หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง มหาอำนาจ 2 ฝ่ายเข้าปลดปล่อยเกาหลีจากการควบคุมดินแดนอาณานิคมของจักรวรรดิญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ทำให้เกาหลีถูกแบ่งแยกอยู่ที่เส้นขนานที่ 38 กลายเป็นสองเขตแดนของการยึดครอง สหภาพโซเวียตได้ปกครองดินแดนส่วนครึ่งทางเหนือและสหรัฐอเมริกันก็ปกครองดินแดนอีกส่วนครึ่งทางใต้
โดยรัฐบาลทั้ง 2 ฝั่งของรัฐเกาหลีใหม่ต่างอ้างว่าเป็นรัฐบาลที่มีความชอบธรรมด้วยกฎหมายแต่เพียงฝ่ายเดียวของเกาหลีทั้งหมดและไม่ยอมรับเขตชายแดนเป็นการถาวร ซึ่งความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นได้นำไปสู่สงครามเกาหลี เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1950 และใช้เวลากว่า 3 ปีที่การสู้รบจะยุติลง
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 1953 เกิดข้อตกลงการสงบศึกเกาหลีที่สร้างเขตปลอดทหารเกาหลี แล้วนำไปสู่การแบ่งแยกเป็นประเทศเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
ที่มาของความโดดเด่นในอาหารเกาหลีเหนือ
คงกล่าวไม่ผิดว่า อาหารเกาหลีเหนือเป็นหนึ่งในอาหารที่ไม่รู้จักมากที่สุด แต่ก็เป็นอาหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก อย่างไรก็ดี เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เป็นสถานที่ที่แตกต่างกันอย่างมาก เกาหลีเหนือมีแนวโน้มที่จะเป็นพื้นที่ภูเขามากกว่าเกาหลีใต้ และยังมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่า ทำให้สภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศมีอิทธิพลอย่างมากต่อพืชผลที่สามารถปลูกได้ในประเทศ วิธีประกอบอาหาร และเนื้อสัตว์ที่จำหน่ายในท้องตลาด
ถึงแม้ว่าอิทธิพลของสถานที่ตั้งจะมีส่วนสำคัญต่ออาหารเกาหลีเหนือ แต่ความที่เกาหลีเหนือมักตกอยู่ภายใต้การควบคุมของมหาอำนาจนอกประเทศ เช่น กองทัพของเจงกิสข่านที่บุกรุกเข้ามาบ่อยครั้ง จีน และแม้แต่แมนจู ทำให้อาหารเกาหลีเหนือมีความหลากหลายมากกว่าอาหารเกาหลีใต้ โดยมีอิทธิพลจากอาหารแมนจูเรียตอนใต้และอาหารจีนตะวันออกเฉียงเหนือเข้ามาผสมผสาน
นอกจากนี้ด้วยความที่เคยเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น ซูชิและซาซิมิจึงเป็นที่แพร่หลายและเป็นที่นิยมทั้งในเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ในขณะที่อาหารจีนมีความโดดเด่นมากในเกาหลีเหนือ ที่เกาหลีใต้ก็มีอาหารฟิวชั่นแบบแปลกๆ เช่น Budae Jjigae หรือ army stew ที่ผนวกเอาอาหารสำเร็จรูปแบบอเมริกันเข้าไป ไม่ว่าจะเป็น ไส้กรอก ถั่วประป๋อง และเนยแข็ง
หลังสงครามเกาหลีและเกิดการแบ่งแยกประเทศเกาหลี ประชาชนหลายครอบครัวย้ายจากเหนือไปใต้หรือใต้ไปทางเหนือ ซึ่งทำให้อาหารทั้งสองผสมผสานกันมากขึ้น อาหารเกาหลีเหนือปัจจุบัน จำนวนมากเคยเป็นอาหารหลักในเกาหลีใต้มาก่อน ดังนั้นจึงพบอาหารหลักแบบคลาสสิก เช่น กิมจิ บุลโกกิ บะหมี่เย็นบัควีท และโซจู อยู่ทั้งสองด้านของชายแดน แต่มีความแตกต่างกันเล็กน้อย
นิสัยการบริโภคและอาหารของเกาหลีเหนือ
