ทัวร์อลาสก้าและฮาวาย (Alaska and Hawaii)

ทัวร์อลาสก้าและฮาวาย

เดินทางสู่ดินแดนเหนือสุดของสหรัฐอเมริกา เยี่ยมชมสัตว์โลกสุดน่ารักแห่งเขตหนาว และธารน้ำแข็งสุดยิ่งใหญ่ บินข้ามแปซิฟิคมายังหมู่เกาะที่มีสีสรรมากที่สุดของโลกที่ฮาวาย

จุดเด่นของเส้นทาง

• เยือนอลาสก้า (Alaska) แบบท่องเที่ยวครบในเส้นทางหลักบนแผ่นดิน ปกติทัวร์ทั่วไปจะจัดแบบล่องเรือไม่มีใครทำเส้นทางแบบนี้มาก่อน
• เดินทางเข้าไปยังใจกลางอลาสก้าที่อุทยานแห่งชาติเดนาลีซึ่งคือที่สุดของธรรมชาติแห่งอลาสก้า
• เดินทางในช่วงของฤดูร้อนที่อุณหภูมิกำลังเย็นสบาย พร้อมรับบรรยากาศพระอาทิตย์เที่ยงคืน
• เปลี่ยนบรรยากาศข้ามมาหมู่เกาะฮาวาย เยือน 2 เกาะใหญ่คือ โอฮาอู และ เมาวี

วันที่ 1 : เริ่มต้น ทัวร์อลาสก้า กรุงเทพ – แองเคอเรค (Anchorage)

• 21.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน Asiana Airlines เจ้าหน้าที่จากบริษัท ฯ จะคอยต้อนรับและอํานวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง

วันที่ 2 : กรุงเทพ – อินชอน (Incheon) – ซีแอตเทิล (Seattle)

• 01.10 น. เดินทางสู่ เมืองอินชอน (Incheon) ประเทศเกาหลี ด้วยไฟลต์บิน OZ742 (เครื่องบินแบบ Airbus A330) สายการบิน Asiana Airlines รับประทานอาหารบนเครื่องตามมาตรการ social distancing (ใช้เวลาบิน 6 ชั่วโมง 5 นาที)
• 09.15 น. เดินทางถึง สนามบินอินชอน ประเทศเกาหลี พักผ่อนในสนามบิน เป็นเวลา 9 ชั่วโมง 5 นาที
• 18.20 น. เดินทางสู่ ซีแอตเทิล (Seattle) ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยไฟลต์บิน OZ272 (เครื่องบินแบบ Airbus A350) สายการบิน Asiana Airlines รับประทานอาหารบนเครื่องตามมาตรการ social distancing (ใช้เวลาบิน 10 ชั่วโมง 35 นาที)

วันที่ 3 : ซีแอตเทิล (Seattle) – แองเคอเรค (Anchorage)

• 12.55 น. เดินทางถึง ซีแอตเทิล (Seattle) สหรัฐอเมริกา ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง รอต่อเครื่อง
  **เราข้ามเส้น Time Zone ทำให้เรายังอยู่ในวันเดิม**
• พาท่านดำเนินการผ่านมาตรการขั้นตอนต่างๆ ของสนามบิน Seattle-Tacoma International Airport (SEA)
• 18.00 น. เดินทางสู่เมือง แองเคอเรค (Anchorage) ด้วยสายการบิน Alaska Airlines ไฟลต์บิน AS 111 (ระยะเวลาบิน 3 ชั่วโมง 30 นาที)
• 20.40 น. เดินทางถึง สนามบิน Ted Stevens Anchorage International Airport
• หลังจากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักภายในสนามบิน
• ที่พัก โรงแรม Sheraton Anchorage Hotel & Spa หรือเทียบเท่า

ซีแอตเทิล (Seattle)

วันที่ 4 : คาบสมุทรเคไน (Kenai Peninsula) 

• เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• ขึ้นรถบัสประจำกลุ่มออกเดินทางสู่ เมืองโฮเมอร์ (Homer) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการตกปลาฮาลิบัต แวะชมความงามทิวทัศน์ริมทะเลของ Cook Inlet ซึ่งเป็นทางน้ำในบริเวณ Turnagain Arm ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ อ่าวอลาสก้า (Gulf of Alaska) และหากมีจังหวะเวลาที่เหมาะสมก็จะสามารถมองเห็นปลาวาฬจากชายฝั่งได้
• กลางวัน เดินทางเข้าถึง คาบสมุทรเคไน (Kenai Peninsula) ซึ่งเป็นที่รู้จักดีในเรื่องธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ ทั้งชายฝั่ง ป่า แม่น้ำ และธารน้ำแข็ง นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติ
• บ่าย เดินทางเข้าสู่ ทางหลวงสเตอร์ลิง (Sterling Highway) ถนนสายหลักที่พาดเลียบแม่น้ำเคไน ซึ่งมีชื่อเสียงว่าเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาแซลมอน พร้อมแวะชมวิวทัวทัศน์ที่สวยงามตามจุดต่างๆ ระหว่างทาง
• เย็น เดินทางถึง เมืองโฮเมอร์ (Homer) เมืองขนาดเล็กที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ตั้งอยู่ติดกับ อ่าวคาเชมัค (Kachemak Bay)
• รับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย ท่านสามารถเดินชมบริเวณ โฮเมอร์สปิต (Homer Spit) แผ่นดินแคบยาวที่ยื่นออกไปในทะเลที่เป็นต้นกำเนิดของการสร้างเมืองโฮเมอร์ ปัจจุบันเป็นบริเวณสำคัญสำหรับการคมนาคนทางเรือ นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวและสถานที่เดินเล่นที่เป็นที่นิยม เพราะสามารถมองเห็นท่าเรือพร้อมทะเลและยอดเขาเป็นฉากหลังได้ชัดเจน และยังมีร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ มากมายที่เปิดในฤดูร้อน จากนั้นรถจะนำท่านเข้าสู่ที่พักในตัวเมืองโฮเมอร์
• ที่พัก โรงแรม Aspen Suites หรือเทียบเท่า

