ทัวร์อินโดนีเซีย เที่ยว 3 เกาะหลัก จุดหมายสำคัญ

บาหลี (Bali) ฟลอเรส (Flores) เกาะโคโมโด (Komodo) ภูเขาไฟโบรโม (Bromo) บุโรพุทโธ

เดินทางวันที่ 1-9 เมษายน พ.ศ.2567

ราคา 95,000.-

วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2567 : กรุงเทพฯ – เดนปาซาร์ (บาหลี)

07.00 น. คณะผู้เดินทางพร้อมกัน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อทำการเช็คอินที่เค้าน์เตอร์สายการบินไทย หลังจากเช็คอินรับบัตรโดยสาร นำสัมภาระขึ้นเครื่องและ ผ่าน ตม. ขาออก แล้ว รอขึ้นเครื่องบิน

• 09.35 น. ออกเดินทางสู่เมือง เดนปาซาร์ (Denpasar) เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 431
• 14.55 น. เดินทางถึง สนามบินงูราห์ลัย (Ngurah Rai) เดนปาซาร์ เมืองหลวงของเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย หลังผ่านพิธีทางศุลกากร และตรวจคนเข้าเมือง พร้อมรับกระเป๋า และสัมภาระเรียบร้อยแล้ว พบการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่นประจำบาหลี นำท่านเดินทาง ไปชมความงดงามของ วิหาร อูลูวาตู
• อูลูวาตู (Uluwatu) เป็นวัดหลักประจำท้องทะเลที่ชาวบาลีทุกคนเคารพบูชา สูงตระหง่าน 70 เมตร (230 ฟุต) ตั้งอยู่บนไหล่เขา ริมหน้าผาทางใต้สุดของเกาะบาหลี วิหารแห่งนี้ แกะสลักจากหิน ในสมัยราชวงศ์ซเล็นดราส ราวคริสต์ศตวรรษ ที่ 10 อิสระชมความงามของพระอาทิตย์ตกเหนือมหาสมุทรอินเดีย
• รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน)
• ที่พัก โรงแรม Fairfield by Mariott Bali Legian **หรือเทียบเท่า**

