จางเจียเจี้ย เมืองที่ตั้งอยู่ในมณฑลหูหนานของจีน เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติและภูมิประเทศที่งดงาม ที่นี่เป็นที่รู้จักทั่วโลกจากภูเขาหินทรายควอตซ์ที่สูงชันและป่าที่เขียวชอุ่ม ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างภูเขาลอยฟ้าในภาพยนตร์เรื่อง “Avatar” ถ้าคุณกำลังมองหาสถานที่ที่จะสัมผัสกับความยิ่งใหญ่และความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ จางเจียเจี้ย คือ จุดหมายที่ไม่ควรพลาด บทความนี้จะพาคุณไปชม 6 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในจางเจียเจี้ย พร้อมเคล็ดลับการวางแผนเที่ยวที่ง่ายและไม่ซับซ้อน
1. ภูเขาเทียนเหมิน (Tianmen Mountain)
ภูเขาเทียนเหมิน หรือ “ประตูสวรรค์” เป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าประทับใจที่สุดในจางเจียเจี้ย จุดเด่นของที่นี่คือถ้ำเทียนเหมิน ซึ่งเป็นรูปร่างของประตูขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ตั้งอยู่ที่ความสูงกว่า 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล การเดินทางขึ้นไปยังยอดเขาเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เริ่มต้นด้วยการนั่งกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก ระยะทางกว่า 7.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที กระเช้าจะพาคุณลอยขึ้นไปเหนือภูเขาและหุบเขา ให้คุณได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของธรรมชาติด้านล่าง
เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขา คุณจะพบกับทางเดินกระจกสกายวอล์คที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง ท้าทายความกล้าของนักท่องเที่ยวด้วยพื้นกระจกใสที่สามารถมองเห็นหุบเขาลึกด้านล่าง นอกจากนี้ ยังมีบันได 999 ขั้น ที่นำไปสู่ถ้ำเทียนเหมิน การเดินขึ้นบันไดเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นการทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกาย แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับพลังของธรรมชาติและความศรัทธาที่ลึกซึ้ง
ขอบคุณภาพจาก BBC
ภูเขาเทียนเหมินยังมีเส้นทางเดินป่าที่ผ่านป่าดิบชื้นและดอกไม้ป่าที่หายาก บรรยากาศที่นี่เงียบสงบและสดชื่น ทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้หลบหนีจากความวุ่นวายของชีวิตเมือง นอกจากนี้ ยังมีวัดเทียนเหมินซาน ซึ่งเป็นวัดพุทธที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งอยู่บนยอดเขา ให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและศาสนาของจีน
2. เขตทิวทัศน์หยวนเจียเจี้ย (Yuanjiajie Scenic Area)
หยวนเจียเจี้ยเป็นที่รู้จักในฐานะแรงบันดาลใจในการสร้างภูเขาลอยฟ้าในภาพยนตร์ “Avatar” ที่นี่มีภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ ยอดเขาหินทรายควอตซ์ที่สูงชันและเรียงรายเป็นแถว หมอกที่ปกคลุมยอดเขาทำให้บรรยากาศดูเหมือนอยู่ในโลกแฟนตาซี การเดินทางขึ้นไปยังจุดชมวิวทำได้โดยการนั่งลิฟต์ไป๋หลง ซึ่งเป็นลิฟต์กลางแจ้งที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูงกว่า 326 เมตร ลิฟต์นี้จะพาคุณขึ้นไปยังยอดเขาในเวลาเพียงไม่กี่นาที
เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขา คุณจะได้พบกับวิวที่งดงามของภูเขาและหุบเขาที่สลับซับซ้อน สะพานอันดับหนึ่งใต้ฟ้า เป็นสะพานหินธรรมชาติที่เชื่อมระหว่างยอดเขาสองยอด เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพและชมวิว 360 องศา การเดินสำรวจบริเวณนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและเข้าใจว่าทำไมที่นี่ถึงเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