คาบสมุทรเคไน (Kenai Peninsula)

วันที่ 5 : หมู่บ้านเซลโดเวีย (Seldovia)

• เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• นำท่าน ล่องเรือชมความงามของ อ่าวคาเชมัค (Kachemak Bay) ท่านจะได้ชมวิวจากบนเรือซึ่งจะได้มุมมองที่แตกต่างออกไปจากปกติ นอกจากนี้ท่านจะได้พบกับสัตว์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณอ่าว เช่น นกทะเล นากทะเล เป็นต้น
• เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ร้านอาหาร (กึ่ง fast food)
• บ่าย เดินทางถึงหมู่บ้านเซลโดเวีย (Seldovia) หมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบและอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ปัจจุบันมีประชากรเพียง 300 คน หมู่บ้านนี้สามารถเดินทางมาได้โดยใช้เรือหรือเครื่องบินเท่านั้น เนื่องจากไม่มีถนนตัดผ่าน ในอดีตที่นี่เคยเป็นจุดแวะพักที่สำคัญในการเดินทางทางน้ำก่อนที่จะสร้างท่าเรือใหญ่ขึ้นที่โฮเมอร์
• พาเดินชมรอบเมืองและรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารท้องถิ่น
• บ่าย มีเวลาเดินเล่นชมหมู่บ้านและผ่อนคลายตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ประจำเมืองซึ่งเป็นอาคารไม้แบบเก่า เดินเล่นริมชายฝั่งบนทางเดินที่สร้างขึ้นอย่างสวยงาม (Historic Board Walk) เรียนรู้เกี่ยวกับชนเผ่าพื้นเมืองที่ Seldovia Village Tribe Visitor Center หรือเดินชมธรรมชาติรอบๆ เมือง
• จากนั้นจะเดินทางกลับสู่เมือง Homer ทางเรือ โปรแกรมทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง
• เย็น เดินทางกลับถึงเมือง Homer นำท่านรับประทานอาหารเย็นในร้านอาหารและกลับสู่ที่พัก
• ที่พัก โรงแรม Aspen Suites หรือเทียบเท่า

วาฬเพชรฆาต (Orca) ที่อ่าวคาเชมัค (Kachemak Bay)

นาคทะเล (Otter) อ่าวคาเชมัค (Kachemak Bay)

วาฬกำลังว่ายน้ำเล่นในอ่าว

อ่าวคาเชมัค (Kachemak Bay)

วันที่ 6 : อุทยานแห่งชาติเคไนฟยอร์ด (Kenai Fjords National Park)

• เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• ขึ้นรถออกเดินทางสู่ เมืองซีวอร์ด (Seward) ซึ่งรู้จักกันในชื่อว่า ประตูสู่เคไนฟยอร์ด (Gateway to the Kenai Fjords National Park) แวะชมทะเลสาบเคไน (Kenai Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่มีเอกลักษณ์คือรูปร่างยาวเป็นทางซิกแซก ระหว่างทางท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ป่าและภูเขาที่สวยงามบนเส้นทาง
• เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ร้านอาหาร (กึ่ง fast food)
• บ่าย เดินทางถึง ธารน้ำแข็งเอ็กซิต (Exit Glacier) ธารน้ำแข็งที่เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติเคไนฟยอร์ด (Kenai Fjords National Park) เป็นธารน้ำแข็งที่ยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ ตลอดเวลา และเป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งไม่กี่แห่งที่สามารถเข้าไปชมความยิ่งใหญ่ของมวลน้ำแข็งได้อย่างใกล้ชิดและเห็นปรากฎการณ์ธารน้ำแข็งหดตัวได้ชัดเจน
• นำท่านเข้าสู่ เมืองซีวอร์ด (Seward) เมืองปลายทางรถไฟ Alaska Railroad และเป็นเมืองท่าอีกแห่งที่มีความสำคัญทางการประมง ท่านจะได้เพลิดเพลินกับการเดินชมเมืองตามอัธยาศัยในบรรยากาศสบายๆ และชมภูมิทัศน์แบบฟยอร์ดของ อ่าวแห่งการชุบชีวิต (Resurrection Bay) สามารถเดินเล่นชมร้านรวงและวิถีชีวิตบริเวณท่าเรือ
• เย็น รับประทานอาหารเย็น ที่ร้านอาหารท้องถิ่น
• ที่พัก โรงแรม Harbor 360 หรือเทียบเท่า