Uluwatu

วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2567: บาหลี

• เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• นำท่านเดินทางสู่ วัดเบซากี (Pura Besakih) ซึ่งเป็นวัดที่มีความสวยงามที่สุด ใหญ่ที่สุด และศักดิ์สิทธิ์ที่สุด บนเกาะบาหลี มีฉากหลังคือ ภูเขาไฟกุนุงอากุง ภูเขาไฟที่สูงที่สุดในบาหลี คนบาหลียกให้วัดนี้เป็น วัดหลวง (Mother Temple) เป็นวัดที่มีบริเวณกว้างใหญ่มาก ภายในมีวัดเล็กๆ อีก 23 วัด ที่เรียงรายไปตามไหล่เขาอยู่เป็นชั้นๆ กว่า 7 ชั้น ประกอบด้วย วัดใหญ่ คือ ปุระเปนาทารัน อากุง (Pura Penataran Aguan) หรือ วัดเปนาทารัน ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางของวัด โดยชาวบาหลี เชื่อกันว่า ที่นี่เป็นที่ประทับขององค์ไตรภูวนาถ ผู้เป็นใหญ่ในสามโลก คือสวรรค์…มนุษย์…บาดาล ทุกๆวันจะมีคนบาหลีเดินทางมาประกอบพิธีทางศาสนา ท่านสามารถเห็นธรรมเนียมประเพณีและการแต่งกายแบบพื้นเมืองทั้งชายและหญิง รวมทั้งการแบกทูนของบูชาบนศีรษะตามแบบดั้งเดิมด้วย
• นำท่านสู่ ภูเขาไฟกูนุง บาตูร์ ณ หมู่บ้านคินตามณี (Kintamani) หมู่บ้านที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในบาหลี ได้ชื่อมาจากเมืองโบราณแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริม ปากปล่องภูเขาไฟกุนุง บาตูร์ มีทะเลสาบบาตูร์ และภูเขาไฟบาตูร์ เป็นฉาก เป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งของบาหลี ตั้งอยู่บนระดับความสูง 1,717 เมตร
• รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร พร้อมชมความงามที่โอบล้อมด้วยภูเขาไฟและทะเลสาบ (บุฟเฟ่ต์)
• บ่าย นำท่านชม ไร่กาแฟ (Coffee Plantation) ที่เรียงรายอยู่ตลอด สองฝั่งทาง ท่านจะได้รู้จัก กาแฟนานาพันธุ์ ที่ปลูกที่บาหลี โดยเฉพาะ กาแฟขี้ชะมด อันเลื่องชื่อ นอกจากนั้น ก็มีการปลูกวนิลา และโกโก้ อีกด้วย ลองชิมกาแฟบาหลี รสดั้งเดิม และรสอื่นๆ เช่น มอคค่า กาแฟขิง กาแฟผสมโสม กาแฟกลิ่นวนิลา หรือเลือกซื้อกาแฟขี้ชะมด มาลองชิม และซื้อกลับมาเป็นของฝาก ที่ถูกใจคอกาแฟ
• นำท่านไปชม วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เทมภัคสิริงค์ (Tampak Siring) ศาสนสถานที่เก่าแก่ และเป็นที่เคารพ สักการะของชาวบาหลีซึ่งมีอายุมากกว่า พันปี ชม บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เตียต้า เอ็มพูล (Pura Tirta Empul) ซึ่งเป็นน้ำพุจากธรรมชาติที่ผุดขึ้นจากตาน้ำใต้ดินเป็นเวลามานานนับพันพันปีโดยไม่มีวันหมด เชื่อกันว่าพระอินทร์ทรงสร้างขึ้นตอนที่เจาะพื้นพิภพ เพื่อสร้างบ่อน้ำอมฤตไว้ใช้ชุบชีวิตนักรบของพระองค์ ชาวบาหลีเชื่อกันว่าน้ำในสระมีอำนาจในการป้องกันอันตราย ช่วยรักษาโรคภัยต่างๆ ป้องกันสิ่งไม่ดีต่างๆ และปัดเป่าโชคร้ายให้หมดไป จึงได้มีการต่อท่อออกมาลงในบ่อ และชาวบาหลีนิยมมาชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ แล้วขอพร ให้หมดทุกข์ หมดโศรก โรคภัยไม่เบียดเบียน ซึ่งสามารถเห็นชาวบาหลีมาอาบน้ำในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ ตลอดทั้งวัน ในทุกๆวัน
• อิสระให้เวลาท่านได้เลือกชม ต่อราคา และซื้อสินค้าพื้นเมืองมากมาย เช่น ผ้าพันคอ ผ้าโสร่งพื้นเมือง กระเป๋าหนัง ตุ๊กตาไม้แกะสลัก พวงกุญแจฯลฯ ที่ “ตลาดปราบเซียน ”
• รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน)
• ที่พัก โรงแรม Fairfield by Mariott Bali Legian **หรือเทียบเท่า**

Kintamani Volcano and Lake

วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2567 : บาหลี – ลาบวน บาโจ (Labuan Bajo)

• เช้า รับประทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
• 07.30 น. หลังจากเช็คเอาท์แล้ว มัคคุเทศก์ท้องถิ่น มารับคณะยังที่พัก นำท่านเดินทางไปสนามบิน ทำการเช็คอิน ที่เคาน์เตอร์ สายการบิน บาติกแอร์ (Batik Air)
• 11.00 น. ออกเดินทางสู่ เมืองลาบวน บาโจ (Labuan Bajo) เกาะฟลอเรส เมืองหน้าด่านของการไปเกาะมังกรโคโมโด ด้วย สายการบินบาติกแอร์ (Batik Air) เที่ยวบินที่ ID 6331
• 12.10 น. เดินทางถึง เมืองลาบวน บาโจ (Labuan Bajo)
• รับประทาน อาหารกลางวัน ที่ห้องอาหารท้องถิ่น
• ในตอนบ่ายนำทุกท่านนั่งรถชมเมืองและชมวิวที่งดงามของท้องทะเลของหมู่เกาะฟลอเรส
• จากนั้น เดินทางสู่ ถ้ำบาตูเชอมิน (Batu Cermin a prehistoric cave) หรือ ถ้ำหินกระจก มัคคุเทศก์ประจำถ้ำ ชี้แจงการเข้าชมถ้ำ แล้วนำท่านชมความงามของหินงอก หินย้อย ที่ธรรมชาติรังสรรค์เป็นรูปร่างต่างๆ ตามจินตนาการ
• รับประทานอาหารค่ำ ที่ห้องอาหาร
• ที่พัก โรงแรม Meruorah Labuan Bajo **หรือเทียบเท่า**

