“สฟาร์บาร์” (Svalbard) อาร์คติคที่แท้จริง
เคยเห็นไหมครับว่า “ขั้วโลกเหนือ” เป็นอย่างไร การเดินทางมา “สฟาร์บาร์” นั้นให้คำตอบนั้นกับเราได้
ดินแดนที่ถูกคนไทยเรียกชื่อผิดมานาน เรามักเรียกดินแดนแห่งนี้ว่า “สวาลบาร์ด” ด้วยการเลียนตามเสียงภาษาอังกฤษ ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะเราต้องออกเสียงตามภาษานอร์ดิคว่า “สฟาร์บาร์”
“สฟาร์บาร์” คือ หนึ่งในดินแดนที่อยู่เกือบจะติดกับจุดสูงสุดของขั้วโลกเหนือ อยู่ตรงกลางระหว่างแผ่นดินใหญ่นอร์เวย์และขั้วโลกเหนือพอดี ดินแดนแห่งนี้เป็นเกาะที่ถือว่ามีมนุษย์อาศัยอยู่อย่างถาวรมากที่สุดในโลก
“สฟาร์บาร์” มีเมืองหลักของเกาะคือ เมืองที่อ่านออกเสียงว่า “ลองเยียร์เบียน” (Longyearbyen) ซึ่งอยู่ห่างจากขั้วโลกเหนือเพียงแค่ 1,050 กิโลเมตรเท่านั้น !!! กลิ่นไอแห่งขั้วโลกเหนือกระแทกจมูกเบาๆ
“สฟาร์บาร์” มีประชากรทั้งสิ้นประมาณ 2,667 คน (ข้อมูลปี ค.ศ. 2016) แต่หากเปรียบเทียบกับจำนวนหมีขาวแล้ว ที่หมู่เกาะแห่งนี้ มีหมีขาวกว่า 3,000 ตัว หมีขาวจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของที่แห่งนี้
“สฟาร์บาร์” เป็นเกาะที่อาจจะพิเศษกว่าชาวบ้านเขาตรงที่ ถึงแม้จะดูเหมือนอยู่ภายใต้การปกครองของราชอาณาจักรนอร์เวย์ แต่ด้วย สนธิสัญญาสฟาร์บาร์ (Svalbard treaty) ตั้งแต่สมัย ค.ศ.1920 ทำให้ดินแดนแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่นอร์เวย์เสมือนหนึ่งเป็นผู้ดูแลดินแดนแห่งนี้ แต่ชาติอื่นๆในข้อตกลงก็สามารถเดินทางมาดินแดนแห่งนี้ได้เช่นกัน (รวมถึงการใช้ประโยชน์จากที่ดินและทรัพยากร) โดยที่ไม่ต้องใช้วีซ่าเชงเก้น แต่เจ้ากรรมสายการบินที่มาถึงมีเพียงแต่สายการบินมาจากแผ่นดินใหญ่นอร์เวย์เท่านั้น ทุกคนก็เลยต้องใช้วีซ่าเชงเก้นเหมือนเดิม
“สฟาร์บาร์” ตั้งอยู่ในละติจูดที่สูงมาก ทำให้เกิดความแตกต่างของฤดูกาลและเวลาของพระอาทิตย์อย่างสุดขั้ว คือ จะมีช่วง 4 เดือนที่ พระอาทิตย์ไม่ตกดินเลย (Midnight Sun) ซึ่งอยู่ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม และช่วงเดือนที่ พระอาทิตย์ตกดินตลอดวัน เรียกว่า “โพลาร์ไนท์” (Polar Night) ซึ่งอยู่ระหว่างเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ของทุกๆปี เท่ากับปีๆหนึ่ง คนสฟาร์บาร์ จะเจอแสงอาทิตย์ที่เหมือนคนปกติเพียง 4 เดือนเท่านั้น
“สฟาร์บาร์” คือจุดศูนย์รวมกิจกรรมแห่งขั้วโลกและพื้นหิมะที่แท้จริง ในฤดูหนาว การขี่สโนว์โมบิล ขี่รถสุนัขลากเลื่อน คือที่สุด ส่วนในหน้าร้อนการล่องเรือตามหาหมีขาว จิ้งจอกอาร์คติค ช้างทะเลวอลลัส หรือแมวน้ำ คือหนึ่งในกิจกรรมที่ห้ามพลาด
