หากพูดถึงชื่อ โกธิค (Gothic) คุณจะคิดถึงอะไร หลายคนอาจนึกถึงเครื่องแต่งกายสไตล์โกธิค โลลิตา (Gothic Lolita) เสื้อผ้าย้อนยุคกรุยกรายที่เน้นสีดำขาว บางคนอาจนึกถึงเทรนด์แต่งหน้าโกธิคลุคที่เน้นขอบตาและปากสีเข้มกับผิวหน้าซีดเซียว แม้จะมีคำที่เกี่ยวข้องมากมาย มาทำความรู้จักกันครับ
สารบัญ
ที่มาของคำว่า โกธิค (Gothic)
แต่แท้จริงแล้วคำว่าโกธิคมีที่มาจาก ชาวกอธ (Goths) ชนเผ่าดั้งเดิมที่อาศัยในประเทศเยอรมนีและฝรั่งเศสในคริสต์ศตวรรษที่ 5 ชาวกอธโด่งดังในหน้าประวัติศาสตร์หลังโค่นล้มจักรวรรดิโรมันตะวันตกในปี 476 ชาวยุโรปยุคกลางมองว่าพวกกอธเป็นเหตุให้อู่วัฒนธรรมอย่างโรมต้องถึงคราววิบัติ ด้วยเหตุนี้คำว่ากอธจึงถูกใช้ในแง่ลบตั้งแต่นั้น
ในแง่สถาปัตยกรรม คำว่าโกธิคเป็นคำวิเศษณ์ที่มีความหมายว่า “สิ่งที่เกี่ยวกับชาวกอธ” คำๆ นี้ถูกใช้ในยุคกลางเพื่อบรรยายถึงสิ่งปลูกสร้างที่ไม่เป็นไปตามขนบ เช่นเดียวกับชาวกอธ บรรพบุรุษของชาวเยอรมันที่เคยเป็นชนเผ่าป่าเถื่อน
ทว่าแม้คำว่าโกธิคจะมีที่มาจากเยอรมนี แต่รูปแบบสถาปัตยกรรมโกธิคกลับริเริ่มในแผ่นดินฝรั่งเศสราวคริสต์ศตวรรษที่ 12 ซึ่งตรงกับยุครุ่งเรืองของสมัยกลาง (High Medieval Period) ในทวีปยุโรปพอดิบพอดี
จาก โรมาเนสก์ สู่ โกธิค
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ราว 2 ศตวรรษ ในคริสต์ศตวรรษที่ 10 สถาปนิกในยุโรปตะวันตกนิยมสร้างอาคารศาสนสถานเรียบง่าย เน้นโครงสร้างและรากฐานที่แข็งแรง สถาปัตยกรรมรูปแบบดังกล่าวถูกเรียกว่า “โรมาเนสก์ (Romanesque)” ที่มีความหมายว่า “สิ่งที่ตกทอดจากกรุงโรม” แม้อาคารโรมาเนสก์จะมีลักษณะใหญ่โตเทอะทะ ทว่าชาวยุโรปในตอนนั้นกลับมองว่างดงามไม่ต่างจากสิ่งปลูกสร้างในจักรวรรดิโรมัน
ค่านิยมดังกล่าวดำเนินต่อไปจนกระทั่งในปี ค.ศ. 1144 เมื่อ มหาวิหารแซงต์เดอนีส์ (Basilica of Saint – Denis) ถูกสร้างขึ้นที่ชานเมืองปารีส มหาวิหารแซงต์เดอนีส์เป็นสิ่งปลูกสร้างที่แหวกทุกขนบในขณะนั้น แทนที่จะใช้ผนังและกำแพงหนาเพื่อรองรับน้ำหนักเพดาน มหาวิหารแห่งนี้กลับใช้เสาค้ำยันหลังคาโค้ง ทำให้มีลักษณะโปร่ง ไม่อึดอัดเหมือนอาคารยุคเก่า
รูปแบบสถาปัตยกรรมดังกล่าวได้รับความนิยมทั่วทั้งฝรั่งเศสอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาโครงสร้างจากอาคารแบบเก่าที่เรื้อรังมานาน อย่างไรก็ตาม กลุ่มสถาปนิกอนุรักษ์นิยมยังคงไม่พอใจกับรูปแบบใหม่ที่ว่า พวกเขาจึงเรียกอาคารเหล่านี้ว่า “โกธิค” ด้วยนัยยะดูถูกดังที่ได้กล่าวถึงไปในข้างต้น
สถาปัตยกรรมโกธิคในอังกฤษ
สำหรับประเทศอังกฤษที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับฝรั่งเศสมานมนาน สถาปนิกแดนผู้ดีเริ่มสร้างศาสนสถานรูปแบบโกธิคเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1175 ณ มณฑลซอเมอร์เซ็ต (Somerset) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ก่อนได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั้งเกาะ แตกต่างจากยุโรปภาคพื้นทวีปที่สถาปัตยกรรมโกธิคมาถึงจุดเสื่อมในคริสต์ศตวรรษที่ 15