Meruorah Labuan Bajo

วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2567 : ลาบวน บาโจ (Labuan Bajo) – เกาะโคโมโด (Komodo)

• เช้า รับประทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
• 08.00 น. มัคคุเทศก์ท้องถิ่น มารับคณะยังที่พัก นำท่านเดินทางไปยังท่าเรือ
• ออกเดินทางโดย เรือท้องถิ่น (Private Deluxe Wooden Boat) นำท่านลัดเลาะผ่านเกาะน้อยใหญ่ ไปยัง เกาะโคโมโด (Komodo Island) ระหว่างทางแวะที่ เกาะปาดาร์ (Padar island) นำท่านเดินเท้า ขึ้นสู่ ยอดเขาสูง บนเกาะปาดาร์ เพื่อชมวิวที่สวยงามของเวิ้งทะเล โค้งน้ำ และชายหาด แบบ 360 องศา พอสมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางต่อ ไปยัง เกาะมังกรโคโมโด
• ถึงที่ Loh Liang นำท่านขึ้นยังเกาะมังกรโคโมโด พบเจ้าหน้าที่อุทยาน (Ranger) ที่จะนำท่านเดินป่า ตามหามังกรโคโมโด (เดินรอบสั้น ระยะทางประมาณ 3 ก.ม.) ชมธรรมชาติของเกาะ และพบกับ มังกรโคโมโด ที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้ แบบอิสระ และชมสัตว์ท้องถิ่น ที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้ เช่นหมูป่า กวาง ควายป่า ลิง และนกนานาชนิด
• บริการอาหารกลางวัน บนเรือ
• จากนั้น นั่งเรือไปยัง หาดทรายสีชมพู (Pink beach) อิสระให้ท่านชมบริเวณชายหาดทรายที่ทอดยาวไปตลอดแนว และตรงที่คลื่นซัดหาดทราย ได้พัดเอาปะการังสีแดงที่ตายแล้ว ร่อนเป็นฝุ่นผงสีแดง ผสมกลมกลืนกับทรายขาวละเอียด ก่อให้เกิดเป็นแนวทรายสีชมพู ซึ่งเป็นที่มาของชื่อหาดแห่งนี้ นอกจากนั้น บริเวณหน้าหาด ยังเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำ ดูปะการัง แบบ สนอร์เคิ้ล ที่ดีที่สุดบนเกาะแห่งนี้อีกด้วย อิสระให้ท่านดำน้ำ ชมปะการัง ว่ายน้ำทะเล หรือเดินเล่น ชมวิวหาดทราย และเวิ้งทะเลตามอัธยาศัย
• สมควรแก่เวลา นำท่านกลับขึ้นเรือ นำท่านกลับลาบวน บาโจ ถึงท่าเรือแล้ว นำท่านเดินทางกลับที่พัก ให้ท่านทำธุรส่วนตัว ตามอัธยาศัย
• ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ที่ โรงแรม
• ที่พัก โรงแรม Meruorah Labuan Bajo **หรือเทียบเท่า**

เกาะปาดาร์ (Padar island)

หาดทรายสีชมพู (Pink beach)

วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2567 : ลาบวน บาโจ (Labuan Bajo) – สุราบายา (Surabaya) – โบรโม (Bromo)