นอกจากนี้ การชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินที่หยวนเจียเจี้ยเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด แสงสีที่เปลี่ยนไปตามเวลาและหมอกที่ลอยอยู่รอบๆ ยอดเขา ทำให้เกิดภาพที่สวยงามและน่าประทับใจ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักถ่ายภาพที่จะเก็บภาพที่น่าจดจำ
3. ภูเขาเทียนจื่อ (Tianzi Mountain)
ภูเขาเทียนจื่อเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนจางเจียเจี้ย มีชื่อเสียงในเรื่องของยอดเขาหินทรายที่เรียงรายเป็นแนวเสาสูงตระหง่าน และหมอกที่ลอยอยู่รอบๆ ทำให้เกิดภาพที่งดงามและลึกลับ ตำนานเล่าว่าที่นี่เคยเป็นที่ครองของราชาเซียง ซึ่งต่อสู้เพื่อความเป็นอิสระของชนเผ่าถู่เจีย บรรยากาศที่นี่เต็มไปด้วยความเงียบสงบและความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ
การเดินทางขึ้นสู่ภูเขาเทียนจื่อสามารถทำได้ด้วยการนั่งกระเช้าลอยฟ้า ที่จะพาคุณผ่านทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาและหุบเขา เมื่อขึ้นมาถึงยอดเขา คุณจะได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่กว้างไกล เห็นยอดเขาหินทรายที่เรียงรายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในบางครั้งจะถูกปกคลุมด้วยหมอก ทำให้ดูเหมือนกับทะเลเมฆ นักถ่ายภาพจะต้องหลงใหลกับโอกาสในการเก็บภาพที่น่าประทับใจ ที่นี่เป็นสวรรค์ของคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพธรรมชาติ
นอกจากนี้ ยังสามารถเดินเล่นบนเส้นทางเดินเท้าที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งจะพาคุณผ่านจุดชมวิวต่างๆ ที่มีทิวทัศน์ที่ไม่ซ้ำกัน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง ภูเขาเทียนจื่อจะมีความงดงามเป็นพิเศษ ด้วยสีสันของต้นไม้และดอกไม้ที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล การมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ควรทำ เพื่อสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติในช่วงเวลาที่ดีที่สุด
4. ลำธารแส้ทองคำ (Golden Whip Stream)
ลำธารแส้ทองคำเป็นเส้นทางเดินเท้ายาวประมาณ 7.5 กิโลเมตร ที่ผ่านป่าและลำธารใสสะอาด บรรยากาศเงียบสงบและสดชื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนและสัมผัสกับธรรมชาติที่แท้จริง เส้นทางเดินนี้ล้อมรอบด้วยภูเขาหินทรายที่สูงชัน ทำให้คุณรู้สึกเหมือนถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติอย่างแท้จริง
ตลอดเส้นทาง คุณจะได้ยินเสียงน้ำไหลที่เป็นเหมือนเสียงดนตรีธรรมชาติ พบกับลิงและสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเพิ่มความสนุกสนานในการเดินทาง แต่ควรระมัดระวังและไม่ควรให้อาหารสัตว์เหล่านี้ นอกจากนี้ ลำธารแส้ทองคำยังเป็นสถานที่ที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์จีนหลายเรื่อง เนื่องจากความงดงามและบรรยากาศที่เงียบสงบ
การเดินทางบนเส้นทางนี้ไม่ยากและเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย คุณสามารถใช้เวลาในช่วงเช้าหรือบ่ายในการเดินเพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชน และมีโอกาสได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ อย่าลืมเตรียมน้ำดื่มและของว่างเล็กน้อย เพื่อเติมพลังระหว่างการเดินทาง การพักผ่อนที่ลำธารแส้ทองคำจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและได้รับพลังจากธรรมชาติ