เพียงเท่านี้ ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการอารัมภบทให้ทุกๆคนได้ทราบถึงดินแดนแห่งขั้วโลกเหนือที่มีชื่อว่า “สฟาร์บาร์” (Svalbard)
———————————————————–
หมายเหตุ : การอ่านออกเสียงคำว่า “สฟาร์บาร์” (Svalbard) อ้างอิงจากการออกเสียงตาม National Geographic ซึ่งเป็นการถอดเสียงจากภาษานอร์ดิคอีกครั้ง จึงขอแจ้งไว้เบื้องต้นตามนี้นะครับ
เมืองลองเยียร์เบียน (Longyearbyen)
ลองเยียร์เบียน (Longyearbyen) ชุมชนที่ใหญ่ที่สุดและศูนย์กลางการบริหารของสฟาลบาร์มีประชากร 2,040 คนในปี ค.ศ. 2008 เมืองนี้ตั้งอยู่ใน หุบเขาลองเยียร์ดาเลน (Longyeardalen) และเป็นที่ตั้งของสภาชุมชนลองเยียร์เบียน สถานที่ราชการ ท่าเรือ มหาวิทยาลัย สนามบิน โรงเรียน และโบสถ์คริสต์ศาสนา
ทีนี่ถึงแม้จะดูเหมือนไกลปืนเที่ยงอยู่ห่างจากความเจริญใดๆ แต่ที่นี่ก็ยังคงมีโรงแรมที่ให้บริการแบบ Full service มาตรฐานคือ Radisson Blu Polar
ในช่วงฤดูหนาวทะเลบางส่วนจะกลายเป็นน้ำแข็งแบบนี้ที่ สฟาร์บาร์
แผนที่หมู่เกาะสฟาร์บาร์ (Svalbard Archipelago)
ประกอบด้วย 3 เกาะใหญ่ เรียงลำดับความใหญ่ไปเล็กได้แก่
Spitsbergen > Nordaustlandet > Edgeøya
หมู่เกาะสฟาร์บาร์ตั้งอยู่ที่เส้นรุ้งที่ 74 – 81 องศาเหนือ มีภูมิอากาศแบบอาร์คติคตลอดทั้งปี
ศูนย์กลางหลักจะตั้งอยู่บนเกาะ Spitsbergen แทบทั้งสิ้น มีจุดสำคัญดังนี้
1.) Longyearbyen > เมืองหลักของเกาะ เป็นที่อยู่ของชุมชนใหญ่ชาวนอร์เวย์
2.) Barentberg > ชุมชนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเกาะ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย ทำกิจการเหมือง
3.) Sveagruva > ชุมชนชาวเหมืองอันดับสามของสฟาร์บาร์
4.) Pyramiden > อดีตขุมเหมืองถ่านหิน ปัจจุบันคือเมืองร้าง
5.) Ny Alesund > ศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ เป็นที่อยู่อาศัยถาวรของมนุษย์ที่อยู่สูงที่สุดของโลก
การนั่งรถสุนัขลากเลื่อนที่สฟาร์บาร์คือการผจญภัยที่แท้จริง ด้วยสุนัขสายพันธุ์อลากันฮัสกี้ที่ดุดันพร้อมจะพาทุกท่านตะลุยไปในทุ่งหิมะในช่วงฤดูหนาว
ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Cave) อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของสฟาร์บาร์ กิจกรรมเข้าถ้ำน้ำแข็งมักจะถูกรวมไปกับกิจกรรมขี่สุนัขลากเลื่อนโดยปกติ
เมือง Pyramiden
อดีตเขตที่อยู่ของชาวรัสเซียที่เป็นศูนย์กลางในการทำ อุตสาหกรรมเหมืองถ่านหิน (coal mine) ที่นี่จึงไม่แปลกใจถ้าจะพบรูปปั้นของเลนิน ป้ายต่างๆที่ระบุเป็นภาษารัสเซีย หรือร่องรอยการใช้ชีวิตของคนรัสเซียก่อนหน้านี้
