การชมไฟประดับหรือ “อิลลูมิเนชั่น” (Illumination) ในญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องไปสัมผัส โดยเฉพาะในช่วง คริสต์มาส และ ปีใหม่ ซึ่งทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่นจะมีการจัดแสดงไฟประดับที่สวยงามตระการตาเต็มไปด้วยสีสันและรูปแบบที่หลากหลาย ถ้าคุณกำลังวางแผนทริปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเทศกาลนี้ นี่คือ 10 งานไฟประดับที่ห้ามพลาด!
- 1. งานไฟประดับซัปโปโร ไวท์ อิลลูมิเนชั่น (Sapporo White Illumination) – ซัปโปโร, ฮอกไกโด
- 2. งานไฟประดับโตเกียว มิดทาวน์ (Tokyo Midtown Illumination) – โตเกียว
- 3. โทบู เวิลด์ สแควร์ ไฟ อิลลูมิเนชั่น (Tobu World Square Illumination) – นิกโก, โทชิกิ
- 4. งานไฟประดับสวนดอกไม้นะบะนะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato Illumination) – มิเอะ
- 5. งานไฟประดับเมจิจิงกู ไกเอ็น อิลลูมิเนชั่น (Meiji Jingu Gaien Illumination) – โตเกียว
- 6. งานไฟประดับนัมบะ ฮิคาริ เท็นจิ (Namba Hikari Tenji) – โอซาก้า
- 7. งานไฟประดับโกเบ ลูมินาเรีย (Kobe Luminarie) – โกเบ
- 8. งานไฟประดับแม่น้ำเมงุโระ (Meguro River Illumination) – โตเกียว
- 9. งานไฟประดับชินากาวะ ซีซัน เทอเรส (Shinagawa Season Terrace Illumination) – โตเกียว
- 10. งานไฟประดับชิบูย่า บลู เคฟ (Shibuya Blue Cave Illumination) – โตเกียว
- บทสรุป
1. งานไฟประดับซัปโปโร ไวท์ อิลลูมิเนชั่น (Sapporo White Illumination) – ซัปโปโร, ฮอกไกโด
ซัปโปโร ไวท์ อิลลูมิเนชั่น (Sapporo White Illumination) ถือเป็นงานไฟประดับที่เก่าแก่ที่สุดงานหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1981 โดยจัดขึ้นในเมืองซัปโปโร เมืองหลวงของเกาะฮอกไกโดที่มีชื่อเสียงด้านหิมะและเทศกาลฤดูหนาว งานนี้เปลี่ยนทั้งเมืองซัปโปโรให้กลายเป็นดินแดนแห่งแสงไฟที่เปล่งประกายท่ามกลางหิมะขาว ซึ่งสร้างบรรยากาศอันอบอุ่นและโรแมนติกในฤดูหนาว
สถานที่หลักที่ใช้จัดงานคือ สวนโอโดริ (Odori Park) ซึ่งมีการประดับไฟตามแนวต้นไม้และพื้นที่รอบๆ ต้นคริสต์มาสยักษ์ที่ประดับอย่างงดงามจะตั้งอยู่กลางสวน ให้ผู้เข้าชมสัมผัสถึงบรรยากาศการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสท่ามกลางหิมะตกเบาๆ ในบางปีอาจมีการเพิ่มประติมากรรมไฟที่เป็นรูปร่างของเหล่าสัตว์และภูมิทัศน์ต่างๆ ที่สะท้อนถึงความงดงามของฤดูหนาวฮอกไกโด การแสดงไฟจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนและยาวไปจนถึงมีนาคม ทำให้มีเวลานานเพียงพอให้ผู้ที่มาเยือนได้ชื่นชมอย่างเต็มที่
- จุดเด่น: ต้นคริสต์มาสยักษ์และน้ำพุประดับไฟในสวนโอโดริ สร้างบรรยากาศที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของฤดูหนาวในฮอกไกโด
- ช่วงเวลา: ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม
- การเดินทาง: เดินจากสถานีซัปโปโร ใช้เวลาเพียง 10 นาที
ขอบคุณภาพจาก : jw-webmagazine
2. งานไฟประดับโตเกียว มิดทาวน์ (Tokyo Midtown Illumination) – โตเกียว