• เช้า รับประทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
• หลังจากเช็คเอ้าท์แล้ว มัคคุเทศก์ท้องถิ่น มารับคณะยังที่พัก นำท่านเดินทางไปสนามบิน เพื่อเดินทางไปยังเมืองสุราบายา
• 10.10 น. ออกเดินทาง สู่ เมืองสุราบายา โดย สายการบิน ไลอ้อน แอร์ เที่ยวบินที่ JT 881
• 10.40 น. เดินทาง ถึง เมืองสุราบายา (Surabaya) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอินโดนีเซีย และเป็นเมือง ท่าเรือที่สำคัญของชวาตะวันออก (เวลาที่สุราบายา ช้ากว่า เวลาที่บาหลี 1 ชั่วโมง)รอรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
• รับประทานอาหารกลางวัน ณ สนามบิน
• หลังจากนั้นพบมัคคุเทศก์ท้องถิ่นประจำเมืองสุราบายา รอต้อนรับคณะนำทุกท่านออกเดินทางสู่ภูเขาไฟโบรโม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.5 ชั่วโมง ให้ท่านได้พักผ่อนเก็บพลังระหว่างการเดินทาง
• รับประทานอาหารค่ำ ที่ห้องอาหาร
• ที่พัก โรงแรม Jiwa Java Bromo

Surabaya

วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2567 : โบรโม่ – สุราบายา – ย็อกยาการ์ต้า  

03.00 น.           ตื่นแต่เช้า เพื่อไปชมความงาม ยามแสงแรกของตะวัน จับขอบฟ้า เหนือภูเขาไฟโบรโม่

*** อากาศตอน เช้ามืด จะหนาวมาก   กรุณาเตรียมเสื้อกันหนาว   หมวก และถุงมือ ไปด้วย  

นำท่านเดินทางโดย รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ  (4WD)   ขึ้นสู่จุดชมวิวของ ภูเขาไฟโบรโม่

นำท่านขึ้นสู่ยอดเขา พีนาจากัน (Penanjakan View Point)   เพื่อชมวิว ซึ่งสูงถึง 2,700 เมตร    ยอดเขาพีนาจากันเป็นจุด   ชมวิวที่มีชื่อเสียงมาก   เพราะสามารถเห็นภาพที่งดงาม และน่าตื่นเต้น  เมื่อยาม แสงแรกของพระอาทิตย์ กระทบยอด ปากปล่องภูเขาไฟโบรโม่  ใกล้พอที่จะเห็นลมหายใจของโบรโม่  พร้อมกับมีภูเขาบาต๊อกอยู่เคียงข้าง  และมีภูเขาไฟซิเมรูอยู่ทางด้านหลัง ซึ่งยังคงปล่อยควัน ออกมาเป็นระยะๆ เป็นวิวที่สวยงามขนาดที่กล่าวกันว่า ลืมหายใจ เลยทีเดียว

หลังจากนั้น   เดินทางด้วยรถยนต์ขับเคลื่อน 4WD ลงจากยอดเขาพีนาจากัน    ลงไปในแอ่งทะเลทราย ของภูเขาไฟโบรโม่ อันเป็นจุดจอดรถ    นำท่านเปลี่ยนการเดินทาง เป็นการนั่งม้าสู่บันไดทางขึ้นปากปล่องภูเขาไฟโบรโม่  โดยมีม้า  พร้อมคนจูงม้า  นำท่านมาถึงเชิงเขา ริมทางขึ้นบันไดสู่ปากปล่องภูเขาไฟโบรโม่

จากนั้น ให้ท่านเดินขึ้นบันได อีก 245 ขั้น  เพื่อชมความอลังการของปากปล่องภูเขาไฟโบรโม่ (Bromo Crater)    

ให้เวลาทุกท่านได้ เก็บภาพถ่ายความประทับใจกันอย่างเต็มที่

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ที่พัก เพื่อรับประทานอาหารเช้า และเช็คเอ้าท์จากโรงแรม

รับประทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหาร และ เช็คเอ้าท์

นำท่านเดินทางลงจากโบรโม่    เดินทาง กลับมายังเมืองสุราบายา   ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย                   นำชมเมืองสุราบายา  นำท่านชม พิพิธภัณฑ์เรือดำน้ำ  (Submarine Monument)     ซึ่งเป็นเรือดำน้ำของกองทัพเรืออินโดนีเซีย    มีชื่อว่า KRI Pasopati 410   เรือดำน้ำ  Whiskey Class Submarine   สร้างที่เมืองวลาดิ วอสต๊อก ในรัสเซีย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1952  เข้าประจำการ    เมื่อ 29 มกราคม ค.ศ. 1962      ปัจจุบัน ปลดประจำการ และนำมาแสดงให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าชมภายใน

