เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวใน ประเทศญี่ปุ่น หลายคนอาจนึกถึงเมืองยอดฮิตใน ภูมิภาคคันไซ อย่างเกียวโต โอซาก้า หรือโกเบ แต่รู้หรือไม่ว่าในคันไซยังมีสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวและธรรมชาติที่งดงามซ่อนอยู่ นั่นคือ จังหวัดมิเอะ (Mie) ไข่มุกแห่งคันไซที่คุณไม่ควรพลาด!
จังหวัดมิเอะเป็นแหล่งรวมธรรมชาติ วัฒนธรรม และอาหารเลิศรส ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของภูมิภาคคันไซ มีพื้นที่ชายฝั่งทะเลยาว และเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น หากคุณกำลังวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่น จังหวัดมิเอะควรอยู่ในลิสต์ของคุณทันที! มาดูกันว่าสถานที่ท่องเที่ยวในมิเอะมีอะไรน่าสนใจบ้าง
- 1. ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu) ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งญี่ปุ่น
- 2. อ่าวอาโกะ (Ago Bay) และเกาะไข่มุกมิกิโมโตะ
- 3. อุทยานแห่งชาติอิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima National Park)
- 4. ปราสาทมัตสึซากะ (Matsusaka Castle)
- 5. นาบานะโนะซาโตะ (Nabana no Sato)
- 6. น้ำตกอากาเมะ (Akame 48 Waterfalls)
- 7. โอวาเสะ (Owase) เมืองแห่งป่าซีดาร์โบราณ
1. ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu) ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งญี่ปุ่น
ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu) เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีความสำคัญและเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ ศาลเจ้าแห่งนี้มีความสำคัญในฐานะสถานที่ประดิษฐานของเทพเจ้า Amaterasu Omikami เทพแห่งดวงอาทิตย์ที่เชื่อว่าเป็นบรรพบุรุษของจักรพรรดิญี่ปุ่น
ศาลเจ้าอิเสะประกอบด้วยศาลเจ้าหลัก 2 ส่วน ได้แก่ ศาลเจ้าใน (Naiku) และ ศาลเจ้านอก (Geku) โดยศาลเจ้าในเป็นที่ประดิษฐานกระจกศักดิ์สิทธิ์ Yata no Kagami ซึ่งเป็นหนึ่งในสามสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของจักรวรรดิญี่ปุ่น ตัวอาคารของศาลเจ้าในถูกสร้างขึ้นใหม่ทุกๆ 20 ปี ตามประเพณีโบราณที่เรียกว่า “ชิกิเน็น เซ็งกู” (Shikinen Sengu) เพื่อรักษาความบริสุทธิ์และสืบทอดศิลปะการก่อสร้างแบบดั้งเดิม
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสกับความเงียบสงบของป่าไม้โบราณที่ล้อมรอบศาลเจ้า เดินข้ามสะพานไม้ Uji Bridge ที่ทอดข้ามแม่น้ำอิสึซุ และชื่นชมบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติและจิตวิญญาณ หากคุณมองหาประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและเป็นหัวใจของวัฒนธรรมญี่ปุ่น ศาลเจ้าอิเสะคือสถานที่ที่คุณต้องมา
2. อ่าวอาโกะ (Ago Bay) และเกาะไข่มุกมิกิโมโตะ
อ่าวอาโกะ เป็นหนึ่งในจุดเด่นของจังหวัดมิเอะ ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติอิเสะ-ชิมะ อ่าวนี้มีลักษณะเป็นเวิ้งน้ำที่ล้อมรอบด้วยเกาะเล็กๆ หลายแห่ง สายน้ำใสสะอาดและทิวทัศน์อันสวยงามของอ่าวทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด
จุดเด่นสำคัญคือ เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Pearl Island) ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของไข่มุกคุณภาพระดับโลก เกาะแห่งนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์มิกิโมโตะที่จัดแสดงกระบวนการผลิตไข่มุกและประวัติศาสตร์ของไข่มุกมิกิโมโตะ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถชมการแสดงของนักดำน้ำหญิงอามะ (Ama) ซึ่งเป็นนักดำน้ำดั้งเดิมที่ดำน้ำเก็บไข่มุกในแบบที่ถ่ายทอดกันมาเป็นพันปี