โตเกียว มิดทาวน์ อิลลูมิเนชั่น (Tokyo Midtown Illumination) เป็นงานไฟประดับที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนโตเกียวช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ งานนี้จัดขึ้นที่ย่านรปปงหงิ (Roppongi) ซึ่งเป็นย่านทันสมัยที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าและสถานบันเทิง ในแต่ละปีจะมีการจัดธีมไฟที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นคือลานกว้างที่ถูกตกแต่งด้วยหลอดไฟ LED กว่าแสนดวงที่ถูกจัดเรียงให้ดูเหมือน “กาแล็กซี่” ที่เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ งานนี้ไม่เพียงแค่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชม แต่ยังเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นเอง
บริเวณรอบๆ ยังมีต้น คริสต์มาส ประดับไฟที่มีการตกแต่งสวยงาม รวมถึงร้านค้าที่เปิดตัวในช่วงเทศกาลเพื่อให้ผู้เยี่ยมชมสามารถช้อปปิ้งและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยแสงสีได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงแสงไฟบนอาคาร ลานกว้างที่จำลองภาพของจักรวาล หรืออุโมงค์ไฟระยิบระยับ โตเกียว มิดทาวน์ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่แนะนำสำหรับการชมไฟประดับในโตเกียว
- จุดเด่น: ลานกว้างที่ประดับไฟเป็นรูปกาแล็กซี่และดวงดาวในธีม “จักรวาล” สร้างบรรยากาศสุดอลังการ
- ช่วงเวลา: พฤศจิกายนถึงปลายธันวาคม
- การเดินทาง: อยู่ในย่านรปปงหงิ เดินทางสะดวกจากสถานีรถไฟใต้ดินรปปงหงิ
ขอบคุณภาพจาก : jw-webmagazine.com
3. โทบู เวิลด์ สแควร์ ไฟ อิลลูมิเนชั่น (Tobu World Square Illumination) – นิกโก, โทชิกิ
โทบู เวิลด์ สแควร์ (Tobu World Square) เป็นสวนสนุกที่ไม่เหมือนใครในญี่ปุ่น ที่นี่รวบรวมสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในรูปแบบจำลองขนาดย่อส่วน ตั้งแต่หอไอเฟล ปราสาทแห่งโรม จนถึงอนุสาวรีย์เสรีภาพของสหรัฐอเมริกา โดยในช่วงคริสต์มาสถึงปีใหม่ โทบู เวิลด์ สแควร์จะเพิ่มการจัดแสดงไฟอิลลูมิเนชั่นที่สวยงาม ให้บรรยากาศเหมือนเดินทางรอบโลกในยามค่ำคืน
ไฟประดับเหล่านี้จะส่องสว่างรอบๆ โมเดลสถานที่สำคัญ ทำให้แต่ละสถานที่ดูมีชีวิตชีวาและโดดเด่นในแบบเฉพาะตัว ยิ่งในช่วงกลางคืนที่แสงไฟสะท้อนความงดงามของสถาปัตยกรรมจำลองจากทั่วโลก สร้างความตื่นตาตื่นใจและความประทับใจให้กับผู้เข้าชม นอกจากความสวยงามของการประดับไฟแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมเฉพาะเทศกาล เช่น ร้านค้าอาหารและของที่ระลึกที่เปิดให้บริการ ทำให้การมาเยือนที่นี่เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ
- จุดเด่น: การประดับไฟรอบโมเดลสถานที่สำคัญทั่วโลก เช่น หอไอเฟล พีระมิด และพระราชวังบักกิงแฮม
- ช่วงเวลา: พฤศจิกายนถึงมีนาคม
- การเดินทาง: ตั้งอยู่ในจังหวัดโทชิกิ ห่างจากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมง
ขอบคุณภาพจาก : festival-of-light.com
4. งานไฟประดับสวนดอกไม้นะบะนะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato Illumination) – มิเอะ
สวนดอกไม้นะบะนะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) ในจังหวัดมิเอะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมสำหรับการชมไฟประดับช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สวนดอกไม้นี้จะถูกตกแต่งด้วยแสงไฟกว่าล้านดวงที่สร้างบรรยากาศสว่างไสวและเต็มไปด้วยสีสันที่สวยงาม และที่โดดเด่นมากที่สุดคือ “อุโมงค์แสงไฟ” ที่ยาวกว่า 200 เมตรซึ่งตกแต่งด้วยไฟสีเหลืองทอง เป็นจุดถ่ายภาพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในงานนี้