                         จากนั้น  นำท่านไปถ่ายรูปที่ระลึก กับแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของสุราบายา  ที่ Alun Alun Square  

                         นำท่านเดินทางไปร้านอาหาร

รับประทานอาหารค่ำ ณ. ภัตตาคาร   

นำท่านเดินทางไปยังสถานีรถไฟ

19.20 น.            ออกเดินทางสู่ เมืองย็อกยาการ์ต้า  โดยรถไฟ ขบวน BIMA   (ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 4 ชั่วโมง)

23.07 น.            เดินทางถึงสถานีรถไฟ เมืองย็อกยาการ์ต้า  พบมัคคุเทศก์ท้องถิ่นประจำเมืองย็อกย่า  รอต้อนรับคณะ

ยอดเขาพีนาจากัน (Penanjakan View Point)

วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2567 : สุราบายา (Surabaya) – ย็อกยาการ์ต้า (Yogyakarta) – บุโรพุทโธ (Borobudur)

• รับประทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม หรือรับเป็นอาหารกล่อง กรณีที่ห้องอาหารของโรงแรมยังไม่เปิด
• 06.00 น. หลังจากเช็คเอ้าท์แล้ว มัคคุเทศก์ท้องถิ่น มารับคณะยังที่พัก นำท่านเดินทางไปสนามบิน
• 08.25 น. ออกเดินทางสู่เมืองย็อกยาการ์ต้า ด้วย สายการบิน วิงแอร์ (Wing Air) เที่ยวบินที่ IW 1843
• 09.35 น. เดินทาง ถึง เมืองย็อกยาการ์ต้า (ย็อกย่า) เมืองหลวงเก่า ของอินโดนีเซีย หลังจาก รับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว พบมัคคุเทศก์ท้องถิ่นประจำเมืองย็อกย่ารอต้อนรับคณะ
• นำท่านชม วัดพราห์มบานัน (Prambanan) มรดกโลกล่าสุดของอินโดนีเซีย
• วัดพราห์มบานัน (Prambanan) มรดกโลกล่าสุดของอินโดนีเซีย หมู่วิหารของฮินดูนี้ สร้างเสร็จราวปี 856 เพื่อ ฉลองชัยชนะของระไก ปีกาตัน (ทายาทผู้สืบทอดราชวงศ์สันชัย) ลานตรงกลางของโบราณสถานแห่งนี้มีสิ่งปลูกสร้างแปดหลัง หลังใหญ่ สุดสามหลัง เรียงจากเหนือจรดใต้คือ จันดี ศิวะ มหาเทวา สูง 47 เมตร องค์ใหญ่สุดเพื่อถวายแด่พระศิวะ ขนาบข้างด้วยวิหารขนาดเล็กกว่า คือ จันดี วิษณุ(ทางเหนือ) และ จันดี พรหมมา (ทางใต้) ฝั่งตรงข้ามตะวันออกคือวิหารเล็ก ๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยบรรจุ “พาหนะทรง” ของเทพเจ้าแต่ละองค์ เช่นวัว (นนที) ของพระศิวะ หงส์ (ฮัมสา) ของพระพรหม และครุฑของพระวิษณุ ปัจจุบันเหลือแต่ วัวนนที เท่านั้น ใกล้ประตูทางเหนือและใต้ของพื้นที่ส่วนกลางซึ่งมีกำแพงล้อมรอบ คือวิหารราชสำนักสองหลัง มีลักษณะเหมือนกัน สูงราว 16 เมตร จันดี ศิวะ มหาเทวาองค์ใหญ่สุดเพื่อถวายแด่พระศิวะ มีอีกชื่อหนึ่งคือ รอรอ จองกรัง (หญิงสาวร่างอรชร) หมายถึงหมู่วิหารทั้งหมด
• จากนั้น นำท่านไปร้านอาหาร รับประทานอาหารกลางวัน ที่ห้องอาหาร
• บ่าย นำท่านชม บุโรพุทโธ (Borobudur) วัดพุทธที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ออกแบบและสร้างขึ้นในแบบ ของตัวเอง ไม่เหมือนที่ใด และได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี พ.ศ. 2534 บุโรพุทโธ สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 โดยราชวงศ์ไศเลนทรา (Sailendras) ซึ่งปกครองตอนใต้ของชวากลาง และนับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน ใช้หินจำนวนกว่า 1 ล้านก้อนหรือ ประมาณ 55,000 ลูกบาศก์เมตร ด้วยจำนวนแรงงานมหาศาลเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี แต่ก็ถูกทิ้งให้จมอยู่ใต้เถ้าถ่านของภูเขาไฟเมราปี
• จากนั้นนำชมพุทธสถานอีกแห่งหนึ่งที่ เมนดุต (Mendut) ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปนั่งห้อยพระบาทที่งดงามที่สุด ซึ่งขนาบข้างด้วยรูปสลักพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และ พระโพธิสัตว์วัชรปาณี เชื่อกันว่า ในสมัยโบราณ วัดนี้ เป็นจุดเริ่มต้น สำหรับ พุทธศาสนิกชน ที่จะเดินไปยังแสวงบุญยังบุโรพุทโธ
• สมควรแก่เวลา นำท่านไปร้านอาหาร รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
• ที่พัก โรงแรม Royal Ambarukmo **หรือเทียบเท่า**