ธารน้ำแข็งเอ็กซิต (Exit Glacier)

ธารน้ำแข็งเอ็กซิต (Exit Glacier)

วันที่ 7 : อุทยานแห่งชาติเคไนฟยอร์ด (Kenai Fjords National Park)

• รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• นำท่านล่องเรือออกสู่ อ่าวแห่งการชุบชีวิต (Resurrection Bay) เที่ยวชมบริเวณ อุทยานแห่งชาติเคไนฟยอร์ด (Kenai Fjords National Park) เพลิดเพลินไปกับความยิ่งใหญ่ของภูเขาและทะเลที่รายล้อมอยู่ และในขณะเดียวกันก็จะได้พบกับสัตว์นานาชนิดที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ เช่น แมวน้ำ สิงโตทะเล ปลาวาฬ และนกชนิดต่าง ๆ (โอกาสในการเห็นสัตว์ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาและสภาพอากาศในขณะนั้น)
• นอกจากนี้ท่านยังมีโอกาสสัมผัสธารน้ำแข็งอย่างใกล้ชิดและทึ่งไปกับภาพน้ำแข็งสีฟ้าก้อนยักษ์ที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ รวมทั้งมีโอกาสได้เห็นภาพก้อนน้ำแข็งที่กำลังแตกออกมาจากธารน้ำแข็ง เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และหาชมได้ยาก และเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศน์ ความเป็นมา และธรณีวิทยาของบริเวณนั้นด้วย โดยระยะเวลาของโปรแกรมทั้งหมด 6 ชั่วโมง
• เดินทางกลับสู่ เมืองซีวอร์ด (Seward) รับประทานอาหารเย็นในร้านอาหารและกลับสู่ที่พัก
• ที่พัก โรงแรม Harbor 360 หรือเทียบเท่า

อุทยานแห่งชาติเคไนฟยอร์ด (Kenai Fjords National Park

วันที่ 8 : แองเคอเรจ (Anchorage)

• เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• เยี่ยมชมนิทรรศการที่ ศูนย์วิจัยสัตว์ทะเลแห่งอลาสก้า (Alaska Sealife Center) ซึ่งก่อตั้งเพื่อทำการวิจัยเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทางทะเลของอลาสก้า และให้ความรู้แก่คนทั่วไป ไฮไลท์ของที่นี่คือการได้เห็น สัตว์ทะเลอย่างครบถ้วน ได้แก่ นาก สิงโตทะเล นกพัฟฟิน และสัตว์ใต้ทะเลอีกมากมาย
• กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันเป็นข้าวกล่อง
• บ่าย ออกเดินทางสู่ เมืองแองเคอเรจ (Anchorage) ระหว่างทางท่านจะได้เข้าชม ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าแห่งอลาสก้า (Alaska Wildlife Conservation Center) ณ เมืองเกิร์ดวู้ด (Girdwood) ศูนย์อนุรักษ์และช่วยเหลือสัตว์ป่ากลางแจ้งที่ดูแลสัตว์นานาชนิด ท่านจะได้สัมผัสกับสัตว์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ อลาสก้าอย่างใกล้ชิดในสภาพแวดล้อมแบบธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นหมี บิซอน กวางมูส เอลค์ สุนัขจิ้งจอก
• เย็น เดินทางถึง เมืองแองเคอเรจ (Anchorage) เมืองขนาดใหญ่ที่สุดของรัฐ พักผ่อนและรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย ท่านสามารถเดินเล่นบริเวณสวนสาธารณะใกล้ชายฝั่งทะเล เลือกซื้อของที่ระลึก (รัฐอลาสก้าไม่มีการเก็บภาษีเมื่อซื้อของ) ตามร้านค้าต่างๆ ได้โดยในช่วงฤดูร้อนท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศมีชีวิตชีวาของเมือง
• ที่พัก โรงแรม Sheraton Anchorage Hotel & Spa หรือเทียบเท่า

ฝูงควายไบสัน (Bison) ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าแห่งอลาสก้า (Alaska Wildlife Conservation Center)

วันที่ 9 : ทาลคีตนา (Talkeetna)

• เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
• ในช่วงเช้าท่านจะมีเวลาพักผ่อนตามสบาย หากสนใจ ท่านสามารถเข้าชม พิพิธภัณฑ์แองเคอเรจ (Anchorage Museum) หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่และดีที่สุดของอลาสก้า มีการจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนเกี่ยวกับชนพื้นเมืองเผ่าต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในอลาสก้า วิถีชีวิตและวัฒนธรรมในแถบอาร์คติก รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ค้นพบจากทั่วอลาสก้า เช่น เสื้อผ้า อุปกรณ์การต่อสู้
• เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
• บ่าย ออกเดินทางสู่ เมืองทาลคีตนา (Talkeetna) ทางเหนือของแองเคอเรจ ซึ่งถือเป็นเมืองตั้งต้นสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางพิชิต ยอดเขาเดนาลี (Denali Peak) ยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ ระหว่างทางท่านจะได้แวะชมทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาและป่าไม้ เมื่อถึงแล้วพาท่านเดินชมภายในเมือง ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ แต่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามมาก ท่านอาจได้พบกับสัตว์ป่าในขณะที่เดินเล่นในบริเวณสวนสาธารณะในเมือง
• เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร จากนั้นพาท่านเข้าสู่ที่พัก ในวันที่อากาศดีท่านสามารถมองเห็นยอดเขาเดนาลีจากโรงแรมที่พักได้
• ที่พัก โรงแรม Talkeetna Alaskan Lodge หรือเทียบเท่า

ยอดเขาเดนาลี (Denali Peak)

วันที่ 10 : ทางหลวงเดนาลี (Denali Highway)

• เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• ออกเดินทางสู่ เขตเดนาลี (Denali) พาท่านเดินทางด้วยรถจี๊ปตาม ทางหลวงเดนาลี (Denali Highway) ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางที่สวยงามที่สุด ความยาว 217 กิโลเมตร แต่เดิมถนนสายนี้เป็นเส้นทางเดียวในการเดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติเดนาลี ปัจจุบันมีน้อยคนที่จะเดินทางด้วยถนนสายนี้ เนื่องจากมีทางหลวงที่สะดวกกว่ามาก และไม่สามารถใช้รถคันใหญ่หรือรถยนต์นั่งธรรมดาได้ ทางหลวงเดนาลีจึงให้บรรยากาศของสถานที่อันห่างไกลที่น้อยคนจะเดินทางมาเยือน
  ตลอดระยะทางท่านจะได้เห็นธรรมชาติที่แตกต่างกัน ทั้งเส้นทางที่ตัดผ่านภูเขา ในวันที่อากาศดีสามารถเห็นภาพมุมกว้างสุดลูกหูลูกตา ทะเลสาบ ทุ่งหญ้า ป่าสน และอาจได้เห็นสัตว์ป่า เช่น กวางแคริบู เป็นต้น
• เที่ยง รับประทานอาหารกล่อง
• บ่าย นำท่านเข้าสู่ที่พัก พักผ่อนและชมวิวตามอัธยาศัย
• เย็น รับประทานอาหาร ที่ร้านอาหารท้องถิ่น
• ที่พัก โรงแรม Denali Park Village หรือเทียบเท่า

ทางหลวงเดนาลี (Denali Highway)

วันที่ 11 : อุทยานแห่งชาติเดนาลี (Denali National Park)

• เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• ออกเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติเดนาลี (Denali National Park) อุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพแวดล้อมหลากหลาย ตั้งแต่บริเวณที่ราบซึ่งเป็นป่าไม้ ไปจนถึงสภาพแวดล้อมแบบทุนดราในบริเวณที่มีความสูงปานกลาง และยอดเขาหินที่ปกคลุมด้วยหิมะในที่สูง นอกจากยอดเขาเดนาลี ยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือแล้ว ยังมีหุบเขาและแม่น้ำอีกหลายแห่ง จึงเป็นที่นิยมในหมู่นักเดินป่าและปีนเขา
• ในวันนี้ท่านจะได้เดินทางลึกเข้าไปด้านในอุทยานโดยรถบัสของทางอุทยาน กับ Tundra Wilderness Tour ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานมาบรรยายเกี่ยวกับธรรมชาติภายในอุทยาน และพาท่านชมสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติ เช่น หมี กวางมูส แกะดอลเขาโค้ง ให้ท่านได้ซึมซับบรรยากาศของธรรมชาติอัน อุดมสมบูรณ์อย่างเต็มที่
• เที่ยง รับประทานแบบกล่อง
• บ่าย เดินทางกลับสู่ที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
• เย็น รับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
• ที่พัก โรงแรม Denali Park Village หรือเทียบเท่า

กวางมูส (Moose) ในอุทยานแห่งชาติเดนาลี

นกอินทรีย์ ในอุทยานแห่งชาติเดนาลี

หมีกริซลี่

วันที่ 12 : แฟร์แบงก์ส (Fairbanks)

• เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• ออกเดินทางสู่ เมืองแฟร์แบงก์ส (Fairbanks) เมืองใหญ่ที่สุดใน เขตอลาสก้าชั้นใน (Interior Alaska) และเคยเป็นเมืองสำคัญสำหรับการทำเหมืองทอง เพลิดเพลินกับการชมทิวทัศน์ระหว่างทาง
• เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันในร้านอาหาร
• บ่าย เดินทางถึง เมืองแฟร์แบงก์ส (Fairbanks) จากนั้นนำท่านชมสถานที่ต่างๆ ในเมืองแฟร์แบงก์ส เช่น ศูนย์วัฒนธรรมมอร์ริส ทอมป์สัน (Morris Thompson Cultural & Visitors Center) พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวพื้นเมืองอาธาบัสกัน (Athabascan Indian) ที่เคยอาศัยในบริเวณนี้มาเป็นเวลานาน
• เย็น รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
• ที่พัก โรงแรม Fairbanks River’s Edge Cabin หรือเทียบเท่า