อาหารเกาหลีเหนือมีข้าว ข้าวโพด บะหมี่ เต้าหู้ และผักเป็นส่วนผสมหลัก ลักษณะของอาหารเกาหลีเหนือที่สังเกตได้ชัดเจนมากคือ จำนวนเครื่องเคียง หรือบันชานในภาษาเกาหลี ที่เสิร์ฟพร้อมอาหารทุกมื้อ ฮันจองซิกเป็นอาหารเกาหลีแบบฟูลคอร์สที่มีบันชานหลากหลาย อาหารเกาหลียอดนิยมคือ กิมจิ มักจะเสิร์ฟในอาหารเกาหลีทุกมื้อ
บะหมี่เย็นหรือแนงมยอนเป็นส่วนผสมยอดนิยมในประเทศ Mul Naengmyeon เป็นบะหมี่เย็นที่ปรุงด้วยน้ำซุป แตงกวา เนื้อสไลด์บาง และไข่ต้ม อย่างไรก็ตาม P’yongyang Naengmyeon นั้นปรุงแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ในชินุยจูและอันจู จะมีมันฝรั่งเป็นส่วนผสมหลัก ในขณะที่ภูมิภาคแกซองจะใช้ข้าวสาลี
เครื่องดื่มท้องถิ่นในเกาหลีเหนือยังเป็นที่รู้จักกันดีว่า ใช้ส่วนผสมที่มาจากพืชผลในประเทศ โซจูหรือไวน์ข้าว ก๊กจูหรือไวน์ข้าวโพด และซูชุนกวาหรือเครื่องดื่มขิงที่มักเสิร์ฟในฤดูหนาวเป็นเครื่องดื่มที่พบมากที่สุดในประเทศ เครื่องดื่มยอดนิยมอีกชนิดหนึ่งคือไวน์แพ็กตูบลูเบอร์รี่ ซึ่งทำจากบลูเบอร์รี่ที่พบในเขตซัมจียอน และเป็นไวน์ชนิดพิเศษในเทือกเขาแพ็กตู
เครื่องเทศและเครื่องปรุงรสทั่วไปที่ใช้ในอาหารเกาหลีเหนือ ได้แก่ น้ำมันงา ซีอิ๊ว ขิง กระเทียม เกลือ พริกแดง และเต้าเจี้ยวหมัก ซึ่งมักใช้ในอาหารเกาหลีส่วนใหญ่ เต้าเจี้ยวเป็นหนึ่งในอาหารเกาหลีเหนือแบบดั้งเดิมและเป็นส่วนผสมของซอสถั่วเหลืองหรือพริกแดงกับน้ำส้มสายชู
ความแตกต่าง 5 ประการของอาหารเกาหลีเหนือ-ใต้
เมื่อพูดถึงอาหารเกาหลีเหนือและอาหารเกาหลีใต้ จะมีความเหมือนและแตกต่างกันอยู่หลายอย่าง แต่ความแตกต่างที่ชัดเจนได้แก่
1. อาหารเกาหลีเหนือ รสชาติไม่ค่อยเผ็ด
ถึงแม้ว่าทั้งสองประเทศใช้พริกแดงป่นในอาหาร แต่พริกแดงเวอร์ชั่นเกาหลีเหนือมีรสเผ็ดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับที่ผลิตในเกาหลีใต้ ชาวเกาหลีเหนือไม่ได้ใช้พริกแดงในอาหารมากนัก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้อาหารเกาหลีเหนือเผ็ดน้อยลง โดยทั่วไป ชาวเกาหลีเหนือใช้ถั่วเหลืองหมักหรือเต้าเจี้ยวในอาหาร ในขณะที่ชาวเกาหลีใต้ใช้พริกแดง
อีกสิ่งหนึ่งที่จะสังเกตได้ก็คือ อาหารเกาหลีเหนือค่อนข้างมีรสชาติที่หวานกว่า ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ใช้แหล่งน้ำจืดจากภูเขาซึ่งไปเพิ่มรสชาติให้กับอาหารได้มากขึ้น ในขณะที่ครัวเรือนชาวเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ใช้น้ำประปาเป็นแหล่งน้ำหลักสำหรับทำอาหาร
ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้อาหารเกาหลีใต้เผ็ดขึ้นมาก อาจเป็นเพราะวัฒนธรรมการรับประทานอาหารนอกบ้านกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น ร้านอาหารต่างๆ ก็เริ่มเล่นกับรสชาติของอาหารเพื่อดึงดูดลูกค้า ด้วยการทำให้อาหารของพวกเขาเผ็ดขึ้นและเค็มขึ้น
2. กิมจิเกาหลีเหนือ หวานกว่ากิมจิของเกาหลีใต้
แต่ละภูมิภาคก็จะมีวิธีการเตรียมกิมจิที่แตกต่างกัน จึงทำให้พบความแตกต่างกันเล็กน้อยเนื่องจากผู้ผลิตจะใช้ส่วนผสมที่พบในพื้นที่ของตน กิมจิของเกาหลีเหนือมีผลไม้ กะหล่ำปลี น้ำจืด เกลือ และปลาค็อด ส่วนเวอร์ชันดั้งเดิมที่มีต้นกำเนิดมาจากดินแดนทางตอนเหนือ เช่น Hwang-hae-do, Ham-kyung-do และ Pyong-an-do จะใช้เครื่องเทศและเกลือเล็กน้อย