งานไฟประดับที่นะบะนะ โนะ ซาโตะจะเปลี่ยนธีมไปทุกปี โดยมีการใช้แสงไฟสร้างเป็นภาพวิวทิวทัศน์ต่างๆ เช่น ภูเขาไฟฟูจิ ทะเลที่สวยงาม หรือดอกไม้บานสะพรั่ง การตกแต่งที่ประณีตและสวยงามนี้ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศต้องมาชมให้ได้
- จุดเด่น: อุโมงค์แสงไฟสีทองยาวกว่า 200 เมตรที่สร้างบรรยากาศโรแมนติกและเป็นเอกลักษณ์
- ช่วงเวลา: ตุลาคมถึงพฤษภาคม
- การเดินทาง: เดินทางจากสถานีนาโกย่าไปยังสถานีคุวานะ จากนั้นนั่งรถบัสต่อมายังสวนดอกไม้นะบะนะ โนะ ซาโตะ ใช้เวลารวมประมาณ 30-40 นาที
ขอบคุณภาพจาก : thegate12.com
5. งานไฟประดับเมจิจิงกู ไกเอ็น อิลลูมิเนชั่น (Meiji Jingu Gaien Illumination) – โตเกียว
งานไฟประดับที่เมจิจิงกู ไกเอ็น (Meiji Jingu Gaien Illumination) ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติและแสงไฟที่ประดับประดาไว้อย่างอลังการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงถึงต้นฤดูหนาว ซึ่งถนนต้นแปะก๊วยที่นี่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ก่อนจะถูกประดับไฟให้ส่องสว่างในช่วงค่ำคืน กลายเป็นภาพที่งดงามและโรแมนติก เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในถนนแปะก๊วยที่สวยที่สุดในโตเกียว
ตลอดแนวถนนเต็มไปด้วยต้นแปะก๊วยที่ถูกประดับไฟสีเหลืองทอง ให้บรรยากาศอบอุ่นเหมาะแก่การเดินเล่นหรือถ่ายภาพ บริเวณใกล้เคียงยังมีร้านกาแฟและร้านอาหารที่สามารถนั่งชมบรรยากาศไปพร้อมกับลิ้มรสอาหารอร่อย ทำให้เมจิจิงกู ไกเอ็นเป็นจุดท่องเที่ยวที่นิยมมากในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่
- จุดเด่น: ถนนแปะก๊วยที่ประดับไฟสีทองระยิบระยับ โรแมนติกและสงบเงียบเหมาะสำหรับการเดินเล่นและถ่ายภาพ
- ช่วงเวลา: ปลายพฤศจิกายนถึงธันวาคม
- การเดินทาง: เดินจากสถานีชิบูย่าหรือสถานีเมจิจิงกูไม ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที
ขอบคุณภาพจาก : tokyocheapo.com
6. งานไฟประดับนัมบะ ฮิคาริ เท็นจิ (Namba Hikari Tenji) – โอซาก้า
ในเมืองโอซาก้า งานไฟประดับที่นัมบะ ฮิคาริ เท็นจิ (Namba Hikari Tenji) จัดขึ้นในย่านช้อปปิ้งยอดนิยมของโอซาก้าอย่างนัมบะ ซึ่งเต็มไปด้วยสีสันของแสงไฟและบรรยากาศเทศกาลที่อบอุ่นและสนุกสนาน ไฟประดับที่นี่ใช้เทคโนโลยีไฟ LED แบบอินเตอร์แอคทีฟที่ทันสมัย ผู้เข้าชมสามารถมีส่วนร่วมและโต้ตอบกับแสงไฟได้ ทำให้ได้รับประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น
งานนี้มีการประดับไฟตามอาคาร ต้นไม้ และพื้นที่ต่างๆ ในย่านนัมบะ โดยมีการจัดแสดงแสงไฟตามจุดต่างๆ ที่สะท้อนถึงความทันสมัยของเมืองและความหลากหลายของชุมชน มีร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ที่ตกแต่งในธีมคริสต์มาสและปีใหม่ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศของเทศกาลและช้อปปิ้งไปพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน
- จุดเด่น: ไฟประดับแบบอินเตอร์แอคทีฟที่ผู้เข้าชมสามารถโต้ตอบและมีส่วนร่วมได้ บรรยากาศครึกครื้นในย่านนัมบะที่มีเสน่ห์
- ช่วงเวลา: พฤศจิกายนถึงมกราคม
- การเดินทาง: ตั้งอยู่ใกล้สถานี Namba ซึ่งเดินทางได้สะดวก
