ทัวร์อลาสก้า ล่องเรือ Northbound Glacier Voyage

ทัวร์อลาสก้า ล่องเรือ Northbound Glacier Voyage

ล่องเรือ Princess Alaska Cruise เส้นทาง Northbound จากแคนาดาสู่อลาสก้า

21 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 1 : กรุงเทพ – ไทเป (Taipei) – แวนคูเวอร์ (Vancouver)

• 14.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการ China Airline เจ้าหน้าที่จากบริษัท ฯ จะคอยต้อนรับและอํานวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง
• 17.30 น. เดินทางสู่ ไทเป (Taipei) ด้วยไฟลต์บิน CI 836 สายการบิน China Airline ให้ท่านได้เพลิดเพลิน กับอาหารสิ่งอํานวยความสะดวกบนเครื่องบิน (ระยะเวลาบิน 3 ชั่วโมง 40 นาที)
• 20.10 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาตินิเถาหยวน (Taiwan Taoyuan International Airport)
• พักเปลี่ยนเครื่อง 1 ชั่วโมง 15 นาที
• 23.25 น. เดินทางสู่ แวนคูเวอร์ (Vancouver) ด้วยไฟลต์บิน CI 32 สายการบิน China Airline ให้ท่านได้เพลิดเพลิน กับอาหารสิ่งอํานวยความสะดวกบนเครื่องบิน (ระยะเวลาบิน 11 ชั่วโมง 20 นาที)

21 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 2 : แวนคูเวอร์ (Vancouver)

• **เราข้ามเส้น Time Zone ทำให้เรายังอยู่ในวันเดิม**
• 19.45 น. เดินทางถึง แวนคูเวอร์ (Vancouver) ประเทศแคนาดา ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง พาท่านดำเนินการผ่านมาตรการขั้นตอนต่างๆ ของสนามบิน
• นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พักซึ่งตั้งอยู่ภายในสนามบิน
• ***วันนี้ไม่มีการใช้พาหนะเดินทาง***
• รับประทานอาหารเย็น ภัตตาคาร Globe @ YVR restaurant ในโรงแรม (3-course Western)
• ที่พักโรงแรม Fairmont Vancouver Airport In-Terminal Hotel (5*)

แวนคูเวอร์ (Vancouver)

22 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 3 : แวนคูเวอร์ (Vancouver)

• รับประทานอาหารเช้า
• 09.00 – 11.30 น. นำท่านเดินทางท่องเที่ยวในเมืองแวนคูเวอร์ ไปยัง Stanley Park เพื่อชม สะพานแขวนคาพิลาโน Capilano Suspension Bridge Park เป็นสะพานแขวนไม้อันเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1889 เพื่อทอดข้ามผ่านแม่น้ำคาพิลาโน ด้วยความยาวถึง 137 เมตร และสูงถึง 70 เมตรจากพื้นดินทำให้สะพานแขวนคาพิลาโนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสะพานที่น่าหวาดเสียวที่สุดในโลก
• หลังจากนั้นแวะชมตัวเมือง แก๊สทาวน์ (Gas Town) จุดกำเนิดของชุมชนเมืองประมาณกว่าร้อยปี ชมนาฬิกาไอน้ำที่ ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี นครแวนคูเวอร์ เมืองที่เงียบสงบและน่าอยู่ติดอันดับโลก เนื่องด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแปซิฟิก จึงทำให้มีอากาศที่อบอุ่นและไม่หนาวเย็นจนเกินไปในฤดูหนาว
• 12.00 น. เดินทางถึงท่าเรือ และ เช็คอินเรือ
• รับประทานอาหารเที่ยงบนเรือ
• 16.30 น. เรือเริ่มออกเดินทางสู่อลาสก้า
• รับประทานอาหารเย็นบนเรือ
• เรือสำราญ Princess Cruise ห้องพักชนิด Balcony มีระเบียง ขนาดห้องพักประมาณ 180 ตร.ฟุต (ไม่รวมระเบียงประมาณ 40 ตร.ฟุต)

