การผจญภัยในอลาสก้า (Alaska) ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับคนที่อยากประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต โดยจะมีการล่องเรือชมอลาสก้า (Alaska) หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีการจอดแวะที่ท่าเรือต่างๆเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศ และวิถีชีวิตของชาวอลาสก้าอีกด้วย รับรองได้เลยว่าจะได้สัมผัสประสบการ์ที่คุ้มค่า และไม่เหมือนใครแน่นอน
ทำไมถึงต้องไปล่องเรือที่อลาสก้า (Alaska)
1.ตื่นตาตื่นใจกับทัศนียภาพอันน่าทึ่ง การล่องเรือจะช่วยให้คุณเห็นสถานที่ท่องเที่ยว ธารน้ำแข็ง ภูเขาน้ำแข็ง และสัตว์อย่างใกล้ชิด และสะดวกสบาย
2.การเที่ยวที่ไม่ซ้ำใคร การล่องเรือในอลาสก้าจะมีโอกาสในการหยุดเที่ยวที่เมืองเล็กๆที่ท่าเรือทำให้มีโอกาสพิเศษสำหรับการเที่ยวชายฝั่ง เช่น พายเรือคายัค หรือแม้แต่การลากเลื่อนด้วยสุนัข
3.การเดินทางที่สะดวก การล่องเรืออาจจะเป็นวิธีที่สะดวกในการชมส่วนต่าง ๆ ของอลาสก้าโดยไม่จำเป็นต้องเช่ารถไปตามถนน
4.สิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือ เรือสำราญในปัจจุบันมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รวมถึงอาหารรสเลิศ ความบันเทิง และตัวเลือกการผ่อนคลาย เช่น สปา และสระว่ายน้ำ
5.แสงเหนือก็มีนะ อลาสก้าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกในการชมแสงเหนือ นักท่องเที่ยวสามารถชมแสงเหนือได้จากสถานที่ต่างๆ ทั่วอลาสก้า
แนะนำเส้นทางล่องเรือสำราญสุดหรูของ Silversea Seward (Anchorage, Alaska) to Vancouver
เป็นการล่องเรือ 12 วัน ซึ่งจะมีราคาอยู่ที่ 8,350 USD ค่าบริการจะรวมอาหาร และเครื่องดื่มในเรือ โดยจะพาไปล่องเรือในอลาสก้าที่สามารถเห็นกันแบบจุใจ ในมุมมองที่ไม่เหมือนใคร โดยจะมีจุดแวะพักตามท่าเรือหลายแห่งในระหว่างทางอีกด้วย
ตัวอย่างสถานที่ที่ล่องเรือผ่าน
Seward
การล่องเรือจะเริ่มต้นที่เมือง Seward หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า ประตูสู่เคไนฟยอร์ด (Gateway to the Kenai Fjords National Park) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทร Kenai ที่เป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติ Kenai Fjords ที่นี่จะสามารถชมธารน้ำแข็ง Fjords และวาฬหลังค่อมที่เล่นน้ำผ่านไปมา เพลิดเพลินตาเป็นอย่างยิ่ง
Valdez
เมืองชายฝั่งที่ตั้งอยู่ทางใต้ตอนกลางของอลาสก้า ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของ Prince William Sound ซึ่งจะสามารถชมธารน้ำแข็ง Colombier ที่เป็นธารน้ำแข็งที่เคลื่อนที่ได้เร็วที่สุดในโลก
Hubbard Glacier
ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกของอลาสก้า ใกล้กับเมืองยาคุตัต เป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งที่ใหญ่ และมีพลังมากที่สุดในอลาสก้า โดยมีความยาวกว่า 76 ไมล์และลึก 1,200 ฟุต ณ จุดที่หนาที่สุด Mount Roberts Tramway เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ตั้งอยู่ในเมืองจูโน นักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพอันน่าทึ่งของเมือง และความงามโดยรอบจากยอดเขา Mount Roberts ได้อีกด้วย
Skagway
เป็นศูนย์กลางสำคัญในช่วง Klondike Gold Rush ในช่วงปลายทศวรรษ 1800 เมื่อผู้คนหลายพันคนเดินทางเข้ามาเพื่อไปหาทองคำใน Yukon ซึ่งสามารถไปยังเส้นทาง Chilkoot Trail Hike เพื่อเดินตามรอยเท้าของผู้แสวงหาทองคำ โดย Skagway จะตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของ Inside Passage
Ketchikan
โดยเมืองนี้อยู่ที่ประตูทางใต้ของเส้นทาง Inside Passage อันเลื่องชื่อ และ เป็นที่รู้จักในนาม “Salmon Capital of the World ” โดยเมือง Ketchikan เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ด้วยศิลปะที่งดงาม โดยสามารถชมทิวทัศน์ที่สวยงาม และความสง่างามของอนุสรณ์สถานแห่งชาติ Misty Fjords (Misty Fjords National Monument) อันงดงาม และเป็นที่อยู่อาศัยของหมีกริซลี่ และหมีดำ
ถ้าใครสนใจไปเยื่อนอลาสก้า (Alaska) เราก็มีทัวร์ล่องเรืออันแสนหรูหราสามารถเช้าชมได้ที่นี่ หรือถ้าใครอยากรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆ แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร โดยเราจะนำความรู้ดีๆ สาระดีๆ หรือประวัติศาสตร์ของสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ มาบอกเล่าเรื่องราวให้ได้อ่านกัน สามารถติดตาม หมอๆ ตะลุยโลก และPatourlogy หรือถ้าใครต้องการท่องเที่ยวแบบเป็นกรุ๊ปส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นทัวร์นอกกระแส ขั้วโลกเหนือยังขั้วโลกใต้ ที่ประทับใจยันโลกหน้า สามารถติดต่อทาง Facebookและ Line ได้เลย เรายินดีพร้อมบริการทุกคนเป็นอย่างยิ่ง