เมืองแฟร์แบงก์ส (Fairbanks)

วันที่ 13 : แฟร์แบงก์ส (Fairbanks)

• เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• ล่องเรือแม่น้ำชีนา (Chena River) ซึ่งจะนำท่านไปรู้จักกับประวัติความเป็นมาของบริเวณนี้ซึ่งได้มีการตั้งรกรากมายาวนาน เยี่ยมชมหมู่บ้านจำลองของชาวอินเดียนพื้นเมือง ท่านจะได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตของชาวเผ่าในสมัยนั้นที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติเขตหนาวจัด รับชมการสาธิตการบังคับเครื่องบินเล็ก (bush plane) ซึ่งมีไว้เพื่อเดินทางในพื้นที่ทุรกันดารและเป็นอีกสิ่งจำเป็นในพื้นที่อันห่างไกลแห่งนี้ ชมความน่ารักและเฉลียวฉลาดของสุนัขลากเลื่อน
• รับประทานอาหารกลางวันบนเรือ
• บ่าย เดินทางไปยัง น้ำพุร้อนชีนา (Chena Hot Springs) ท่านจะมีเวลาผ่อนคลายตามอัธยาศัยไปกับการแช่น้ำร้อนจากธรรมชาติ จากความลึกกว่า 3,000 ฟุต ผ่านชั้นหินและแร่มากมาย อุดมด้วยแร่ธาตุที่ดีต่อผิวและช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้า นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเสริม (ไม่รวมในค่าเข้า) อื่นๆ เช่น การขี่ม้า เยี่ยมชมบ้านสุนัขลากเลื่อน พิพิธภัณฑ์น้ำแข็งที่เปิดบริการตลอดปี เป็นต้น
• เย็น เดินทางกลับสู่เมืองแฟร์แบงก์ส รับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร
• ที่พัก โรงแรม Fairbanks River’s Edge Cabin หรือเทียบเท่า

แม่น้ำชีนา (Chena River)

วันที่ 14 : นั่งรถไฟ ARR Denati Star เส้นทาง แฟร์แบงก์ส (Fairbanks) – แองเคอเรค (Anchorage)

• รับประทานอาหารเช้าภายในที่พัก
• 08.15 น. เดินทางไปยังสถานีรถไฟประจำเมืองแฟร์แบงก์ส เพื่อขึ้น รถไฟขบวน ARR Denali Star ขบวนรถไฟสายโรแมนติกของรัฐอลาสก้า โดยระหว่างเส้นทางเราจะผ่านยังธรรมชาติต่างๆมากมาย ในมุมมองที่แตกต่างจากที่อยู่บนถนน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง 45 นาที
• 12.10 น. เดินทางถึงเขตอุทยานแห่งชาติเดนาลี
• 16.40 น. เดินทางถึงเมืองทาลคีตนา
• 20.00 น. เดินทางถึงเมืองแองเคอเรค (Anchorage)
• ที่พัก Sheraton Anchorage Hotel & Spa หรือเทียบเท่า

วันที่ 15 : แองเคอเรค (Anchorage) – ซีแอทเทิล (Seatlle) – เมาวี (Maui)