สะพานแขวนคาปิลาโน (Capilano Suspension Bridge)

23 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 4 : Cruise Inside Passage

• สำรวจทิวทัศน์อันสลับซับซ้อนของทิวทัศน์ฤดูหนาวที่น่าตื่นตะลึงที่สุดของอลาสก้า เต็มไปด้วยหิมะและยักษ์ใหญ่น้ำแข็งที่ลื่นไถล
• การล่องเรือชมความงามของอลาสก้าที่ทอดยาวเป็นระยะทาง 500 ไมล์ คือการล่องเรือผ่านงานศิลปะธรรมชาติที่มีชีวิตซึ่งมีภูเขาที่แกะสลักอย่างสวยงามซึ่งพุ่งสูงขึ้นจากแนวชายฝั่ง และหมู่เกาะที่กระจัดกระจายไปทั่วผืนน้ำที่มืดมิดด้วยความใส่ใจในรายละเอียดที่ละเอียดอ่อน (อาหารทั้ง 3 มื้อรับประทานบนเรือ)
• ผ่านทางเดินน้ำแข็งอันน่าทึ่ง แมวน้ำท่าเรือที่จับน้ำแข็งก้อนที่ลอยอยู่ หรือก้อนเมฆที่เกาะอยู่ไกลออกไป ร่วมเป็นสักขีพยานในธรรมชาติอันน่าทึ่งและซับซ้อนที่สุดตามแนวชายฝั่งของอะแลสกาแห่งนี้ ที่ซึ่งธารน้ำแข็งส่งเสียงคร่ำครวญและดังเอี๊ยดอย่างไพเราะ ก่อนที่จะปล่อยชั้นน้ำแข็งขนาดมหึมาออกมาตกลงไปในน่านน้ำเบื้องล่างอย่างอิสระ และระเบิดด้วยความโกรธเกรี้ยวและเสียงกระเซ็นของน้ำทะเล
• ห้องพักชนิด Balcony

Inside passage

24 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 5 : เค็ทชิแคน (Ketchikan)

