เส้นทางรถไฟที่ยาวที่สุดในโลกเกือบหนึ่งหมื่นกิโลเมตร คือสุดยอดแห่งการเดินทางบนรางที่ทุกๆคนใฝ่ฝันถึง
ความฝันของมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ คือการที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้ร่วมโดยสารไปกับขบวนรถไฟเส้นที่ยาวที่สุดในโลก นามว่า “ทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย” ทางรถไฟสายนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องราวของวัฒนธรรมที่หลากหลาย ผู้คนหลายเผ่าพันธุ์ที่จะได้พบเจอ แต่ยังรวมไปถึงประติมากรรมธรรมชาติอันยิ่งใหญ่หลายแห่งตลอดความยาวเกือบหนึ่งหมื่นกิโลเมตรแห่งนี้
ด้วยความยาวทั้งหมด 9,289 กิโลเมตร จากเมือง วลาดิวอสตอค (Vladivostok) มาจนถึงกรุง มอสโคว (Moscow) จึงทำให้ เป็นเส้นทางรถไฟที่ยาวที่สุดในโลก และยากที่จะมีใครทำลายสถิตินี้ลงได้ ด้วยความยาวถึงเกือบหนึ่งหมื่นกิโลเมตร พาเราเดินทางข้ามเส้นแบ่งเวลาโลก (Time zone) ถึง 7 เส้นแบ่งเขตเวลา ข้ามจากขอบชายสุดของเอเชียตะวันออกสู่เขตชายแดนตะวันตกแห่งทวีปยุโรป คือเรื่องราวของการเดินทางรถไฟสายนี้
เพียงแค่ประวัติศาสตร์ของการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายนี้ตั้งแต่สมัยของ จักรพรรดิ์ซาร์ อเล็กซานเดอร์ที่สาม (Tsar Alexander III) ก็สร้างความระทึกใจให้แก่หนอนหนังสือแบบสุดๆ ยิ่งเมื่อเราได้มาเดินตามรอยการสร้างรางรถไฟ เราจะยิ่งถลำลึกไปกับประวัติศาสตร์ทุกหลักกิโลเมตร ยิ่งไปกว่านั้น เส้นทางรถไฟสายนี้ยังพาเราผ่านเมือง เยคาเทรินเบิร์ค (Yekaterinburg) ที่เป็นจุดอวสานของราชวงศ์โรมานอฟแห่งจักรวรรดิรัสเซีย ยิ่งทำให้การเดินทางรถไฟสายนี้ยิ่งเติมเต็มเรื่องราวทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน
ลองคิดว่าจะมีตรงไหนของโลกไหม ที่เราเดินข้ามทวีปด้วยเท้าทั้งสองข้างของเราเอง ไม่ต้องผ่านทางรถ ทางเรือ หรือทางเครื่องบิน เอามันด้วยเท้านี่ละ แล้วเปิดวอดก้าฉลองกันตรงนั้น
ในอดีตภูมิภาค ไซบีเรีย (Siberia) คือที่คุมขังนักโทษการเมือง เนื่องจากความห่างไกลจากความเจริญ เข้าถึงได้ยาก สัตว์ป่าที่ดุร้าย และสภาพอากาศที่ทรมานทรกรรมขั้นสูงสุด ทำให้ที่นี่คือนรกบนดินในสมัยก่อน (แต่เป็นนรกที่อากาศหนาวที่สุดในโลก) ปัจจุบันเมื่อรถไฟตัดผ่าน เราจะได้เดินทางผ่านดินแดนที่เคยห่างไกลเหล่านี้ ผ่านชมแคมป์คุมขังนักโทษสมัยสงครามเย็น (Gulag) และแน่นอนว่า อัญมณีแห่งไซบีเรีย หรือ ไข่มุกแห่งไซบีเรียแล้วแต่ใครจะเรียก ที่นั่นคือ “ทะเลสาบไบคาล” (Lake