• รับประทานอาหารเช้าภายในที่พัก
• 07.00 น. เดินทางไปยังสนามบิน สนามบิน Ted Stevens Anchorage International Airport
• 09.00 น. เดินทางสู่ ซีแอตเทิล (Seattle) ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยไฟลต์บิน AS88 (เครื่องบินแบบ Boeing 737-800) สายการบิน Alaska Airlines รับประทานอาหารบนเครื่องตามมาตรการ social distancing (ใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมง 30 นาที)
• 13.29 น. เดินทางถึง ซีแอตเทิล (Seattle) สหรัฐอเมริกา พักเปลี่ยนเครื่อง 50 นาที
• ออกเดินทางสู่ เกาะเมาวี แห่งหมู่เกาะฮาวาย ด้วยสายการบิน Alaska Airlines ไฟลต์บิน AS 870 ใช้เวลาบิน 6 ชั่วโมง 8 นาที เครื่องบินประเภท Boeing 737-800
• 17.27 น. เดินทางถึง สนามบินเมาวี (Kahului Airport) แห่งหมู่เกาะฮาวาย
• ฮาวาย (Hawaii) เป็นรัฐที่ 50 ของประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ในมหาสมุทร แปซิฟิก โดยฮาวายอยู่ห่างจากชายฝั่งสหรัฐอเมริกาประมาณ 3,700 กม. แต่เดิมฮาวายถูกเรียกว่า “หมู่เกาะแซนด์วิช” ตั้งโดย เจมส์ คุก เมื่อล่องเรือมาพบเกาะ ในปี ค.ศ. 1778 ฮาวายประกอบไปด้วย เกาะ น้อยใหญ่ 8 เกาะ คือ
  • โอวาฮู (Oahu) เป็นศูนย์กลางการปกครองของมลรัฐฮาวาย มีเมืองฮอนโนลูลูเป็นเมืองสำคัญทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา รวมถึงการปกครอง
  • ฮาวายอิ หรือ บิ๊กไอส์แลนด์ (Hawaii) เป็นเกาะที่เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟรูปโล่ที่ยังคงทรงพลังมากที่สุดของโลกที่มีชื่อว่า Kīlauea
  • เมาวี (Maui) เกาะที่มีชื่อเสียงด้านการเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศ
  • คาไว (Kauai)
  • โมโลไก (Molokai)
  • ลาไน (Lanai)
  • นี่เฮา (Niihau)
  • คาโฮลาเว (Kaho olase)
• ตั้งแต่อดีตกาลนั้นหมู่เกาะในฮาวาย แรกเริ่มเดิมทีเป็นถิ่นอาศัยของ ชาวพื้นเมืองโปลินีเชียน (Polynesian) ที่อพยพย้ายถิ่นที่อยู่ไปมาระหว่างเกาะต่างๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก หมู่เกาะในฮาวายแต่ก่อนแยกกันปกครองจนกระทั่งพระราชานามว่า คาเมฮาเมฮามหาราช (King Kamehameha the Great) ได้รวบรวมหมู่เกาะเหล่านี้เข้าเป็นอาณาจักรเดียวกันเรียกว่าราชอาณาจักรฮาวายและปกครองต่อเนื่องสืบมาจนสิ้นรัชกาลในปี ค.ศ. 1872 หลังจากนั้นจึงตกเป็นส่วนหนึ่งในการปกครองของชาวตะวันตกก่อนจะถูกผนวกเข้าเป็นรัฐที่ 50 ของสหรัฐอเมริกา
• เดินทางต่อไปยังที่พักและรับประทานอาหารเย็น
• ที่พัก : โรงแรม Hyatt Regency Maui Resort and Spa หรือเทียบเท่า

วันที่ 16 : เมาวี (Maui) – ปากปล่องภูเขาไฟฮาเลอาคาลา (Haleakala Crater)

• รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรม
• 09.00 – 12.00 น. ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย เพราะตอนบ่ายกิจกรรมจะยาวไปจนถึงดึก
• 12.00 น. รับประทานอาหารเที่ยง
• 13.00 น. เดินทางสู่ ปากปล่องภูเขาไฟฮาเลอาคาลา (Haleakala Crater) หนึ่งในภูเขาไฟที่สวยที่สุดในโลก
• อุทยานแห่งชาติฮาเลอาคาลา (Haleakala National Park) ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 6,500 ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล เป็นสถานที่ๆมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ที่นี่เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟฮาเลอาคาลา ที่ยังถือว่าเป็นภูเขาไฟที่ยังมีพลังแต่อยู่ในสภาวะที่หลับไหลมานาน โดยระเบิดครั้งล่าสุดคือ ปี ค.ศ. 1790 ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องของการมาดูพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่ยอดภูเขาไฟที่ความสูงระดับ 10,023 ฟุต
  • เดินขึ้นยอดเขาดูวิวพาโนรามิคเสมือนหนึ่งเราอยู่บนดวงจันทร์
  • เยือน Haleakala Headquarter
  • ชมพระอาทิตย์ตก
  • รับประทานอาหารเย็น
• 21.00 น. เดินทางกลับถึงโรงแรม
• ที่พัก : โรงแรม Hyatt Regency Maui Resort and Spa หรือเทียบเท่า

Haleakala National Park Maui

Haleakala National Park Maui

วันที่ 17 : เมาวี (Maui) – Haleakala National Park Maui

• เดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในเกาะเมาวี
  • Iao Valley State Park & Iao Needle
  • Hana Waterfalls & Rainforest
  • Waianapanapa State Park
• ที่พัก : โรงแรม Hyatt Regency Maui Resort and Spa หรือเทียบเท่า

วันที่ 18 : เมาวี (Maui) – ฮอนโนลูลู (Honolulu)

• รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรม
• 10.00 น. เดินทางถึง สนามบินเมาวี (Kahului Airport)
• 11.15 น. ออกเดินทางกลับสู่ฮอนโนลูลู ด้วยสายการบิน Hawaiian Airline ไฟลต์บิน HA 355 ใช้เวลาบิน 45 นาที เครื่องบินชนิด Boein 717
• 12.00 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติแดเนียล เค. อิโนเอ (Daniel K. Inouye International Airport) เมืองฮอนโนลูลู (Honolulu)
• รับประทานอาหารเที่ยง
• นำท่านเดินทางสู่ อ่าวเพิร์ล (Pearl Harbour) หนึ่งในสมรภูมิเลือดที่เป็นตัวจุดชนวนทำให้สหรัฐอเมริกาตัดสินใจเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติที่เตือนใจคนรุ่นหลังและเป็น พิพิธภัณฑ์ที่แสดงเหตุการณ์ขณะที่กองบินของญี่ปุ่นเข้าท่าการโจมตีฐานทัพเพิร์ลฮาร์เบอร์ (Pearl Harbor National Memorial) จุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของสหรัฐอเมริกาในภูมิภาคแปซิฟิค
  • ชมอนุสรณ์สถาน เรือรบ ยูเอส.เอส. อริโซน่า (Arizona Memorial) ที่ล่มเกยตื้นปัจจุบันจะมีไฟ Eternal Flame จุดอยู่เพื่อระลึกถึงทหารหาญที่ได้เสียชีวิต ถึง 1,177 คน
  • ชมอนุสรณ์สถาน เรือรบมิซซูรี่ (Battleship Missouri Memorial)
  • ชมพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศเพิร์ลฮาร์เบอร์ (Pearl Harbor Aviation Museum)
• หลังจากนั้นนำท่านเช็คอินเข้าที่พัก ให้ท่านพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย
• ในระหว่างนี้ทีมงานจะเตรียมเอกสารสำหรับ การขอหนังสือรับรอง Certificate of Entry – (COE)
• รับประทานอาหารเย็น
• ที่พัก : โรงแรม Hilton Hawaiian Village Waikiki Beach Resort หรือเทียบเท่า

เทือกเขาบนเกาะโอฮาอู

เมืองฮอนโนลูลู (Honolulu)

วันที่ 19 : ฮอนโนลูลู (Honolulu)

• รับประทานอาหารเช้าภายในที่พัก
• ชม จุดชมวิวไดมอนเฮด (Diamond Head) ภูเขาไฟที่ดับแล้วกลางเมือง เดินทางไปยอดเขาของไดมอนเฮดเพื่อชมบรรยากาศเมืองฮอนโนลูลูจากมุมสูง (Summit of Diamond Head Crater) ที่นี่คือมุมถ่ายภาพอันเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะฮาวาย **ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง ไปกลับ**
• รับประทานอาหารเที่ยง
• กิจกรรมช่วงบ่าย
  • ชม พระราชวังอิโอลานิ (Iolani Palace) สถานที่ประทับแห่งสุดท้ายของ ราชินีลีลีโอกาลานี (Queen Liliʻuokalani) ซึ่งถูกกักบริเวณ ณ พระราชวังแห่งนี้ ภายหลังที่ถูกยึดอำนาจของฝรั่งผิวขาว เมื่อ พ.ศ. 2436 และทิ้งเป็นสถานที่ทรงประพันธ์ บทเพลง “อโลฮาโออิ” (Aloha ʻOe) อันลือชื่อระหว่างการถูกกักบริเวณด้วย
  • ชม รูปปั้นประดับทองของกษัตริย์คาเมฮาเมฮา (Kamehameha Statue) กษัตริย์ผู้ค้นพบและก่อตั้งราชอาณาจักรฮาวาย ซึ่งประดิษฐานอยู่หน้าตึก All iolani Hale ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นที่ตั้งของศาลสูงของรัฐ เป็น ที่ตั้งของรัฐบาลแห่งมลรัฐสาธารณรัฐฮาวาย
  • ชม วอชิงตันเพลส (Washington Place) สถานที่แห่งเป็นที่พักแห่งสุดท้ายก่อนที่ ราชินีลีลีโอกาลานี (Queen Liliʻuokalani) แห่งฮาวายถูกพบและจับกุมในช่วงการโค่นล้มอาณาจักรฮาวาย (Overthrow of the Hawaiian Kingdom) หลังจากนั้นก็กลายเป็นที่อาศัยของผู้ว่าการรัฐฮาวายเรื่อยมา จนปี ค.ศ. 2007 ได้ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่สําคัญทางประวัติศาสตร์ National History Landmark
  • พักผ่อนเปลี่ยนอริยบทหลังจากการเดินไกล ให้ท่านได้เดินสํารวจและชมความงามของ หาดไวกิกิ (Waikiki) อันเลื่องชื่อ ที่ซึ่งนักเดินทางทุกท่านฝันที่จะมาเยือนสักครั้งในชีวิต
• รับประทานอาหารเย็น
• ที่พัก : โรงแรม Hilton Hawaiian Village Waikiki Beach Resort หรือเทียบเท่า

จุดชมวิวไดมอนเฮด (Diamond Head)

วันที่ 20 : ฮอนโนลูลู (Honolulu)