• 06.30 น. เรือเข้าเทียบท่า เค็ทชิแคน (Ketchikan) เมืองนี้ตั้งอยู่เชิงเขาริมฝั่งแม่น้ำ เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีเสน่ห์โดยเฉพาะ อย่างยิ่งหมู่บ้านดั้งเดิมของชนพื้นเมืองที่สร้างสรรค์งานศิลปะเสาโทเท็มของอินเดียนแดงเผ่าทลิงกิต
• นำท่านสู่ เค็ทชิแคน”(Ketchikan) ชุมชนแห่งแรกของรัฐอลาสก้า ปัจจุบันจัดเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของรัฐ และเป็นเมืองที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยวท้องถิ่นและต่างชาติว่าเป็น เมืองแห่งเสาแกะสลัก (Totem Poles) ที่มากที่สุดในโลก ในอดีตเสาแกะสลักนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันทางตอนเหนือ และถือเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาที่พวกเขาให้ความเคารพ แต่ต่อมาในยุคที่มีการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ เกิดความเข้าใจผิดทำให้คนส่วนใหญ่เผาเสาเหล่านี้เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันเสาแกะสลักนี้เปรียบเสมือนบิลบอร์ดหรือสัญลักษณ์ที่ใช้เล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาต่างๆ ในอดีต
• เค็ทชิแคน (Ketchikan) เคยได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งแซลมอน ในอดีตเมืองนี้ถูกจัดให้เป็นเมืองแห่งสวรรค์ของนักตกปลาและกลุ่มคนที่ชื่นชอบธรรมชาติทำให้ในช่วงฤดูร้อนเมืองนี้จะหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จนส่งผลให้ปริมาณปลาแซลมอน ลดลงเป็นจำนวนมาก อีกทั้งพื้นที่ของป่าไม้ก็ลดลงเนื่องจากประชากรท้องถิ่นทำการตัดไม้เพื่อมา สร้างบ้านพักรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นทุกๆปี ปัจจุบันทั้งหน่วยงานภาครัฐและประชากรท้องถิ่นต่างพยายามที่จะอนุรักษ์ให้เมืองนี้คงไว้ซึ่งบรรยากาศของเมืองเก่าเฉกเช่นในอดีตเพื่อให้คนรุ่นหลังที่มาเที่ยวเมืองนี้สามารถรับรู้ถึงบรรยากาศในประวัติศาสตร์ได้ไม่มากก็น้อย
• อิสระให้ขึ้นฝั่ง ชมเมืองเคทชิแกน และซื้อของพื้นเมืองตามอัธยาศัย พร้อมเก็บภาพความน่ารักและความสวยงาม ของเมืองเคทชิแกน เค็ทชิแคน (Ketchikan) เป็นเมืองขนาดเล็ก อยู่ในระยะเดินได้ทั้งหมด นำท่านเที่ยวชม ย่านไฟแดงที่โด่งดังในอดีต ครีก สตรีท (Creek Street) เป็นที่ชุมนุมของนักแสวงโชค และนักเดินเรือในยุคตื่นทอง เป็นย่านอาคารเก่าที่ทางเดินและบ้านเรือนสร้างอยู่เหนือลำธารหรือเชิงเขา มีสถานที่ประวัติศาสตร์ “บ้านของดอลลี่” สถานที่หาความสำราญของชายหนุ่มในอดีต สถานที่ท่านสนใจเช่น
  • Tongass Historical Museum
  • Dolly’s House Museum
• เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ภายในเมือง (เนื่องจากทุกร้านในเมืองไม่เปิดให้จองที่ล่วงหน้า ไกด์จะเป็นผู้พาท่านไปรับประทาน)
• ช่วงบ่าย ให้ท่านได้มีโอกาสชมเมืองเล็กๆน่ารักแห่งนี้
• หมายเหตุ สำหรับท่านที่กลับขึ้นไปเดินเล่นบนฝั่งท่านจะต้องกลับมาขึ้นเรืออย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนเรือออกจากท่า
• 15.00 น. เรือออกเดินทางสู่จุดหมายถัดไป
• ค่ำ บริการอาหารมื้อเย็น
• ห้องพักชนิด Balcony

Ketchikan

25 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 6 : เมืองจูโน (Juneau)

• เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ภัตตาคารบนเรือสำราญ
• 08.00 น. เรือเข้าเทียบท่าที่ “เมืองจูโน” (Juneau) เมืองหลวงของมลรัฐอลาสก้า ที่เต็มไปด้วยทิวทัศน์อันงดงาม ด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน จูโน เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาและทะเล ทำให้เป็นเมืองที่เข้าถึงได้ยากในทางบกถูกค้นพบในช่วงยุคตื่นทองปี ค.ศ.1880 ในอดีตเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งการค้าทองอันมั่งคั่งก่อนจะกลายเป็นเมืองหลวงของมลรัฐอลาสก้าในเวลาต่อมา นอกจากนี้ “จูโน” ยังเป็นเมืองที่มี “ธารน้ำแข็ง” มากที่สุดแห่งหนึ่งของอลาสก้า ที่สำคัญได้แก่ “ธารน้ำแข็งเมนเดนฮอลล์” Mendenhall Glacier ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ขึ้นชื่อว่า “สวยที่สุด” แห่งหนึ่งเท่าที่ค้นพบกันมา
• 10.45 – 13.45 Mendenhall Glacier (3 Hours) นำท่านสมาชิกชมธรรมชาติของธารน้ำแข็งเมนเดลฮอลล์ ที่งามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เดินทางโดยรถยนต์ไปยังจุดชมวิว (ท่านละ 49 USD)
• เที่ยง (Late Lunch) บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ King Crab (ไม่สามารถจองที่ล่วงหน้าได้)
• อิสระ ให้ท่านเดินเล่นภายใน ตัวเมืองจูโน (Historic Downtown Juneau) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเมืองท่าและเมืองหลวงที่สำคัญของมลรัฐอลาสก้า เป็นเมืองหลวงที่ต้องเดินทางเข้าด้วยเรือตัวเมืองตั้งอยู่บริเวณตีนเขาที่ตั้งตระหง่านสูงถึง 4,000 ฟุต ถ้าไปเยือนในช่วงต้นๆของฤดูกาลล่องเรือสำราญ ท่านจะได้เห็นยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะและน้ำตกอันสวยงาม เมืองจูโน่ ถูกก่อตั้งขึ้นในยุคตื่นทองอลาสก้า ดังนั้นที่นี่จึงมีตึกรามบ้านช่องประวัติศาสตร์มากมาย และเปี่ยมไปด้วยสีสันสดใส สถานที่น่าสนใจภายในตัวเมืองมีดังนี้
  • Alaska State Museum พิพิธภัณฑ์รัฐอะแลสกา สัมผัสประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของภูมิภาคต่างๆ ที่หลากหลายของอะแลสกาผ่านนิทรรศการถาวรที่กว้างขวางซึ่งเสริมด้วยการจัดแสดงที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
  • Sealaska Heritage Institute Arts Campus สถานที่ที่ชาวพื้นเมืองบอกเล่าเรื่องราวของชาวพื้นเมือง ชมบ้านจำลองที่สร้างให้เราเห็นภาพของบ้านคนท้องถิ่นในอดีต ฟังเรื่องราวโบราณ และสำรวจนิทรรศการที่แบ่งปันความรู้เกี่ยวกับอลาสก้าตะวันออกเฉียงใต้ผ่านมุมมองของชนพื้นเมือง
• หมายเหตุ สำหรับท่านที่กลับขึ้นไปเดินเล่นบนฝั่งท่านจะต้องกลับมาขึ้นเรืออย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนออกจากท่า
• ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ
• 21.30 น. เรือออกเดินทางสู่จุดหมายถัดไป
• ห้องพักชนิด Balcony

Juneau

26 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 7 : เมือง Skagway

• 06.00 น. เรือเดินทางมาถึงเมือง Skagway
• สัมผัสความตื่นเต้นเร้าใจแบบเดียวกับที่ผู้ไล่ล่าตื่นทองทำ เมื่อพวกเขามาถึง Skagway ครั้งแรก โดยตั้งใจที่จะค้นหาโชคลาภของพวกเขา แม้ว่าทองคำจะหายไป แต่ขุมทรัพย์แห่งความรุ่งโรจน์ตามธรรมชาติรอการค้นพบที่นี่ อะดรีนาลีนแห่งการตื่นทองในตำนานของอเมริกายังคงเต้นเป็นจังหวะไปตามถนนของ Skagway โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ Klondike Gold Rush
• Skagway ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของ Inside Passage ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามและน่าทึ่งอย่างน่าทึ่ง สำรวจแม่น้ำสายใหญ่ที่เต็มไปด้วยปลาแซลมอนหนากระโดดข้ามแก่งและชมหมีสีน้ำตาลที่โผล่ออกมาจากที่กำบังของต้นไม้ ป่าที่ไม่มีที่สิ้นสุดแผ่ไปไกลสุดลูกหูลูกตา ขณะที่นกอินทรีหัวล้านเกาะอยู่บนยอดไม้ สำรวจสภาพแวดล้อมจากด้านบน ปลาวาฬว่ายอยู่นอกชายฝั่ง และธารน้ำแข็งก็ดังเอี๊ยดๆ ในอาณาจักรธรรมชาติมหัศจรรย์แห่งนี้
• 9:00 AM – 11:45 AM ทำกิจกรรม White Pass summit scenic railroad (Wheelchair accessible) เดินทางโดย รถไฟสายไวท์พาสและยูคอนรูต (White Pass and Yukon Railway) ซึ่งเป็นรถไฟสายประวัติศาสตร์ในยุคตื่นทองชื่นชมกับทัศนียภาพตามหุบเขาและธรรมชาติที่งดงามสู่ยอดเขาไวท์พาสซัมมิท นับเป็นประสบการณ์ที่คุณจะมิลืมเลือน (ท่านละ 149 USD)
• เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวันบนเรือ
• ชมย่านใจกลางเมืองอันเก่าแก่ ซึ่งผุดขึ้นในช่วงที่สูงตระหง่านของยุคตื่นทองในปี 1890 แนวสันเขาที่ขรุขระซึ่งมียอดหิมะสีขาวอยู่เหนือแนวต้นไม้ที่มีป่าสนสูงตระหง่าน เรื่องราวเบื้องหลัง และเรื่องราวชีวิตในเมืองเล็กๆ ในอลาสก้า สัมผัสบรรยากาศริมน้ำและเขตประวัติศาสตร์อุทยานแห่งชาติ เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามจากจุดชมวิว ขับรถผ่านย่านที่อยู่อาศัยของสแคกเวย์ ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องสวนดอกไม้ และผ่านบ้านในวัยเด็กของอดีตผู้ว่าการรัฐอลาสกา ซาราห์ พาลิน
• ห้องพักชนิด Balcony
• หมายเหตุ สำหรับท่านที่กลับขึ้นไปเดินเล่นบนฝั่งท่านจะต้องกลับมาขึ้นเรืออย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนออกจากท่า
• 20.30 น. ออกเดินทางสู่จุดหมายถัดไป

