แคนาดา (Quebec City, Canada)
ควิเบก ซิตี้ ในช่วงคริสต์มาสเปรียบเสมือนเมืองในนิทาน ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยหิมะ ช่วงคริสต์มาสที่นี่มีความพิเศษเพราะ Old Quebec ซึ่งเป็นเมืองเก่า จะถูกประดับประดาด้วยแสงไฟคริสต์มาสที่สวยงามและอบอุ่น ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนย้อนเวลาไปในอดีต ตลาดคริสต์มาสที่ Marché de Noël มีการจัดงานใหญ่ที่รวบรวมสินค้าท้องถิ่น ศิลปหัตถกรรม และอาหารพิเศษที่ไม่เหมือนใคร
นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมเทศกาล German Christmas Market ที่จัดขึ้นในควิเบก ซิตี้ ซึ่งมีกลิ่นอายของตลาดคริสต์มาสเยอรมันแบบดั้งเดิม โดยมีการแสดงสดและกิจกรรมสำหรับครอบครัว คริสต์มาสในควิเบก ซิตี้เป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นที่น่าประทับใจ
9. เมืองรูวาเนียมิ, ฟินแลนด์ (Rovaniemi, Finland)
รูวาเนียมิ เป็นเมืองที่เป็นที่รู้จักในฐานะบ้านของ ซานตาคลอส ตั้งอยู่ในเขตแลปแลนด์ (Lapland) ของฟินแลนด์ ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางสุดพิเศษที่เหมาะสำหรับการฉลองคริสต์มาสอย่างแท้จริง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยัง Santa Claus Village ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล (Arctic Circle) เพื่อพบกับซานตาคลอสตัวจริง พร้อมกับสำรวจหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยบรรยากาศคริสต์มาสที่อบอุ่น
นอกจากนั้น รูวาเนียมิยังมีกิจกรรมฤดูหนาวที่ไม่เหมือนใคร เช่น การขี่รถเลื่อนกวางเรนเดียร์ การขี่สโนว์โมบิล และการออกทริปชมแสงเหนือ (Aurora Borealis) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หายากและน่าตื่นตาตื่นใจ ที่จะทำให้การเฉลิมฉลองคริสต์มาสในปี 2024 ของคุณเป็นความทรงจำที่ยากจะลืม
สรุป
คริสต์มาสในปี 2024 จะเป็นช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขและความอบอุ่นจากการเฉลิมฉลองทั่วโลก ไม่ว่าคุณจะเลือกนิวยอร์กที่เต็มไปด้วยไฟประดับและตลาดคริสต์มาสสุดคึกคัก หรือเลือกเมืองรูวาเนียมิที่มีซานตาคลอสและโอกาสชมแสงเหนือ ทุกที่ก็มีสิ่งพิเศษที่รอคุณไปสัมผัส
ชมบทความท่องเที่ยวอื่นๆได้ที่นี้