ขอบคุณภาพจาก : japancheapo.com
7. งานไฟประดับโกเบ ลูมินาเรีย (Kobe Luminarie) – โกเบ
โกเบ ลูมินาเรีย (Kobe Luminarie) เป็นงานไฟประดับประจำปีที่จัดขึ้นในเมืองโกเบเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1995 งานนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของการให้กำลังใจและแสดงถึงความหวังของชาวโกเบในการฟื้นฟูเมืองหลังจากภัยพิบัติ ลักษณะเด่นของโกเบ ลูมินาเรีย คืออุโมงค์ไฟที่ออกแบบโดยศิลปินจากอิตาลี ที่สร้างแสงไฟและการตกแต่งให้มีความหรูหราและอลังการเหมือนกับสถาปัตยกรรมยุโรปยุคกลาง
อุโมงค์แสงสีสันสดใสเหล่านี้เป็นเส้นทางยาวที่ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้อย่างเพลิดเพลิน โดยมีไฟประดับเป็นรูปแบบโครงสร้างและลวดลายที่วิจิตรสวยงาม การประดับไฟในโกเบ ลูมินาเรียเป็นเอกลักษณ์ที่มีความหมายและสร้างบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ในยามค่ำคืน ทั้งนี้ งานโกเบ ลูมินาเรียจัดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ประมาณสองสัปดาห์ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากในแต่ละปี
- จุดเด่น: อุโมงค์แสงไฟและการประดับในสไตล์อิตาลีที่เต็มไปด้วยสีสันสดใสและดีไซน์ที่งดงาม
- ช่วงเวลา: ต้นถึงกลางเดือนธันวาคม (จัดเป็นระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์)
- การเดินทาง: อยู่ใกล้กับสถานี Motomachi หรือสถานี Sannomiya ในเมืองโกเบ
ขอบคุณภาพจาก : en.japantravel.com
8. งานไฟประดับแม่น้ำเมงุโระ (Meguro River Illumination) – โตเกียว
งานไฟประดับแม่น้ำเมงุโระ (Meguro River Illumination) เป็นงานไฟประดับสุดโรแมนติกที่จัดขึ้นบริเวณแม่น้ำเมงุโระในย่านเมกุโระ กรุงโตเกียว ซึ่งในช่วงฤดูหนาวนี้จะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นแม่น้ำสายแห่งแสงสีชมพูที่คล้ายกับซากุระบาน เรียกว่า “Nakameguro Blue Cave” โดยงานนี้จะมีการติดตั้งไฟ LED ตลอดสองฝั่งแม่น้ำบนต้นไม้ตลอดทาง ทำให้แม่น้ำเมงุโระดูเหมือนมีดอกซากุระสีชมพูบานสะพรั่งในช่วงหน้าหนาว สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและโรแมนติกให้กับผู้เข้าชมอย่างมาก
งานไฟประดับแม่น้ำเมงุโระมีระยะทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ตลอดสองฝั่งแม่น้ำสามารถเดินชมแสงไฟที่สะท้อนลงบนผิวน้ำได้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลายามค่ำคืนจะทำให้แสงไฟที่ประดับต้นไม้ส่องประกายสวยงาม งานนี้ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งจากนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและการเดินเล่นท่ามกลางบรรยากาศที่สงบและโรแมนติก
- จุดเด่น: ต้นไม้สองฝั่งแม่น้ำที่ประดับไฟ LED สีชมพูตลอดเส้นทาง ให้บรรยากาศเหมือนฤดูซากุระในฤดูหนาว
- ช่วงเวลา: ปลายพฤศจิกายนถึงต้นมกราคม
- การเดินทาง: สามารถเดินจากสถานี Nakameguro เพียงไม่กี่นาที
ขอบคุณภาพจาก : tokyolocalized.com
9. งานไฟประดับชินากาวะ ซีซัน เทอเรส (Shinagawa Season Terrace Illumination) – โตเกียว