5. ทะเลสาบเป่าฟง (Baofeng Lake)
ทะเลสาบเป่าฟงเป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ในจางเจียเจี้ย ตั้งอยู่บนภูเขาและล้อมรอบด้วยป่าไม้และยอดเขาที่สูงชัน น้ำในทะเลสาบใสสะอาดและเงียบสงบ สะท้อนภาพของภูเขาและท้องฟ้า ทำให้เกิดภาพที่งดงามและเงียบสงบ การเดินทางมายังทะเลสาบเป่าฟงไม่ซับซ้อน คุณสามารถนั่งรถบัสท้องถิ่นหรือแท็กซี่มายังจุดขึ้นเรือ
เมื่อมาถึง คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สดชื่นและเงียบสงบ การล่องเรือในทะเลสาบเป็นกิจกรรมหลักที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เรือจะพาคุณล่องไปในน้ำที่ใสสะอาด ผ่านภูเขาและป่าไม้ที่ล้อมรอบ ระหว่างการล่องเรือ คุณจะได้ยินเสียงเพลงพื้นเมืองจากชาวบ้านที่ร้องเพลงต้อนรับ เสียงเพลงที่ไพเราะและท่วงทำนองที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวถิ่น ทำให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด
ขอบคุณภาพจาก tripadvisor
ทะเลสาบเป่าฟงยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ โดยเฉพาะภาพสะท้อนของภูเขาและท้องฟ้าบนผิวน้ำที่ใสสะอาด แสงที่เปลี่ยนไปตามเวลาและหมอกที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีความงดงามและเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ การเดินเล่นรอบๆ ทะเลสาบยังให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติที่บริสุทธิ์ และพบกับสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ เช่น นกและสัตว์เล็กต่างๆ
สำหรับผู้ที่สนใจในวัฒนธรรมและประเพณี การเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวบ้านใกล้เคียงเป็นสิ่งที่น่าสนใจ คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน การทำงานหัตถกรรมท้องถิ่น และการเกษตรที่ยังคงใช้วิธีดั้งเดิม การซื้อสินค้าหัตถกรรมเป็นของฝากหรือของที่ระลึกก็เป็นทางเลือกที่ดี ที่จะสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นและเก็บความทรงจำที่ดีจากการเดินทางครั้งนี้
6. ถ้ำมังกรเหลือง (Yellow Dragon Cave)
ถ้ำมังกรเหลืองเป็นหนึ่งในถ้ำที่ใหญ่และซับซ้อนที่สุดในจีน ด้วยความยาวกว่า 15 กิโลเมตร และพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่งดงาม แม่น้ำใต้ดิน น้ำตกภายในถ้ำ และห้องต่างๆ ที่มีความสูงถึง 50 เมตร การสำรวจถ้ำมังกรเหลืองเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นและเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
การท่องเที่ยวภายในถ้ำสามารถทำได้โดยการเดินเท้าและนั่งเรือในแม่น้ำใต้ดิน คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของหินงอกหินย้อยที่มีรูปร่างและสีสันที่หลากหลาย แสงไฟที่ถูกจัดวางอย่างดีทำให้หินเหล่านี้ส่องแสงระยิบระยับ สร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจ การนั่งเรือในแม่น้ำใต้ดินเป็นประสบการณ์ที่พิเศษ คุณจะล่องไปในน้ำที่ใสสะอาด ผ่านห้องต่างๆ ที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย การได้ยินเสียงน้ำหยดและความเงียบสงบภายในถ้ำ ทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปในโลกอีกใบหนึ่ง
ถ้ำมังกรเหลืองยังมีตำนานและเรื่องเล่าที่น่าสนใจ ซึ่งเกี่ยวข้องกับมังกรและสมบัติล้ำค่า เรื่องเล่าเหล่านี้เพิ่มความลึกลับและเสน่ห์ให้กับสถานที่ นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของพื้นที่ผ่านการเยี่ยมชมถ้ำนี้
การถ่ายภาพภายในถ้ำเป็นสิ่งที่ท้าทายแต่คุ้มค่า ด้วยแสงที่น้อยและพื้นที่ที่ซับซ้อน แต่ถ้าคุณสามารถเก็บภาพความงดงามของหินงอกหินย้อยและบรรยากาศภายในถ้ำได้ จะเป็นความทรงจำที่ล้ำค่าและน่าจดจำ