โบสถ์สไตล์โกธิคในอังกฤษยังถูกสร้างเรื่อยมาจนถึงยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยา (Renaissance) ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 นอกจากนี้ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 อังกฤษยังเป็นศูนย์กลางสถาปัตยกรรมยุคฟื้นฟูโกธิค (Gothic Revival) ในรัชสมัยสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรีย (Queen Victoria)
จึงอาจกล่าวได้ว่า แม้อังกฤษจะได้รับอิทธิพลโกธิคในภายหลัง แต่รูปแบบสถาปัตยกรรมยังคงอยู่ต่อไปผ่านกาลสมัยมาจนถึงปัจจุบัน และในวันนี้ ทีมงานพาทัวร์โลจี้จะพาคุณข้ามผ่านกาลเวลา ไปชมโบสถ์โกธิคชื่อดังในอังกฤษด้วยกัน หากพร้อมแล้วละก็ มารับชมกันเลย
อาสนวิหารเวลส์ (Wells Cathedral)
อาสนวิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองเวลส์ (Wells) ในมณฑลซอเมอร์เซ็ต ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ ศาสนสถานถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงนักบุญแอนดรูว์อัครสาวก (Andrew the Apostle) ดังที่ได้กล่าวถึงไปในข้างต้น
เวลส์เป็นสิ่งปลูกสร้างสไตล์โกธิคแห่งแรกบนเกาะอังกฤษ ทว่าก่อนหน้าคริสต์ศตวรรษที่ 12 สถานที่แห่งนี้เคยถูกใช้เป็นศาสนสถานในคริสต์ศาสนามาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 8 อาสนวิหารเวลส์ที่ออกแบบโดยสถาปนิกอดัม ล็อก (Adam Lock) ได้ถูกสร้างทับฐานอาคารเดิมในปี 1175 และกลายเป็นที่พำนักของนักบวชที่มีชื่อเสียงหลายท่านนับแต่นั้น
อาสนวิหารเวลส์ถูกกล่าวขวัญในฐานะโบสถ์ที่งดงามที่สุดบนเกาะอังกฤษ หอคอยสองหลังที่ขนาบข้างอาคารหลักถูกประดับด้วยปูนปั้นและรูปสลักเรื่องราวในพระคัมภีร์ไบเบิล นอกจากนี้ภายในโบสถ์ยังมีกระจกสีที่ตกแต่งเป็นรูปนักบุญองค์ต่างๆ เมื่อแสงแดดส่องกระทบบานกระจกจะเกิดไปสีสันละลานตา ชวนให้ผู้มาเยือนหลงใหลไปตามๆ กัน
อาสนวิหารแคนเทอร์เบอรี (Canterbury Cathedral)
อาสนวิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองแคนเทอร์เบอรี (Canterbury) ในมณฑลเคนท์ (Kent) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ เมืองนี้ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก (UNESCO) เนื่องจากเป็นที่ตั้งของหนึ่งในโบสถ์เก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ และเป็นที่พำนักของอาร์คบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี (Archbishop of Canterbury) ผู้นำคริสตจักรแห่งอังกฤษตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
อาสนวิหารถูกสร้างแล้วเสร็จในปี 1077 ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่อาสนวิหารเวลส์ถูกสร้างในซอเมอร์เซ็ต นอกจากนี้ แคนเทอร์เบอรียังคล้ายคลึงกับเวลส์ตรงที่เป็นอาคารที่สร้างบนฐานรากโบสถ์เก่า คนท้องถิ่นเชื่อว่าที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นศาสนสถานมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 เมื่อครั้งที่มีการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในดินแดนแองโกลแซกซอนเป็นครั้งแรก