บุโรพุทโธ (Borobudur)

บุโรพุทโธ (Borobudur)

วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2567 : ย็อกยาการ์ต้า (Yogyakarta) – จาการ์ต้า (Jakarta)

• เช้า รับประทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
• นำท่านไปชม วังสุลต่าน (Kraton) ที่เคยเป็นที่ประทับขององค์สุลต่านแห่งชวา ปัจจุบัน เป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์ ที่เต็มไปด้วยสิ่งของล้ำค่าในวังและเครื่องใช้ต่างๆก่อนที่กษัตริย์องค์สุดท้ายจะลี้ภัยและเปลี่ยนการปกครอง นำชมบริเวณวัง อาคารที่ใช้ออกว่าราชการ และใช้ในพิธีอื่นๆ รวมทั้งห้องต่างๆ ที่เก็บเครื่องบรรณาการณ์ โบราณวัตถุและสิ่งล้ำค่ามากมาย ที่มีความเป็นมาอันน่าศึกษาของอารยธรรมชวา
• แล้วนำท่านชม ตามัน สารี (Water Castle) อุทยานน้ำ และสวนพักผ่อนของสุลต่าน และเหล่าข้าราชบริพาร มีความสวยสดงดงามแปลกตาจากพระราชวังทั่วไป เนื่องจากในบริเวณของวัง จะมีสระว่ายน้ำไว้สำหรับสุลต่านและพระญาติเพื่อพักผ่อน โดยรอบๆจะเป็นสวนขนาดใหญ่ที่ยังคงความสวยงาม อิสระให้ท่านเก็บภาพสวนสวย และสระน้ำ ตามอัธยาศัย
• รับประทานอาหารกลางวัน ที่ห้องอาหาร
• นำท่านเดินทางไปสนามบิน
• 16.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงจาการ์ต้า ด้วย สายการบินไลอ้อนแอร์ (Malindo Air) เที่ยวบินที่ JT 545
• 17.30 น. เดินทาง ถึง จาการ์ต้า (Jakarta) เมืองหลวง ของอินโดนีเซีย หลังจาก รับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว พบมัคคุเทศก์ท้องถิ่นประจำ กรุงจาการ์ต้า รอต้อนรับคณะ นำท่านเดินทาง ไปร้านอาหาร รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน)
• ที่พัก โรงแรม Swiss Belhotel Cengkareng **หรือเทียบเท่า**

วังสุลต่าน (Kraton)

วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2567 : จาการ์ต้า (Jakarta) – กรุงเทพฯ

• เช้า รับประทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
• หลังจากเช็คเอ้าท์แล้ว มัคคุเทศก์ท้องถิ่น มารับคณะยังที่พัก นำท่านเดินทางไปสนามบิน
• 12.35 น. ออกเดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดย สายการบิน ไทย เที่ยวบินที่ TG 434
• 16.05 น. เดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ และประทับใจ