Skagway

27 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 8 : Glacier Bay National Park

• * * * วันนี้เรือจะเข้าสู่ Glacier Bay National ตั้งแต่เวลา 08.30 น.* * *
• 06.15 น.เรือเดินทางถึงบริเวณ ธารน้ำแข็ง “กลาเซียร์ เบย์” Glacier Bay ชมบริเวณอุทยานแห่งชาติกลาเซียร์ เบย์ท่านจะได้เห็น “ธารน้ำแข็งยักษ์” ที่จะทำให้ทุกท่านรู้สึกว่าเรือสำราญขนาด หญ่ เล็กลงไปทันทีธารน้ำแข็งที่งดงามยิ่งใหญ่ตระการตา จะนำท่านเข้าใกล้ธารน้ำแข็งที่ไหลมารวมกันบริเวณไหล่เขาที่จับตัวกันเป็นธารน้ำแข็งสีฟ้าครามด้วยแรงดึงดูดของโลกจึงทำให้น้ำแข็งแตกตัวเสียงดังกึกก้องถล่มลงมาเบื้อง หน้าของทุกท่าน แลดูงดงามยิ่งนัก ซึ่งท่านสามารถบันทึกภาพความประทับใจนี้ไว้ด้วยตัวของท่านเอง
• วันนี้จะไม่มีมีการจอดเรือ
• เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวันบนเรือ
• บ่าย อิสระกับการพักผ่อนบนเรือ
• 15.15 น. เรือออกเดินทางสู่จุดหมายถัดไป
• ห้องพักชนิด Balcony

Hubbard glacier

28 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 9 : Collage Fjord

• บริการอาหารมื้อเช้า ณ ภัตตาคารบนเรือ
• พักผ่อนตามอัธยาศัยบนเรือ
• บริการอาหารมื้อกลางวัน
• 18.00 น. เดินทางถึง College Fjord ซึ่งตั้งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ Prince William Sound ระหว่างการสำรวจวิจัยในปี 1899 College Fjord ได้รับการตั้งชื่อตามโรงเรียนชายฝั่งตะวันออกอันทรงเกียรติโดยอาจารย์ของวิทยาลัยที่ได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพวกเขาเป็นครั้งแรก ธารน้ำแข็งขนาดมหึมาเหล่านี้ทอดยาวหลายไมล์ไหลลงมาจากภูเขาและผ่านหุบเขาไหลลงสู่ผืนน้ำบริสุทธิ์ของฟยอร์ด คุณจะมีโอกาสได้ชมกระบวนการที่น่าตื่นตาตื่นใจของการหลุดของธารน้ำแข็งลงในทะเลขณะที่พวกมันแตกและตกลงมาพร้อมเสียงกระเซ็นดังสนั่น ซึ่งเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ ในช่วงฤดูร้อน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้เห็นวาฬหลังค่อมหนัก 40 ตันในพื้นที่หากินในน่านน้ำของฟยอร์ด
• บริการอาหารมื้อเย็น
• 20.30 น. ออกเดินทางสู่จุดต่อไป
• ห้องพักชนิด Balcony