แคนเทอร์เบอรีมีชื่อเสียงในฐานะเพชรน้ำงามของสถาปัตยกรรมโกธิคในอังกฤษ ตัวอาคารมีหลังคาลักษณะโค้งแหลม ก่อเกิดเป็นโครงสร้างอ่อนช้อย นอกจากนี้กระจกสีภายในอาคารยังบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์อังกฤษในยุคกลาง ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผู้ชื่นชอบสิ่งปลูกสร้างโบราณไม่ควรพลาด
อาสนวิหารลินคอล์น (Lincoln Cathedral)
อาสนวิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองลินคอล์น (Lincoln) มณฑลลินคอล์นเชียร์ (Lincolnshire) ทางตะวันออกของประเทศอังกฤษ ลินคอล์นถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพระแม่มารี มารดาของพระเยซู ศาสนสถานสร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1092 และถูกกล่าวขวัญว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในโลกยุคนั้น ลินคอล์นมีความสูงกว่า 160 เมตร
อย่างไรก็ตาม ในปี ค.ศ. 1185 แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ได้ทำลายโครงสร้างอาคารจนเสียหายอย่างหนัก คริสตจักรอังกฤษต้องใช้เวลากว่าศตวรรษเพื่อบูรณะอาคารขึ้นใหม่ โบสถ์ใหม่จึงถูกสร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1311 และกลายเป็นจุดหมายของนักแสวงบุญทั่วประเทศนับแต่นั้น
ลินคอล์นถูกร่ำลือว่าเป็นหนึ่งในโบสถ์ประดับหน้าต่างกระจกสีที่งดงามที่สุด อาคารศาสนสถานมีหน้าต่างกุหลาบ (Rose Window) ขนาดใหญ่ 2 บานด้วยกัน หน้าต่างในอาสนสถานมีลักษณะเป็นทรงกลม สร้างเป็นรูปสลับซับซ้อนคล้ายกลีบกุหลาบหลายชั้น ภายในประดับรูปนักบุญพอล (St Paul) นักบุญแอนดรูว์ และนักบุญเจมส์ (St James) อัครสาวกคนสำคัญในคริสต์ศาสนา ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่สายวินเทจพลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองลินคอล์น
อาสนวิหารซอลส์บรี (Salisbury Cathedral)
อาสนวิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองซอลส์บรี (Salisbury) ในมณฑลวิลต์เชียร์ (Wiltshire) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ ซอลส์บรีสร้างขึ้นในปี 1220 เพื่ออุทิศให้แก่พระแม่มารี แม้จะสร้างภายหลังโบสถ์ที่แนะนำไปก่อนหน้านี้ แต่ซอลส์บรีก็ได้ชื่อว่าเป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมโกธิคในอังกฤษยุคต้น (Early English Gothic Architecture) ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
เอลเลียสแห่งเดียร์ฮัม (Elias of Dereham) หัวหน้าช่างและสถาปนิกได้ใช้ผังอาคารอาสนวิหารเวลส์เป็นต้นแบบในการออกแบบซอลส์บรี ศาสนสถานใช้เวลาในการสร้างกว่า 100 ปีจนแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1320 ซอลส์บรีมีชื่อเสียงจากผังอาคารสลับซับซ้อน รวมถึงรูปสลักหินที่รวบรวมนักบุญและบุคคลสำคัญที่มีคุณูปการในการสร้างอาสนวิหารในสมัยนั้นอย่างครบถ้วน นับเป็นสถานที่ที่ผู้ชื่นชอบสถาปัตยกรรมไม่ควรพลาด
มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ (Westminster Abbey)
มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ (Westminster Abbey) เป็นอาคารโกธิคขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ ศาสนสถานแห่งนี้ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ใกล้กับพระราชวังเวสต์มินเตอร์ (Palace of Westminster)