งานไฟประดับชินากาวะ ซีซัน เทอเรส (Shinagawa Season Terrace Illumination) เป็นหนึ่งในงานประดับไฟที่ห้ามพลาดในโตเกียวในช่วงฤดูหนาว จัดขึ้นที่อาคาร Shinagawa Season Terrace ซึ่งตั้งอยู่ในย่านชินากาวะ งานนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการจัดแสดงแสงไฟที่งดงามและมีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะการใช้ไฟ LED นับแสนดวงที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีต ทำให้เกิดบรรยากาศที่ทันสมัยและอบอุ่นในพื้นที่สวนรอบๆ อาคาร ท่ามกลางวิวของโตเกียวทาวเวอร์ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
พื้นที่รอบอาคารและสวนได้รับการตกแต่งด้วยไฟสีขาวและสีฟ้าที่ส่องสว่างอย่างนุ่มนวล สร้างความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย ผู้เข้าชมสามารถเดินเล่นและเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์รอบๆ หรือถ่ายภาพที่ระลึกกับแสงไฟที่สวยงาม นอกจากนี้ บริเวณรอบๆ ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ให้บริการ เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนพร้อมชมวิวและสัมผัสบรรยากาศเทศกาลอย่างเต็มอิ่ม
- จุดเด่น: ไฟ LED สีขาวและสีฟ้าตกแต่งรอบอาคารและสวน พร้อมวิวโตเกียวทาวเวอร์ที่สวยงามในยามค่ำคืน
- ช่วงเวลา: พฤศจิกายนถึงปลายธันวาคม
- การเดินทาง: เดินจากสถานี Shinagawa ประมาณ 10 นาที
ขอบคุณภาพจาก : tokyolocalized.com
10. งานไฟประดับชิบูย่า บลู เคฟ (Shibuya Blue Cave Illumination) – โตเกียว
งานไฟประดับชิบูย่า บลู เคฟ (Shibuya Blue Cave Illumination) เป็นหนึ่งในงานแสดงไฟประดับที่โดดเด่นที่สุดในกรุงโตเกียวในช่วงฤดูหนาว โดยจัดขึ้นทุกปีบริเวณถนนจากสวนโยโยกิ (Yoyogi Park) ไปจนถึงย่านชิบูย่า งานนี้มีจุดเด่นที่การใช้แสงไฟ LED สีน้ำเงินเข้มที่ประดับประดาตลอดแนวต้นไม้สองฝั่งถนนระยะทางกว่า 800 เมตร ทำให้เกิดบรรยากาศคล้าย “อุโมงค์น้ำสีฟ้า” อันงดงามและอลังการ เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวและชาวเมืองโตเกียวที่ต้องการสัมผัสความสวยงามแบบโรแมนติก
การจัดแสดงไฟสีฟ้าสดใสสะท้อนลงบนพื้นถนน สร้างภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจเหมือนกับการเดินผ่านทางที่ปกคลุมไปด้วยประกายแสงดาวในคืนที่มืดมิด งานนี้ได้รับความนิยมอย่างมากจนมีผู้คนมาเยี่ยมชมจำนวนมากทุกปี โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดที่ผู้คนจะมาถ่ายภาพและเดินเล่นท่ามกลางอุโมงค์แสงสีฟ้าที่ให้ความรู้สึกทั้งเย็นสบายและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน
- จุดเด่น: อุโมงค์แสงไฟ LED สีน้ำเงินสดใสตลอดแนวถนน ให้บรรยากาศเหมือนเดินอยู่ใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ส่องประกาย
- ช่วงเวลา: ปลายพฤศจิกายนถึงธันวาคม
- การเดินทาง: อยู่ใกล้สถานี Shibuya และสถานี Yoyogi Koen เดินเพียงไม่กี่นาที
ขอบคุณภาพจาก : jw-webmagazine.com
บทสรุป
การชมไฟประดับในญี่ปุ่นเป็นกิจกรรมที่ต้องมีในลิสต์ของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนในช่วง คริสต์มาส และ ปีใหม่ ไม่เพียงแค่ได้สัมผัสบรรยากาศที่งดงามและอบอุ่น แต่ยังได้เห็นศิลปะการจัดแสดงแสงไฟที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความสร้างสรรค์ของญี่ปุ่นอีกด้วย งานไฟประดับทั้ง 10 แห่งที่แนะนำในบทความนี้คือสิ่งที่คุณไม่ควรพลาดหากมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเทศกาล
ชมบทความท่องเที่ยวอื่นๆได้ที่นี้