วิวของอ่าวอาโกะและเกาะไข่มุกมิกิโมโตะในยามเย็น โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตก ถือเป็นหนึ่งในภาพที่งดงามที่สุดในจังหวัดมิเอะ การล่องเรือชมอ่าวยังช่วยให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวประมงในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
3. อุทยานแห่งชาติอิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima National Park)
อุทยานแห่งชาติอิเสะ-ชิมะ ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ตั้งแต่ชายฝั่งทะเลของจังหวัดมิเอะไปจนถึงพื้นที่ภูเขา อุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง เช่น ศาลเจ้าอิเสะและอ่าวอาโกะ และยังมีธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งชายหาด สันทราย หมู่เกาะ และป่าเขียวชอุ่ม
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนอุทยานสามารถเลือกทำกิจกรรมได้หลากหลาย เช่น การเดินป่า เพื่อชมวิวภูเขาที่สวยงาม หรือเลือก ล่องเรือชมวิวทะเล และหมู่เกาะต่างๆ ในอ่าวอิเสะ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่ให้คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับพืชและสัตว์ในท้องถิ่น
สำหรับคนรักความสงบ การพักผ่อนในเรียวกังหรือรีสอร์ตริมชายฝั่งทะเลในอุทยานจะมอบประสบการณ์ที่ผ่อนคลายและเป็นส่วนตัว คุณสามารถลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่ เช่น หอยเป๋าฮื้อและกุ้งลายเสือ ที่ถือเป็นอาหารขึ้นชื่อของพื้นที่นี้
จุดชมวิวยอดนิยม เช่น Mt. Asama Observatory Deck ให้คุณได้ชมวิวมุมสูงของอุทยานและทะเลสาบได้อย่างเต็มตา โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกที่ท้องฟ้าเปลี่ยนสีเป็นทองอร่าม เป็นภาพที่ตราตรึงใจนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือน
4. ปราสาทมัตสึซากะ (Matsusaka Castle)
ปราสาทมัตสึซากะ เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในจังหวัดมิเอะ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1588 โดยนักรบซามูไรผู้มีชื่อเสียงในยุคเซ็นโกคุ โทโด ทาคาโทระ (Todo Takatora) แม้ว่าตัวปราสาทเดิมจะไม่ได้หลงเหลืออยู่แล้ว แต่กำแพงหินและฐานของปราสาทยังคงอยู่ในสภาพดี พร้อมทั้งสวนสวยที่สร้างขึ้นรอบๆ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินเล่นและดื่มด่ำกับบรรยากาศประวัติศาสตร์
ที่นี่ยังเป็นจุดชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ได้รับความนิยมอีกด้วย ต้นซากุระที่เรียงรายรอบบริเวณปราสาทให้ทิวทัศน์ที่งดงามและโรแมนติก โดยเฉพาะเมื่อดอกไม้บานเต็มที่
ไม่เพียงเท่านั้น เมืองมัตสึซากะยังมีชื่อเสียงในเรื่อง เนื้อวัวมัตสึซากะ ซึ่งเป็นเนื้อวัวระดับพรีเมียมของญี่ปุ่น ที่นี่มีร้านอาหารที่เสิร์ฟเนื้อมัตสึซากะหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สเต๊ก ซูกียากี้ ไปจนถึงชาบูชาบู หากมาเยือนปราสาทมัตสึซากะ การได้ลิ้มลองอาหารจานพิเศษนี้ถือเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด
5. นาบานะโนะซาโตะ (Nabana no Sato)