วางแผนเที่ยวง่ายๆ
การวางแผนเที่ยวจางเจียเจี้ยไม่จำเป็นต้องซับซ้อน หากคุณทำตามเคล็ดลับดังต่อไปนี้:
การเดินทาง
- โดยเครื่องบิน: สนามบินที่ใกล้ที่สุดคือสนามบินจางเจียเจี้ยเฮ้อหัว (Zhangjiajie Hehua Airport) มีเที่ยวบินตรงจากเมืองใหญ่ในจีน เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว
- โดยรถไฟ: มีรถไฟความเร็วสูงจากเมืองต่างๆ มายังสถานีรถไฟจางเจียเจี้ย
- เคล็ดลับ: ควรจองตั๋วล่วงหน้าออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ เพื่อความสะดวกและประหยัดเวลา
ที่พัก
- เลือกที่พักใกล้สถานที่ท่องเที่ยว: เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทาง เช่น ที่พักในบริเวณอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยหรือใกล้กับภูเขาเทียนเหมิน
- ประเภทที่พัก: มีตั้งแต่โรงแรมหรู โฮสเทล ไปจนถึงบ้านพักแบบโฮมสเตย์
- เคล็ดลับ: ตรวจสอบรีวิวและคะแนนจากผู้เข้าพักก่อนการจอง เพื่อให้ได้ที่พักที่ตรงกับความต้องการ
การเดินทางภายใน
- รถบัสท่องเที่ยว: มีบริการรถบัสภายในอุทยานและระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
- แท็กซี่และรถเช่า: สำหรับความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัว
- ไกด์ท้องถิ่น: การจ้างไกด์จะช่วยให้คุณไม่พลาดจุดสำคัญและเข้าใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากขึ้น
- เคล็ดลับ: ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแผนที่หรือการแปลภาษา เพื่อช่วยในการสื่อสารและการนำทาง
เวลาในการเที่ยว
- แผนการเที่ยว 3-4 วัน: เพื่อให้สามารถเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทั้งหมดโดยไม่เร่งรีบ
- จัดลำดับสถานที่: เริ่มจากสถานที่ที่อยู่ใกล้กันเพื่อประหยัดเวลาในการเดินทาง
- เคล็ดลับ: ตรวจสอบเวลาเปิด-ปิดของสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่ง และวางแผนให้เหมาะสม
สภาพอากาศและฤดูกาล
- ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) เมื่ออากาศเย็นสบายและมีหมอกสวยงาม
- ตรวจสอบพยากรณ์อากาศ: จางเจียเจี้ยมีฝนตกบ่อย ควรเตรียมเสื้อกันฝนหรือร่ม
- เคล็ดลับ: สวมเสื้อผ้าที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพอากาศ เช่น เสื้อแจ็คเก็ตที่สามารถถอดออกได้
สิ่งที่ควรเตรียม
- รองเท้าเดินป่า: ที่สบายและกันลื่น สำหรับการเดินบนเส้นทางธรรมชาติ
- กระเป๋าเป้เบาๆ: สำหรับใส่น้ำ ของว่าง และสิ่งของจำเป็น
- กล้องถ่ายรูปหรือสมาร์ทโฟน: เพื่อเก็บภาพความทรงจำที่งดงาม
- ยาประจำตัวและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น: เผื่อในกรณีฉุกเฉิน
- เคล็ดลับ: เตรียมเงินสดในสกุลเงินหยวน เนื่องจากบางสถานที่อาจไม่รับบัตรเครดิต
สรุป
การเที่ยวจางเจียเจี้ยสามารถเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและไม่ซับซ้อน หากคุณวางแผนล่วงหน้าและทำตามเคล็ดลับที่เราได้แนะนำ ด้วยธรรมชาติที่งดงามและจุดชมวิวที่หลากหลาย 6 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในจางเจียเจี้ย ที่เราได้นำเสนอ จะทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความประทับใจ
การวางแผนเที่ยวง่ายๆ ไม่ซับซ้อนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณรู้ว่าควรเริ่มต้นที่ไหน และมีข้อมูลที่ถูกต้อง หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวสำหรับการผจญภัยครั้งต่อไปของคุณในจางเจียเจี้ย
ชมบทความท่องเที่ยวอื่นๆได้ที่นี้