29 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 10 : Whittier – แองเคอเรค (Anchorage) – ซีแอตเทิล (Seattle)

• ***กิจกรรมการเดินทางของวันนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการรอคอนเฟิร์มจากฝั่งอลาสก้า อาจจะมีการปรับแผนการเดินทางรวมถึงพาหนะอีกครั้ง***
• 00.30 น. เรือเข้าจอดเทียบท่า ณ ชายฝั่งอลาสก้า เมือง Whittier ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัยจนถึงเช้า
• รับประทานอาหารเช้า
• 08.30 น. เดินทางทางต่อสู่ ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าแห่งอลาสก้า (Alaska Wildlife Conservation Center) ระยะทาง 25 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
• ระหว่างทางแวะจุดชมวิวถ่ายรูปบรรยากาศทิวทัศน์โดยรอบ
• 10.00 น. เข้าชม ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าแห่งอลาสก้า (Alaska Wildlife Conservation Center) ศูนย์อนุรักษ์และช่วยเหลือสัตว์ป่ากลางแจ้งที่ดูแลสัตว์นานาชนิด ท่านจะได้สัมผัสกับสัตว์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ อลาสก้าอย่างใกล้ชิดในสภาพแวดล้อมแบบธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นหมี บิซอน กวางมูส เอลค์ สุนัขจิ้งจอก ***ระยะการเดินครบรอบศูนย์หนึ่งรอบ ระยะทางประมาณ 1.5 ไมล์ จะได้ชมครบทุกสถานที่*** ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
• 11.00 – 11.15 น. ขึ้นรถออกเดินทางสู่ แองเคอเรจ (Anchorage) ระยะทาง 60 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 60 นาที
• 12.15 น. เดินทางถึง สนามบิน Ted Stevens Anchorage International Airport เช็คอินเคาท์เตอร์สายการบิน Alaskan Airline จากนั้นเข้าพักรอภายในสนามบิน
• 14.00 น. ออกเดินทางสู่ ซีแอทเทิล (Seattle) ประเทศสหรัฐอเมริกา สายการบิน Delta Airline DL 854 ระยะเวลาบิน 3 ชั่วโมง 30 นาที (น้ำหนักสัมภาระไม่เกิน 23 กิโลกรัม จำนวน 1 ใบ)
• ***อาหารเย็น รับประทานบนเครื่องบิน เป็นอาหารร้อนกึ่ง Fast food เช่น Meat wrap***
• 20.35 น. เดินทางถึง สนามบิน Seattle-Tacoma Airport
• ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง (พาหนะ Mini coach ขนาด 38 ที่นั่ง)
• ที่พัก โรงแรม Mayflower Park Hotel (4*)

30 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 11 : ซีแอตเทิล (Seattle)