Baikal) ก็อยู่ในจุดหมายปลายของเส้นทางนี้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีเส้นทางรถไฟคู่ขนาน ที่เรามักจะพูดถึงรวมกันเสมอ เพราะเส้นทางของรถไฟสองขบวนนี้ มี 70% ที่ทับเส้นทางกัน แต่ว่าจุดเริ่มต้นที่ไม่เหมือนกัน เราเลยได้เส้นทางท่องเที่ยวเส้นใหม่ที่ถือว่าสุดยอดแบบสุดๆ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในชื่อเรียกและเส้นทาง ทางทีมงานจึงขอรวมเอาไว้ในนี้ด้วยเลย
ดู ทัวร์ทางรถสายทรานส์ไซบีเรีย
เราจะไปเริ่มต้นที่ กรุงปักกิ่ง (Beijing) แทน และ ผ่านเข้าสู่ ทุ่งหญ้าสเตปป์แห่ง มองโกเลีย (Mongolia) ผ่านเมืองหลวง อูลานบาตอร์ (Ulan Bator) และเข้าสู่รัสเซียที่บริเวณเมือง Ulan-Ude ก่อนจะบรรจบเข้ากับเส้นทางหลัก จุดเด่นของเส้นทางรถไฟสายทรานส์มองโกเลีย คือ เราจะได้ผ่านถึง 3 ประเทศ ได้เห็นวัฒนธรรม หน้าตาของผู้คน ที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ได้สัมผัสถึงพรหมแดนธรรมชาติที่เป็นภาพลวงตา มิตรภาพของผู้คนตลอดเส้นทางล้วนมอบความทรงจำที่มิอาจลืมเลือนแก่เรา
การได้ไปนอน “เกอร์” หรือกระโจมของชาวท้องถิ่นในมองโกเลีย คือสุดยอดแห่งกิจกรรมที่ทุกคนต้องทำเมื่อได้มาถึงที่นี่ เส้นทางรถไฟทุกๆโค้งที่อ้อมทุ่งหญ้าคือภาพประวัติศาสตร์ของชีวิตเราครับ
ดู ทัวร์ทางรถสายทรานส์มองโกเลีย
เราจะไปเริ่มต้นที่กรุงปักกิ่ง (Beijing) หลังจากนั้นจะขึ้นสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปหยุดที่เมือง ฮาร์บิ้น (Harbin) เมืองเอกของมณฑล Heilongjiang ก่อนรางรถไฟจะลัดเลาะเข้าสู่ชายแดนประเทศรัสเซีย และไปรวมกับเส้นทางหลักที่บริเวณเมือง Chita
Share this tourทัวร์รถไฟทรานส์มองโกเลีย ผ่าน 3 ประเทศ จีน มองโกเลีย รัสเซีย ขี่ม้ากลางทุ่งหญ้า นอนเกอร์ นั่งรถไฟดูดาว เลียบทะเลสาบไบคาล เดินเท้าข้ามทวีป ปิดท้ายที่มอสโคว
ทัวร์ รถไฟทรานส์มองโกเลีย ฤดูหนาว ผ่าน 3 ประเทศ จีน มองโกเลีย รัสเซีย ขี่ม้ากลางทุ่งหญ้า นอนเกอร์ นั่งรถไฟดูดาว เลียบทะเลสาบไบคาล เดินเท้าข้ามทวีป ปิดท้ายที่มอสโคว
ยินดีต้อนรับสู่การเดินทางในเส้นทางรถไฟทรานส์ไซบีเรียแห่งความฝัน ขบวนรถไฟที่เต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆสุดคลาสสิค เที่ยวกันแบบจุใจกว่า 15 วัน รวมระยะทางเกือบ 10,000 กิโลเมตร
ยินดีต้อนรับสู่การเดินทางในเส้นทางรถไฟทรานส์ไซบีเรียแห่งความฝัน ขบวนรถไฟที่เต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆสุดคลาสสิค เที่ยวกันแบบจุใจกว่า 15 วัน รวมระยะทางเกือบ 10,000 กิโลเมตร