เวสต์มินสเตอร์เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดี มหาวิหารแห่งนี้เป็นสถานที่จัดพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์และราชินีอังกฤษ พิธีอภิเษกสมรสของพระราชาและพระญาติ รวมถึงเป็นที่ฝังศพเชื้อพระวงศ์และบุคคลสำคัญของประเทศหลายพันคน
แม้จะถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 960 แต่เวสต์มินสเตอร์เพิ่งถูกบูรณะให้เป็นศาสนสถานรูปแบบโกธิคในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ภายในอาคารและโถงทางเดินโดดเด่นด้วยเพดานโค้งขนาดใหญ่
นอกจากนี้เวสต์มินสเตอร์ยังมีหน้าต่างกระจกสีรูปกษัตริย์และบุคคลสำคัญ รวมถึงรูปสลักมากมายที่ไม่อาจชมหมดภายในวันเดียว ด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมทั้งหมดนี้ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์จึงได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวนับล้านยังคงมาชื่นชมมหาวิหารกันอย่างไม่ขาดสาย เรียกว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายยอดนิยมที่สุดบนเกาะอังกฤษเลยก็ว่าได้
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเกร็ดความรู้เรื่องสถาปัตยกรรมและศาสนสถานโกธิคในประเทศอังกฤษ เชื่อว่าหลายคนคงอ่านกันจุใจไม่ใช่น้อย อย่างไรก็ตาม นอกจากโบสถ์ทั้ง 5 แห่งที่ได้แนะนำไป ยังมีอาคารสไลต์โกธิคที่น่าสนใจอีกมากมายในอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นอาคารมหาวิทยาลัย ปราสาทราชวัง รวมถึงหอสมุดเก่าแก่
และหากใครไม่อยากพลาดเกร็ดความรู้ความบันเทิงที่น่าสนใจแบบนี้ละก็ ติดตามเราได้ที่ www.patourlogy.com เพื่อให้การเรียนรู้วัฒนธรรมต่างถิ่นกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
อ้างอิง
- Britain Express. Wells Cathedral. (n.d.). [Online]. Accessed 2022 April 23. https://www.britainexpress.com/counties/somerset/churches/wells-cathedral.htm
- Ecclesiastical. Lincoln Cathedral. (2020). [Online]. Accessed 2022 April 23. https://buttress.net/project/lincoln-cathedral/
- MasterClass Staff. A Guide to the History and Architecture of Westminster Abbey. (2022). [Online]. Accessed 2022 April 23. Available from: https://www.masterclass.com/articles/westminster-abbey-history-and-architecture-guide
- Spanswick, Valerie, Elise. Salisbury Cathedral. (2022). [Online]. Accessed 2022 April 23. Available from: https://www.khanacademy.org/humanities/medieval-world/gothic-art/gothic-art-england/a/salisbury-cathedral
- Sund, Elise. Canterbury Cathedral: An Exploration of Art and Architecture. (2018). [Online]. Accessed 2022 April 23. Available from: https://www.cazenovia.edu/blogs/blogs/canterbury-tales-cazenovia-tells/canterbury-cathedral-exploration-art-architecture
- The editors of Encyclopedia Britannica. Gothic Architecture. (2021). [Online]. Accessed 2022 April 23. Available from: https://www.britannica.com/art/Gothic-architecture