• รับประทานอาหารเช้า ณ ที่พัก
• เมืองซีแอตเทิล (Seattle) เมืองท่าชายฝั่งในรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแปซิกฟิคตะวันตกเฉียงเหนือ เมืองนี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดอันดับที่ 4 ของอเมริกา เป็นเมืองที่ยอมรับในความแตกต่างอย่างหลากหลาย มีอากาศที่ดีตลอดทั้งปี และเป็นเมืองที่คนนิยมมาเรียนต่อมากที่สุดแห่งหนึ่งในอเมริกา เป็นเมืองแห่งการสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ จึงเป็นที่ตั้งของสำนักงานหลักของแบรนด์ดังๆ ระดับโลกหลายแบรนด์ เช่น Microsoft, Getty Images, Amazon, Nintendo, Starbucks ซึ่งถือเป็นเมืองต้นกำเนิดของกาแฟเงือกน้อย
• พาหนะเดินทางเป็น Mini coach ขนาด 38 ที่นั่ง
• 09.00 น. นำทานเที่ยวชม สเปซ นีดเดิล (Space Needle) สัญลักษณ์ของเมืองซีแอตเทิล หอคอยสูงกว่า 184 เมตรที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นมาตั้งแต่ปี 1972 มีรูปทรงคล้ายกับจานบินของโลกอนาคตที่ตั้งอยู่บนขารูปทรงแปลกตา เป็นสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของซีแอตเทิล ขึ้นลิฟท์สู่ด้านบนเพื่อชมวิวเมืองซีแอตเทิลแบบ 360 องศา ในวันที่อากาศแจ่มใส่ท่านจะได้เห็นวิวเมืองแบบสวยงามสุดลูกหูลูกตา ที่ฉากหลังเป็นเทือกเขา Mount Rainer
• รับประทานอาหารเที่ยง ร้าน Tai Tung Restaurant (Chinese)
• สถานที่ท่องเที่ยว ช่วงบ่าย แนะนำเป็น Pike Place Market ตลาด 100 ปี
  • ตลาด Pike Place เริ่มต้นมาจากการเป็น Farmer market หรือตลาดที่ผู้ผลิตนำของมาขายสู่ผู้บริโภคโดยตรงโดยไม่ผ่านคนกลาง ดังนั้นสินค้าหลักๆของที่นี่ก็คือสินค้าอุปโภคบริโภคจากท้องถิ่นเช่น ปลา อาหารทะเล ผักผลไม้และดอกไม้
  • Starbucks Reserve Roastery เป็น Starbucks ร้านแรกของโลก ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ Pike market
• รับประทานอาหารเย็น ร้าน The Capital Grille (Steak)
• ที่พัก โรงแรม Mayflower Park Hotel

Lake Washington

31 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 12 : ซีแอทเทิล (Seattle) – แวนคูเวอร์ (Vancouver)

• รับประทานอาหารเช้า ณ ที่พัก
• (พาหนะ Mini coach ขนาด 38 ที่นั่ง)
• 09.00 น. นำทานเดินทางสู่ Seattle Premium Outlet ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
• 10.00 – 13.30 น. ให้ท่านได้ใช้เวลาใน Outlet
• รับประทานอาหารเที่ยงภายใน Outlet
• 13.30 น. เดินทางกลับ ซีแอทเทิล (Seattle)
• 15.30 น. เดินทางถึงสนามบินเมือง Seattle
• 18.25 น. เดินทางสู่ แวนคูเวอร์ (Vancouver) ด้วยสายการบิน Air Canada AC8809 ระยะเวลาบิน 1 ชั่วโมง
• 19.24 น. เดินทางถึง สนามบินเมืองแวนคูเวอร์
• ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รับประทานอาหารเย็นภายในร้านในสนามบินและเช็คอินสู่ไฟลต์ถัดไป

ซีแอตเทิล (Seattle)

1 สิงหาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 13 : แวนคูเวอร์  (Vancouver) – ไทเป (Taipei)

• 02.20 น. เดินทางสู่ ไทเป (Taipei) ด้วยไฟลต์บิน CI 31 สายการบิน China Airline ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับอาหาร สิ่งอํานวยความสะดวกบนเครื่องบิน (ระยะเวลาบิน 12 ชั่วโมง)

2 สิงหาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 14 : ไทเป (Taipei) – กรุงเทพ

• **เราข้ามเส้น Time Zone ทำให้เวลาเร็วกว่า 1 วัน**
• 05.20 น.  เดินทางถึง ไทเป (Taipei)
• รอต่อเครื่องเดินทาง พักเปลี่ยนเครื่อง 1 ชั่วโมง 50 นาที
• 07.10 น. เดินทางสู่กรุงเทพ ด้วยไฟลต์บิน CI 833 สายการบิน China Airline ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับอาหาร สิ่งอํานวยความสะดวกบนเครื่องบิน (ระยะเวลาบิน 3 ชั่วโมง 35 นาที)
• 09.45 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