นาบานะโนะซาโตะ เป็นสวนดอกไม้ชื่อดังที่ตั้งอยู่ในเมืองคุวานะ จังหวัดมิเอะ สวนแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องการจัดแสดงดอกไม้ตามฤดูกาล และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแสดงไฟ Illumination ที่จัดขึ้นในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงพฤษภาคม
การแสดงไฟของนาบานะโนะซาโตะถือว่าเป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น มีการประดับไฟ LED กว่าหลายล้านดวงสร้างภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น อุโมงค์แสงไฟ น้ำตกไฟประดับ และทิวทัศน์ไฟในธีมธรรมชาติหรือสถานที่สำคัญของโลก
ในฤดูใบไม้ผลิ คุณจะได้เพลิดเพลินกับดอกซากุระและดอกไม้ต่างๆ เช่น ดอกวิสทีเรียและดอกทิวลิป ที่บานสะพรั่งทั่วทั้งสวน หากคุณเป็นคนรักดอกไม้และการถ่ายภาพ นาบานะโนะซาโตะจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง
6. น้ำตกอากาเมะ (Akame 48 Waterfalls)
น้ำตกอากาเมะ ตั้งอยู่ในพื้นที่เขียวชอุ่มของจังหวัดมิเอะ เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติ น้ำตกแห่งนี้ประกอบด้วยน้ำตกขนาดเล็กถึง 48 แห่ง ที่กระจายตัวอยู่ตามแนวเส้นทางเดินป่า ซึ่งมีระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร
เส้นทางเดินป่าที่น้ำตกอากาเมะพานักท่องเที่ยวผ่านภูมิทัศน์ป่าเขียวชอุ่ม ธารน้ำใสสะอาด และน้ำตกที่หลั่งไหลลงมาจากหน้าผาหิน การมาเยือนในฤดูใบไม้ร่วงถือว่าเป็นไฮไลต์ เพราะใบไม้เปลี่ยนสีจะเพิ่มความงดงามให้กับบรรยากาศโดยรอบ
นอกจากนี้ น้ำตกอากาเมะยังเป็นที่ตั้งของศูนย์อนุรักษ์ ซาลาแมนเดอร์ยักษ์ญี่ปุ่น สัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางระบบนิเวศ การเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์นี้เป็นโอกาสในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสัตว์หายากและการอนุรักษ์ธรรมชาติในญี่ปุ่น
7. โอวาเสะ (Owase) เมืองแห่งป่าซีดาร์โบราณ
เมืองโอวาเสะ ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตร้อนชื้นของจังหวัดมิเอะ และมีชื่อเสียงในเรื่อง ป่าซีดาร์โบราณ ที่มีความงดงามและเต็มไปด้วยเสน่ห์จากธรรมชาติ ป่าซีดาร์ในโอวาเสะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางแสวงบุญโบราณ คุมาโนะโคะโด (Kumano Kodo) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO
ป่าซีดาร์ที่นี่มีต้นไม้เก่าแก่หลายต้นที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี เส้นทางเดินป่าที่คดเคี้ยวผ่านป่าซีดาร์สร้างบรรยากาศที่สงบและลึกลับ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและพลังแห่งจิตวิญญาณที่เปี่ยมล้นในป่าแห่งนี้
นอกจากการเดินป่า เมืองโอวาเสะยังมีวิถีชีวิตท้องถิ่นที่เรียบง่ายและวัฒนธรรมดั้งเดิม คุณสามารถลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่และพักผ่อนในเรียวกังหรือบ้านพักแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมเพื่อสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นที่แท้จริง
สรุป
จังหวัดมิเอะ ใน ภูมิภาคคันไซ เป็นจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานความงามของธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ตั้งแต่ศาลเจ้าอิเสะที่ศักดิ์สิทธิ์ไปจนถึงอ่าวอาโกะและป่าซีดาร์โบราณ ทุกมุมของจังหวัดนี้เต็มไปด้วยความประทับใจที่คุณจะไม่มีวันลืม หากคุณกำลังวางแผนทริป ประเทศญี่ปุ่น ครั้งต่อไป อย่าลืมเพิ่มจังหวัดมิเอะเข้าไปในลิสต์ของคุณ!
ชมบทความท่องเที่ยวอื่นๆได้ที่นี้