หากใครเคยไปเยือนเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซีย จะมีวังอยู่วังหนึ่งที่ไม่เคยร้างราผู้คนไปเยือนนั่นก็คือ วังยุซซุปอฟ (Yusupov House) ริมแม่น้ำโมยก้า
วังยุซซุปอฟ (Yusupov House) เลื่องชื่อในฐานะที่เป็นสถานที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์ฉากหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซีย ปลิดฉากชีวิตนักพรตนอกรีดที่ไต่เต้าสู่อำนาจในราชสำนัก จากการใช้พลังลึกลับบรรเทาอาการเจ็บป่วยด้วยโรคเลือดไหลไม่หยุดของมกุฎราชกุมารอเล็กเซย์องค์น้อยได้อย่างน่าอัศจรรย์จนเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยขององค์จักรพรรดิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์จักรพรรดินีผู้มีศรัทธาให้กับนักพรตนามรัสปูตินผู้นี้อย่างสุดจิตสุดใจ
ที่มาของตระกูลยุซซุปอฟ (Yusupov House)
ตระกูลยุซซุปอฟ (Yusupov House) เป็นตระกูลที่ได้ชื่อว่าร่ำรวยที่สุดในรัสเซีย ในยุคต้นศตวรรษที่ 20 ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ตระกูลยุซซุปอฟครอบครองกิจการหลายอย่าง เช่น เจ้าของโรงงาน เจ้าของเหมืองแร่ กิจการค้าน้ำมัน รวม ๆ กันเป็นสิบ ๆ แห่ง เป็นเจ้าของที่ดินนับผืนไม่ถ้วน กิจการห้างร้านต่าง ๆ รวมไปถึงเป็นตระกูลที่เก็บรวบรวมบรรดาชุดเครื่องเพชร ภาพวาดจากศิลปินชื่อดังไว้อย่างมากมายมหาศาล และยังเป็นตระกูลที่รวยที่สุดในรัสเซียของยุคนั้นอีกด้วย
ชื่อของ ตระกูลยุซซุปอฟ (Yusupov House) มาจากชื่อของข่านแห่งไครเมียองค์หนึ่งพระนาม “ยุซุฟ” (Yusuf) ผู้ที่สืบเชื้อสายมาจาก ข่านเอดิกู (Edigu) หนึ่งในแม่ทัพคู่ใจของ อามีร์ ตีมูร์ (Amir Timur) ผู้เกรียงไกรแห่งเอเชียกลาง (ถูกยกย่องให้เป็นวีรบุรุษของชนชาติอุสเบก ผู้พิชิตเกือบครึ่งโลกเป็นรองเพียงเจงกิสข่านเท่านั้น) ก็เหมือนขุนศึกคนอื่น ๆ ที่หลังจากจักรวรรดิมองโกลที่ยิ่งใหญ่เริ่มแตกแยก ขุนศึกก็สถาปนาตนเป็นข่านในพื้นที่ที่ตนครอบครองอยู่ เอดิกูก็เช่นกันที่ตั้งตนเป็นข่านและก่อตั้งรัฐข่านแห่งไครเมียในศตวรรษที่ 14 คาบสมุทรรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนยื่นออกไปกลางทะเลดำ โดยมีลูกหลานสืบทอดต่อมาและรบราฆ่าฟันกันเองจนมาสู่ยุคของยุซุฟในศตวรรษที่ 15
ในห้วงศตวรรษที่ 13 ถึงศตวรรษที่ 15 เป็นที่ทราบกันดีว่าชาวรัสเซียต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของอนารยะชน ชาวตาตาร์หรือมองโกล (Tatars or Mongol) และถือว่าเป็นยุคมืดของประวัติศาสตร์รัสเซีย และชาวรัสเซียก็หมายหัวพวกตาตาร์ว่าเป็นศัตรูผู้ปกครองที่สักวันหนึ่งต้องพิชิตลงให้ได้เพื่ออิสรภาพอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะในรัชสมัยซาร์อิวานที่ 4 ผู้โหดเหี้ยม (Ivan the Terrible) พระองค์เป็นผู้บดขยี้พวกตาตาร์ที่เมืองคาซานและเมืองอัสตราข่าน เปิดฉากรุกคืบครอบครองดินแดนไซบีเรียและตะวันออกไกล ปิดฉากอิทธิพลของพวกตาตาร์โดยสิ้นเชิง
จากชนเผ่าเข้าสู่ราชสำนักรัสเซีย
แม้ว่าภาพรวมตาตาร์หลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะ ตาตาร์แห่งข่านกระโจมทอง (Golden Horde) จะเป็นโจทก์คนสำคัญของพวกรัสเซีย แต่ข่านยุซุฟแห่ง Nogai Horde กลับเป็นพันธมิตรที่ดีของซาร์อิวานที่ 4 และหนึ่งในลูกหลานนามว่าอับดุล มีร์ซา (Abdul Mirza) ได้อพยพไปสู่มอสโกซึ่งคาดว่าหนีราชภัยในการแย่งชิงราชสมบัติข่านที่เกิดขึ้นในทุกยุค ทุกสมัย และทำการเปลี่ยนจากศาสนาอิสลามเป็นคริสต์รัสเชียนออร์โธด็อกซ์แล้วได้รับการเฉลิมพระนามจากซาร์ฟีโอดอร์ที่ 1 ว่า “เจ้าชายดมิทรี่ ยุซซุุปอฟ” ส่วนลูกหลานคนอื่น ๆ ที่แย่งชิงราชสมบัติกันก็ได้ขึ้นครองบัลลังก์ต่อ แต่ในท้ายที่สุดก็ต้องเสียรัฐข่านแห่งไครเมียให้กับรัสเซียไปในช่วงศตวรรษที่ 18 ในสมัยพระนางแคเทอรีนที่สอง มหาราชินี ปิดฉากรัฐข่านแห่งไครเมีย