หลังจากปี ค.ศ.1998 เมื่อเหมืองนี้ได้ถูกปิดลง คนย้ายออกไป เมืองนี้เลยกลายเป็นสภาพเป็นเมืองร้างไปโดยปริยาย ปัจจุบันเมือง Pyramiden จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของสฟาร์บาร์ มีโรงแรมที่มาตั้งอยู่ใจกลางเมืองเพิ่มเติมอีกด้วย
สโนว์โมบิล (Snowmobile)
คืออีกหนึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาดในช่วงฤดุหนาวส่วนใหญ่เราจะใช้เวลา 1 วันเต็มสำหรับการเดินทางไปในทุ่งหิมะ และก็แน่นอนว่าต้องระวัง หมีโพลาร์ ให้ดี สัตว์ตัวนี้มันน่ารักเฉพาะเมื่อมันอยู่ในระไกลจากเราเท่านั้น
ขี่สโนว์โมบิลสู่เมือง Barentsburg
เนื่องด้วย สนธิสัญญาสฟาร์บาร์ (Svalbard treaty) ที่กำหนดไว้แล้วว่า ถึงแม้แผ่นดินจะอยู่ในการปกครองของนอร์เวย์ แต่ประเทศที่อยู่ในร่างสนธิสัญญาฉบับนี้ยังมีสิทธิ์ในการใช้พื้นที่ทำเหมืองได้
เมือง Barentsburg คือตัวอย่างของสนธิสัญญา ที่ปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่เป็นคนรัสเซียที่ประกอบกิจการเหมือง และถือว่าเป็นชุมชนที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก Longyearbyen และแน่นอนว่าการเดินทางระหว่างเมืองนั้นไม่มีถนน เราทำได้เพียง การนั่งเรือ หรือ เฮลิคอปเตอร์ หรือ การขี่สโนว์โมบิลนั่นเองครับ
สัตว์โลกแห่งสฟาร์บาร์
หมู่เกาะสฟาร์บาร์ (Svalbard) คือแหล่งรวมที่อยู่อาศัยของสัตว์โลกในเขตอาร์คติคหลากหลายชนิด หมีขาวโพลาร์แบร์เป็นสัตว์ที่ได้รับการคุ้มครองโดยให้ปลอดจากการรบกวนของมนุษย์เราสามารถเข้าไปดูหมีขาวได้ในระยะไกลเท่านั้น
ปิดท้ายกันที่ภาพแสงเหนือที่ หมู่บ้าน Ny Alesund ณ Space Geodetic Research Facility of the Norwegian Mapping Authority
ที่นี่คือ หมู่บ้านที่มีคนอาศัยอยู่จริง ณ ละติจูดที่สูงที่สุดของโลก
ทีมงาน Patourlogy ให้บริการจัดทริปส่วนตัวแก่ทุกท่านที่สนใจในเส้นทางสายสฟาร์บาร์แห่งนี้
อ่านบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอื่นๆต่อได้ที่ >>> https://www.patourlogy.com/blog/inspiration
สนใจทัวร์ส่วนตัว และโปรแกรมทัวร์ คลิ๊ก >>> https://www.patourlogy.com/ทริปทัวร์เดินทาง
สนใจอยากเดินทางไปที่สฟาร์บาร์ สามารถดูโปรแกรมได้ที่นี่ https://www.patourlogy.com/tour/ทัวร์-สวาลบาร์ด-svalbard
4 Comments
สนใจ svalbard tour ค่ะ
ถ้ามีจัด รบกวนแจ้งด้วยนะค่ะ
เรียนคุณวาสนา สำหรับทริป Svalbard จะมีจัดในช่วงปลายปีนี้คือ เดือนตุลาคม จะประกาศอีกครั้งนะครับ