ในขณะเดียวกัน ชาวเกาหลีใต้ใช้ผลไม้ ลูกกุ้ง น้ำปลา หรืออาหารทะเล (ปลาคอด ปลาหมึก หอยนางรม) และมีแนวโน้มที่จะเผ็ดและเค็มกว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ยังมีร้านอาหารในเกาหลีใต้ที่ยังคงให้บริการแบบดั้งเดิมอยู่ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเจ้าของร้านมาจากทางเหนือที่หนีไปทางใต้ในช่วงสงครามเกาหลี
3. ชาวเกาหลีเหนือไม่มีอาหารประเภทเนื้อมากเท่ากับชาวเกาหลีใต้
เนื้อวัวถูกนำมาปรุงอาหารในเกาหลีเหนือน้อยกว่าในเกาหลีใต้ ชาวเกาหลีใต้รับประทานเนื้อสัตว์เกือบทุกชนิดที่มีขายในท้องตลาด โดยเนื้อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเนื้อ Hanwoo ซึ่งปรุงขึ้นมารับประทานในโอกาสพิเศษ
ลักษณะความแตกต่างนี้เห็นได้ชัดเจนมากในรูปแบบของเกี๊ยวที่รับประทานในแต่ละประเทศ เพราะเกี๊ยวของเกาหลีเหนือมีหมูสับ เต้าหู้ และผักอยู่ในนั้น ซึ่งดูเหมือนเป็นเค้กข้าวเสียมากกว่า ขณะที่เกี๊ยวของเกาหลีใต้ทำด้วยเส้นแก้วหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ห่อผัก เต้าหู้ เนื้อสับและหมู จึงทำให้ดูแตกต่างกันและมักจะมีรูปร่าง รวมถึงขนาดต่างกันด้วย
4. เส้นบะหมี่แตกต่างกัน
อาหารเกาหลีเหนือใช้เส้นบะหมี่ทำจากข้าวโพดและมักจะจับคู่กับกิมจิเพียงอย่างเดียว ในขณะที่บะหมี่ของเกาหลีใต้ทำมาจากแป้งสาลีกับผักและไข่ ในขณะที่กิมจิถูกเสิร์ฟเป็นเครื่องเคียง ซึ่งอาหารจานบะหมี่สองจานที่แสดงถึงความแตกต่างเหล่านี้ได้อย่างลงตัวคือ Pyongyang Mul Naengmyun จากเกาหลีเหนือ และ Spicy Pollock Naengmyun จากเกาหลีใต้
5. แอลกอฮอล์ของเกาหลีเหนือแรงกว่ามาก
ถ้าหากคิดว่าสุราของเกาหลีใต้แรง ให้ลองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเกาหลีเหนือเปรียบเทียบดู โดยปกติ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเกาหลีใต้มีเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์ต่ำกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่เกาหลีเหนือมีมากกว่านั้น ตัวอย่างเช่น โซจูเปียงยางซึ่งทำจากข้าวโพดและข้าวขาวมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ระหว่าง 25 – 30 เปอร์เซ็นต์ แรงกว่าของที่ผลิตในตอนใต้มาก
ถึงแม้จะไม่มีเหตุผลที่เฉพาะเจาะจงอธิบายว่าทำไมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเกาหลีเหนือถึงแรงกว่า แต่ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์อาจเป็นปัจจัยหนึ่ง เนื่องจากตั้งอยู่ทางตอนเหนือมากกว่า ฤดูหนาวจึงยาวนานขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องอาศัยสุราที่แรงเพื่อสร้างความอบอุ่นในช่วงเวลาดังกล่าว
อาหารเกาหลีเหนือเป็นอาหารที่ยังคงความดั้งเดิมเอาไว้มากมากเมื่อเทียบกับอาหารเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ร้านอาหารเกาหลีใต้จำนวนมากมักจะทดลองทำอาหารเพื่อให้ลูกค้าของพวกเขาสนใจยิ่งขึ้น อาหารเกาหลีใต้จึงค่อนข้างทันสมัยและเป็นที่ถูกปากของนักชิมมากกว่า
อ้างอิงบทความ
- Food, eating habits and cusine of North Korea
- History of North Korean Cuisine
- North Korean cuisine, same same, but different