ตระกูลยุซซุปอฟ (Yusupov House) ในราชสำนักรัสเซีย
ลูกหลานตระกูลยุซซุปอฟนับว่าได้ดิบได้ดีหลังจากมาสวามิภักดิ์ต่อมอสโก ยกตัวอย่างเช่น
- เจ้าชายกริโกรี่ ยุซซุปอฟ (Grigori Grigorievich Yusupov) เป็นพระสหายสนิทกับซาร์ปีเตอร์มหาราช ผู้ร่วมสร้างให้กองทัพเรือรัสเซียเกรียงไกรและรัฐมนตรีกลาโหม
- เจ้าหญิงมาเรีย ยุซซุโปวา (Maria Grigorievna Yusupova) นางสนองพระโอษฐ์ในซารีนาแคเทอรีนที่ 1
- เจ้าชายบอริส ยุซซุปอฟ (Boris Grigoryevich Yusupov) ผู้ว่าการนครมอสโก วุฒิสมาชิก ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพเรือและครูใหญ่แห่งโรงเรียนหลวงและยังเป็นผู้ถวายคำแนะนำซารีนาอลิซาเบธให้สร้างโรงละครแห่งแรกขึ้นในเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก
- เจ้าชายนิโคลัย ยุซซุปอฟ (Nikolay Yusupov) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ผู้อำนวยการโรงละครหลวงและนักการทูตมากฝีมือ เคยเดินทางไปทั่วยุโรปและยังเป็นขุนนางคนสำคัญผู้ถวายงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทในรัชสมัยซารีนาแคเทอรีนที่ 2 มหาราชินี ซาปาเวล และซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 (สังเกตได้ว่าตระกูลนี้จะตั้งชื่อซ้ำ ๆ กัน เอาชื่อพ่อหรือปู่มาเป็นชื่อลูก ลูกเอาชื่อพ่อหรือปู่มาตั้งชื่อหลานเป็นต้น)
จุดเปลี่ยนของตระกูลยุซซุปอฟ (Yusupov House)
แต่สำหรับจุดเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์เกิดขึ้นใน ยุคของเจ้าชายเฟลิกซ์ ยุซซุปอฟ (Felix Yusupov) (ผู้ลูก) ผู้เป็นโอรสของเจ้าชายเฟลิกซ์ ยุซซุปอฟ ซูมาโรคอฟ-เอลสตัน (Prince Felix Yusupov Sumarokov-Elston) กับเจ้าหญิงซิไนดา ยุซซุโปวา สตรีที่ได้ชื่อว่าเป็นความงามแห่งยุคสมัยและร่ำรวยที่สุดในรัสเซีย ทุกอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนไปหมดราวกับนิทานในตำนาน
ในสมัยของเจ้าชายเฟลิกซ์ผู้ลูกมีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาล อาทิ ที่ดินกว่า 100,000 เอเคอร์ โรงงานน้ำตาล โรงทอผ้า โรงเลื่อย โรงอิฐ เหมืองแร่ โรงกลั่นนับไม่ถ้วน ในขณะเดียวกันชื่อเสียงและชื่อเสียของนักพรตนอกรีดนาม กรีโกรี รัสปูติน (Grigory Rasputin) ก็เฟื่องฟูไม่แพ้ความรวยของเจ้าชาย ที่ถือว่าตนได้รับการหนุนหลังจากซาร์และซารีนา โดยเฉพาะซารีนาอเล็กซานดราผู้มอบศรัทธาให้กับนอกบวชคนนี้อย่างสุดจิดสุดใจจากการที่เขาสามารถรักษาอาการโรคเลือดไหลไม่หยุดให้แด่ซาเรวิชอเล็กเซย์ได้
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รัสปูตินได้รับการไว้วางพระราชหฤทัยเข้านอกออกใน เริ่มมีอำนาจมากขึ้น ในที่สุดก็มีอิทธพลในการที่จะสั่งให้แต่งตั้งหรือปลดขุนนางคนไหนก็ได้รวมไปถึงจะเสพสังวาสนางกำนัลกี่สิบกี่ร้อยคนก็ได้ที่ศรัทธานักพรตคนนี้โดยใช้อกุศโลบายว่าการเสพสังวาสถือเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมไปโดยปริยาย ทำให้บรรดาชนชั้นสูงบางส่วนที่ไม่ได้ศรัทธาหรือถึงขั้นรังเกียจนักพรตจอมสกปรกนี้เริ่มวางแผนกำจัดเขาก่อนที่สถานการณ์จะลุกลามไปมากกว่านี้