• รับประทานอาหารเช้าภายในที่พัก
• ออกเดินทางสู่ทางทิศเหนือของเกาะไปยัง คูอาโลอาแรนส์ (Kualoa Ranch) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
• 10.00 น. เดินทางถึง คูอาโลอาแรนส์ (Kualoa Ranch) นําท่านเดินทางสู่โลกแห่งจินตนาการจากภาพยนตร์ดังฮอลีวูด “Jurassic Park” ดินแดนแห่งขุนเขามหึมา ซึ่งเป็นผลจากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติบนเกาะแห่งนี้ ทัศนียภาพที่สวยงามและพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันในหลายมุมท่าให้ที่นี่ได้รับความสนใจจากผู้สร้างภาพยนตร์มากมายและยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ระดับ Blockbuster มากมาย
• กิจกรรม นำท่านขึ้นรถจี๊ป 4WD ขับเข้าสู่ฉากป่าจริงที่ใช้เป็นถ่ายทําภาพยนตร์ในเรื่องต่างๆ ท่านจะได้พบกับความสม บูรณ์และธรรมชาติอันสวยงามของพื้นป่าแห่งนี้และไม่แปลกใจเลยว่าท่าไมถึงมีผู้สร้างมากมายมาใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ Jurassic Park, Pearl Harbor, Kong Skull Island และ Godzilla
• รับประทานอาหารกลางวันใน คูอาโลอาแรนส์ (Kualoa Ranch)
• หลังจากเสร็จจากกิจกรรม นำทางกลับสู่เขตเมืองฮอนโนลูลู
• ชม โบวโฮล (Blow Hole) ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกที่เป็นโตรกผารับคลื่นน้ำที่รุนแรงซัดสาดสู่โขดหินใหญ่ที่มีโพรงอากาศจนท่าให้เกิดน้ำพุ่งขึ้นสู่อากาศเป็นละอองด้วยความน่าอัศจรรย์ใจ
• ชม อ่าวฮานาอูม่า (Hanauma Bay) จากจุดชมวิวมุมสูง ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ เป็นทั้งเขตอนุรักษ์ธรรมชาติและเขตอนุรักษ์ชีวิตสัตว์ทะเล เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีสัตว์ทะเลอาศัยอยู่มากกว่า 400 สายพันธุ์ โดยสัตว์เลื่องชื่อคือ เต่าทะเลสีเขียว (Green Sea Turtles) และปลานกแก้ว เป็นทั้งแหล่งอนุบาลทางธรรมชาติและที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลเหล่านี้
• รับประทานอาหารเย็น
• ที่พัก : โรงแรม Hilton Hawaiian Village Waikiki Beach Resort หรือเทียบเท่า

คูอาโลอาแรนส์ (Kualoa Ranch)

วันที่ 21 : ฮอนโนลูลู (Honolulu) ทำกิจกรรมเสริม

• รับประทานอาหารเช้าภายในที่พัก
• กิจกรรมสำหรับผู้ที่สนใจ (มีค่าใช้เพิ่มเติม)
  • เล่น Windsurf
  • เดินเทรลในเส้นทาง Koko Crater
  • ดำน้ำลึก (Scuba Diving) โดยมีจุดดำน้ำที่น่าสนใจเช่น Corsair Wreck Dive Site
  • สำหรับท่านที่อยากพักผ่อน สามารถพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย
• กิจกรรมช่วงบ่าย
  • Ala Moana Center อาลาโมน่าเซ็นเตอร์ ช้อปปิ้งมอลล์ที่ใหญ่ที่สุดในฮาวาย ที่มีร้านแบรนด์เนมมากมาย เช่น AIX Armani Exchange, Burberry, Bulgari, Coach, DKNY, Guess, Victoria’s Secret และอื่นๆ มากมาย
  • Royal Hawaiian Center อีกหนึ่งห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายเฉพาสินค้าหรูหราเท่านั้น
  • China Town ชุมชนคนจีน
• ที่พัก : โรงแรม Hilton Hawaiian Village Waikiki Beach Resort หรือเทียบเท่า

หาดไวกิกิ (Waikiki beach) เมืองฮอนโนลูลู (Honolulu)

วันที่ 22 : ฮอนโนลูลู (Honolulu) – นาริตะ (Narita)

• 08.00 น. เดินทางสู่ สนามบิน Daniel K. Inouye International Airport (HNL) ประจำเมืองฮอนโนลูลู เช็คอินเข้าสู่เครื่องบินและผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
• 11.35 น. เดินทางสู่ สนามบินนาริตะ (Narita International Airport) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ด้วยสายการบิน All Nippon Airways ไฟลต์บิน NH183 รับประทานอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบินตามมาตรการ Social Distancing (ระยะเวลาบิน 8 ชั่วโมง 15 นาที)

วันที่ 23 : นาริตะ (Narita) – กรุงเทพ

• 14.50 น. เดินทางถึง กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รอต่อเครื่องเดินทาง **เราข้ามเส้น Time Zone ทำให้เวลาเร็วกว่า 1 วัน** พักเปลี่ยนเครื่องเป็นระยะเวลา 3 ชั่วโมง 45 นาที
• 18.35 น. เดินทางสู่กรุงเทพ ด้วยสายการบิน All Nippon Airways ไฟลต์บิน NH805 รับประทานอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบินตามมาตรการ Social Distancing (ระยะเวลาบิน 6 ชั่วโมง 45 นาที)
• 23.20 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง