Everest Base Camp (แบบ VIP ใช้ ฮ. ไป/กลับ)

แพคเกจทริปทัวร์เดินทางเส้นทางเดินเขาที่เป็นความฝันของนักเดินเขาทั่วโลก นั่นคือการเดินทางถึงเอเวอเรสต์เบสแคมป์ (Everest Base Camp)

ท่านสามารถรวมกลุ่มเพื่อให้ทางบริษัทฯ จัดทริปส่วนตัวให้ท่านได้ตาม โดยจำนวนคนขั้นต่ำคือ 1 ท่าน

วันที่ 7 – 19 เมษายน พ.ศ. 2566

ทริปนี้เป็นทริปออกแบบเฉพาะพิเศษ จึงมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้

อัตราส่วนของไกด์และลูกหาบต่อลูกค้า

• ไกด์ 1 คน ต่อ ลูกค้า 1 – 5 ท่าน
• ไกด์ 2 คน ต่อ ลูกค้า 6 – 9 ท่าน
• ไกด์ 3 คน ต่อ ลูกค้า 10 ท่าน
• ลูกหาบ 1 คน ต่อ ลูกค้า 2 ท่าน
• หัวหน้าทริปชาวไทย เดินทางพร้อมกัน

สิ่งที่ต้องเข้าใจก่อนทำการจอง

1. เนื่องจากเป็นการท่องเที่ยวในเส้นทางธรรมชาติ ดังนั้นสภาพอากาศจึงมีผลอย่างมากต่อแผนการเดินทาง โปรดอ่านข้อตกลงเบื้องต้นก่อนตกลงทำการจองที่นี่
2. ที่พักในเมืองกาฐมันฑุ (Kathmandu) จะเป็นโรงแรมมาตรฐานระดับ 5 ดาว  แต่ที่พักในภูเขาระหว่างเดินจะเรียกว่า Tea house ซึ่งจะเป็นที่พักกึ่งโฮมสเตย์ ไม่ใช่โรงแรมมาตรฐาน มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานเท่านั้น คือ ห้องพักส่วนตัว มีห้องน้ำส่วนตัวภายในห้อง สำหรับน้ำร้อนอาจจะมีในบางสถานที่ แต่สถานที่ๆทางทีมงานเลือกไว้ จะเน้นที่ความสะอาดและความปลอดภัยสำหรับผู้เดินทางเป็นหลัก
3. อาหารในเมือง กาฐมันฑุ (Kathmandu) ถือว่ามีตัวเลือกและมีความหลากหลาย แต่อาหารภายในที่พักระหว่างเดินเขา ถือว่ามีตัวเลือกเพียงไม่มาก และค่อนข้างคล้ายกันทุกแห่ง เช่น ข้าวผัดชนิดต่างๆ ขอให้ท่านทำความเข้าใจไว้เบื้องต้น
4. ทัวร์เป็นทัวร์เทรคกิ้ง (Trekking) ดังนั้น ความพร้อมในการเดินเป็นสิ่งสำคัญมากๆ
5. ต้องเปิดใจและรับทราบกับธรรมชาติของประเทศเนปาลและคนที่นี่ ทุกสิ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอครับ
6. เส้นทางเดินเขา Everest Base Camp เป็นเส้นทางที่ต้องผ่านระดับความสูง 5,000 เมตร และ มีระยะทางการเดินโดยเฉลี่ย 6 – 12 กิโลเมตร ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับการเป็นทริปแรกสำหรับผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน

การเตรียมตัวก่อนเดินทาง (ไม่มีค่าใช้จ่าย ให้บริการโดยบริษัทฯ)

1. นัดหมายให้ท่านได้ปรึกษากับ แพทย์เวชศาสตร์การเดินทาง (Travel Medicine) เพื่อปรึกษาการเตรียมตัวเรื่องอาการแพ้ความสูง เป็นเวลา 45 นาที โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทาง Video call โดยจะเป็นการนัดหมายทุกท่านให้ปรึกษาพร้อมกันในเวลาเดียวกัน
2. นัดหมายให้ท่านได้ปรึกษากับ นักวิทยาศาสตร์การกีฬา (Sport Scientist) เพื่อปรึกษาการเตรียมตัวด้านร่างกาย การออกกำลังกาย เป็นเวลา 45 นาที โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทาง Video call โดยจะเป็นการนัดหมายทุกท่านให้ปรึกษาพร้อมกันในเวลาเดียวกัน
3. นัดหมายให้ท่านได้ปรึกษากับ ผู้เชียวชาญด้านการเดินเขา  (Trekking Specialist) เพื่อปรึกษาด้านการเตรียมพร้อมด้านอุปกรณ์ เสื้อผ้า และ การแต่งกาย เป็นเวลา 45 นาที โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทาง Video call โดยจะเป็นการนัดหมายทุกท่านให้ปรึกษาพร้อมกันในเวลาเดียวกัน

ภาพรวมของทริป

ระยะทางเดินทางเทรคโดยประมาณทั้งหมด 58 กิโลเมตร ในเวลา 8 วัน โดยรายละเอียดเป็นดังนี้

แผนการเดินทาง Everest Base Camp

7 เมษายน พ.ศ. 2566 วันที่ 1 : กรุงเทพ – กาฐมันฑุ (Kathmandu)

• 07.00 น. นัดหมายสนามบินสุวรรณภูมิ
• 10.15 – 12.25 เดินทางสู่ กาฐมันฑุ (Kathmandu) สายการบิน Thai Smile ไฟลต์บิน WE 319 (ระยะเวลาบิน 3 ชั่วโมง 25 นาที)
• 12.25 น. เดินทางถึง กาฐมันฑุ (Kathmandu) เมืองหลวงของประเทศเนปาล
• ทีมงานต้อนรับที่ ท่าอากาศยานนานาชาติตริภูวัน (Tribhuvan International Airport) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าสนามบินกาฐมาณฑุ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติเพียงแห่งเดียวในเนปาล เริ่มต้นใช้งานในปี ค.ศ.1949 ในฐานะสนามบินเล็ก และได้ทำพิธีเปิดทางการในปี ค.ศ.1955 โดยสมเด็จพระเจ้ามเหนทระแห่งเนปาล และได้รับการตั้งชื่อ “ตริภูวัน” มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1964 เมืองกาฐมันฑุโดยเจ้าหน้าที่
• นำท่านเดินทางยัง มหาเจดีย์โพธินาถ (Boudhanath Stupa) มีความหมายบ่งบอกถึง “พระพทธเจ้าผู้เป็นที่พึ่ง” โดยเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล (สูง 38 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 32 เมตร) ชาวทิเบตเรียกกันในชื่อ จารุง กาโซว์ โชร์เตน (Jarung Kashor Chorten) บนเจดีย์จะมีรูปเพ้นท์ลายดวงตาเห็นธรรมของพระพุทธเจ้า (wisdom Eyes) ทั้งสี่ทิศ นับเป็นสัญลักษณ์ที่ให้ผู้คนทำดี ลักษณะที่เจดีย์ทรงโอคว่ำ สร้างตามคติความเชื่อความคิดที่ว่าเป็นการจำลองสวรรค์ชั้นอธูปธาตุรอบๆขององค์เจดีย์ประดับประดาด้วย “ธงมนตรา” ที่ชาวทิเบตและชาวเนปาลนิยมนำมาแขวนเอาไว้อย่างสง่างามเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เป็นความหมายว่าเพื่อให้ลมพัดโบกธงช่วยสวดมนตร์ แล้วพัดพาเอามนตราไปคุ้มครองผู้ผ่านทาง
• นำท่านไปรับประทานอาหารค่ำเป็นอาหารเนปาลพร้อมการแสดงระบำพื้นเมืองของชาวเนปาลอาหาร : เที่ยง/เย็น
• ที่พัก โรงแรม Ramada Encore by Wyndham Kathmandu Thamel หรือเทียบเท่า

มหาเจดีย์โพธินาถ (Boudhanath Stupa)

8 เมษายน พ.ศ. 2566 วันที่ 2 : Kathmandu (1,400 m) – Phakding (2,610 m) หรือ Monjo (2,835 m) เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว

• รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมแล้วพาท่านไปสนามบินภายตรีภูวัน
• เดินทางสู่ หมู่บ้านมอนโจ (Monjo) โดยเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวภายในกลุ่ม (ขนาด 5 ที่นั่ง ไม่รวมนักบิน) ไฟลต์บินจะเป็นการกำหนดเวลาที่หน้างาน ยังไม่สามารถระบุเวลาได้ เนื่องจากระบบการใช้เครื่องบินเล็กและเฮลิคอปเตอร์ จะไม่แตกต่างจากระบบรถเมล์ที่มีโอกาสเลทได้เสมอ เนื่องจากสภาพการจราจรและบางครั้งมีเหตุฉุกเฉินบนภูเขาที่ต้องมีการนำเครื่องไปใช้ในการกู้ภัยฉุกเฉิน
• หมายเหตุ เนื่องจากเป็นการเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ภายในหุบเขา จึงมีโอกาสที่ไฟลต์บินจะถูกยกเลิก ด้วยสาเหตุของสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม หรือทางสายการบินเป็นผู้ยกเลิก ทางทีมงานท้องถิ่นจะจัดหาไฟลต์บินใหม่ทดแทนในวันนั้น ในกรณีที่ไม่มีไฟลต์ใหม่ทดแทน แผนจะถูกปรับใหม่ระหว่างทางโดยการตัดสินใจของทีมงานท้องถิ่นประสานงานกับไกด์ไทย
• ในกรณีที่ไม่สามารถลงจอดที่ หมู่บ้านมอนโจ (Monjo) ได้ จะเปลี่ยนมาลงที่หมู่บ้าน Phakding (2,610 เมตร)
• ถึง หมู่บ้านมอนโจ  (Monjo) ที่ระดับความสูง 2,835 เมตร
• ที่พัก Tea House
• อาหาร เช้า/เที่ยง/เย็น

Phakding (2,610 m)

9 เมษายน พ.ศ. 2566 วันที่ 3 : Phakding (2,610 m) หรือ Monjo (2,835 m) – Namche Bazaar (3,440 m)

• ระยะทางเดิน 5.5 กิโลเมตร / ความสูงที่เปลี่ยนแปลง +605 เมตร
• พบปะทีมลูกหาบแล้วเดินทางไป หมู่บ้าน Namche Bazaar ที่ระดับความสูง 3,440 เมตร วันนี้จะพบกับยอดเขา Thamserku สู่อุทยานแห่งชาติ Sagarmatha ประกาศเป็น UNESCO Natural World Heritage site ในปี ค.ศ. 1979
• ที่พัก Panorama Lodge and Restaurant
• รวมอาหาร เช้า/เที่ยง/เย็น

Namche Bazaar (3,440 m)

10 เมษายน พ.ศ. 2566 วันที่ 4 : Namche Bazaar (3,440 m)

• ระยะทางเดิน 4 กิโลเมตร / ความสูงที่เปลี่ยนแปลง 0 เมตร
• เป็นวันปรับสภาพร่างกาย (Acclimatization day)
• ปรับสภาพร่างกายให้คุ้นชินกับความสูง เดินไปชมวิว ที่ Hotel Everest View (3,880 m) เพื่อพบกับ Mt.Everest แล้วหลังจากนั้นเดินกลับลงที่หมู่บ้าน Namche Bazaar (3,440 m) เหมือนเดิม
• ที่พัก Panorama Lodge and Restaurant
• อาหาร เช้า/เที่ยง/เย็น

Namche Bazaar (3,440 m)

11 เมษายน พ.ศ. 2566 วันที่ 5 : Namche Bazaar (3,440 m) – Tengboche (3,749 m)

• ระยะทางเดิน 9.2 กิโลเมตร / ความสูงที่เปลี่ยนแปลง +309 เมตร
• เดินทางไป หมู่บ้าน Tengboche ที่ระดับความสูง 3,749 เมตร
• เยี่ยมชมสํานักสงฆ์ Tengboche ซึ่งเป็นวัดพุทธแบบทิเบต ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1916
• วิวระหว่างเส้นทางจะเป็นวิวพาโนรามา ของ Thamserku , Ama Dablum , Lhotse และ Everest
• ที่พัก Tea House
• อาหาร เช้า/เที่ยง/เย็น

สํานักสงฆ์ Tengboche

12 เมษายน พ.ศ. 2566 วันที่ 6 : Tengboche (3,749 m) – Dingboche (4,440 m)

• ระยะทางเดิน 11 กิโลเมตร / ความสูงที่เปลี่ยนแปลง +691 เมตร
• เดินทางไป หมู่บ้าน Dingboche ที่ระดับความสูง 4,440 เมตร
• ผ่านสะพานข้ามลำธาร Imja Khola หลังข้ามผ่านสะพานไปจะพบกับสถูปสีขาวที่มีดวงตาแห่งธรรมจะเข้าสู่ลักษณะภูมิประเทศแบบ Alpine ต้นไม้เริ่มน้อย สัตว์ที่พบแถวนี้จะเป็นพวกจามรี (Yak)
• ที่พัก Tea House
• อาหาร เช้า/เที่ยง/เย็น

Milky way over the Ama Dablam mountain at Dingboche

13 เมษายน พ.ศ. 2566 วันที่ 7 : Dingboche (4,440 m)

• ระยะทางเดิน 5 กิโลเมตร / ความสูงที่เปลี่ยนแปลง 0 เมตร
• เป็นวันปรับสภาพร่างกาย (Acclimatization day)
• พักปรับสภาพร่างกายกันอีกครั้งที่ เดินขี้นไป ยอด Nangkar Tshang (ความสูง 5,100 เมตร) และชมวิวอลังการจากยอด
• ที่พัก Tea House
• อาหาร เช้า/เที่ยง/เย็น

Dingboche (4,440 m)

14 เมษายน พ.ศ. 2566 วันที่ 8 : Dingboche (4,440 m) – Lobuche (4,930 m)

• ระยะทางเดิน 12 กิโลเมตร / ความสูงที่เปลี่ยนแปลง +490เมตร
• เดินทางไป หมู่บ้าน Lobuche ที่ระดับความสูง 4,930 เมตร
• การเทรควันนี้เราจะรู้สึกเดินลอยๆในเทือกเขาหิมาลัย เดินไปยัง Thukla จุดนี้เราจะเห็นหินก้อนใหญ่ที่เต็มไปด้วยธงมนต์ที่ไว้อาลัยแก่ผู้ที่เสียชีวิตจากการปีนยอดเอเวอร์เรสต์
• ที่พัก Tea House
• อาหาร เช้า/เที่ยง/เย็น

Lobuche (4,930 m)

Kala Patthar (5,545 m)

15 เมษายน พ.ศ. 2566 วันที่ 9 : Lobuche (4,930 m) – Gorak Shep (5,140 m) – Kala Patthar (5,545 m) – Gorak Shep (5,140 m)

• ระยะทางเดิน 8 กิโลเมตร / ความสูงที่เปลี่ยนแปลง +210 เมตร
• วันนี้จะเป็นวันที่ยาวนานและเหนื่อยหนักมาก จะเดินทางผ่านภูมิประเทศแบบทุ่งหญ้าและก้อนหิน และหิมะรายรอบตัว จากนั้นเทรคไปยัง Gorek Shep ระยะทางประมาณ 4 กม. (5,140 เมตร)
• หลังจากพักดื่มน้ำชาทานอาหารเที่ยง เราจะเดินขึ้น ยอด Kala Patthar (5,545 m) จุดชมวิวที่มองเห็นเทือกเขาสีขาวโพลนแห่งหิมาลัย และแสงที่จับยอดเขา Everest, Pumori และ Nuptse (ระยะทางไปกลับประมาณ 4 กิโลเมตร)
• ที่พัก Tea House
• อาหาร เช้า/เที่ยง/เย็น

Gorak Shep (5,140 m)

Kala Patthar (5,545 m)

16 เมษายน พ.ศ. 2566 วันที่ 10 : Gorak Shep (5,140 m) – Everest Base Camp (5,335 m) – Gorak Shep (5,140 m) – Lukla (2,840 m) – Kathmandu (1,400 m) เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว

• ระยะทางเดิน 6 กิโลเมตร / ความสูงที่เปลี่ยนแปลง -3,935 เมตร
• เดินคู่ขนานกับ glacier ไปยัง Everest Base Camp ระยะทางประมาณ 3 กม. (5,335 m) พบกับชุมชนผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้จากที่นี่
• หลังจากนั้นจะเดินทางกลับมายัง Gorek Shep ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร
• ช่วงบ่าย ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางกลับมายัง เมืองลุกลา (Luka)
• ใช้เวลาตามอัธยาศัย
• ที่พัก Tea House
• อาหาร เช้า/เที่ยง/เย็น

Everest Base Camp (5,335 m)

Lukla (2,840 m)

17 เมษายน พ.ศ. 2566 วันที่ 11 : Lukla (2,840 m) – Kathmandu (1,400 m) เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว

• รับประทานอาหารเช้าภายในที่พัก
• เช้า เดินทางกลับกาฐมาณฑุ ด้วยเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว
• หมายเหตุ เฮลิคอปเตอร์ทุกลำจะต้องบินมาจอดที่ลุกลาเพื่อเติมน้ำมันหรือประเด็นอื่นทางเทคนิคก่อนจะเดินทางกลับกาฐมาณฑุ จึงไม่อาจกำหนดเวลาเดินทางได้อย่างแน่นอน และในกรณีเหตุสุดวิสัย ที่ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปยังกาฐมาณฑุในวันเดียวกันได้ เช่น สภาพอากาศ / เหตุฉุกเฉินบนยอดเขาที่จำเป็นต้องมีการใช้เฮลิคอปเตอร์ฉุกเฉิน / เหตุสุดวิสัยอื่นๆ จะทำให้เราต้องพักค้างที่ลุกลาก่อนอีกหนึ่งคืนและเดินทางกลับในวันถัดมาแทน
• พาท่านท่องเที่ยวเมืองหลวง เมืองกาฐมัณฑุ (Kathmandu) เป็นเมืองหลวงของประเทศเนปาล และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเพราะที่นี่คือจุดศูนย์รวมทั้งการค้า การเดินทาง วัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ซึ่งเราจะเห็นโบราณสถานที่สวยงามตั้งอยู่ในเมืองกาฐมาณฑุมากมาย
• หุบเขากาฐมาณฑุ (Kathmandu Valley) ตั้งอยู่ที่ความสูง 1,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล หุบเขากาฐมาณฑุนั้นเป็นที่รวบรวมมรดกทางวัฒนธรรมของเนปาลเอาไว้ เนื่องจากหุบเขาแห่งนี้เป็นแหล่งวัฒนธรรมเนวารีโบราณ ชนเผ่าเนวาร์อาศัยอยู่ที่หุบเขาแห่งนี้ได้สร้างอารยะธรรมที่สำคัญขึ้นบน 3 เมือง ซึ่งได้แก่ กรุงกาฐมาณฑุ (Kathmandu) ปาตัน (Patan) และบัคตาปุูร์ (Bhaktapur) ซึ่งอุดมไปด้วยวัดและปราสาทที่สร้างขึ้นด้วยฝีมืออันประณีต ฝีมือแกะรูปสลักหินและโลหะที่ละเอียดอ่อน เสาไม้แกะสลัก และโบสถ์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์
• นำท่านเข้าชม เขตเมืองเก่านครกาฐมัณฑุ (Kathmandu Old Square) ที่นี่เป็นศูนย์กลางของนครกาฐมัณฑุโบราณ ซึ่งมีสถานที่น่าสนใจดังนี้
  • กาฐมาณฑุ ดูร์บาร์สแควร์ (Kathmandu Durbar Square) หรือเรียกว่า จัตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์แห่งนี้ประกอบไปด้วยวัดและปราสาทที่เก่าแก่ ซึ่งแสดงภาพความเจริญรุ่งเรืองทางด้านศาสนาและวัฒนธรรมของชาวเนปาล เนื่องจากเป็นสถานที่ราชาภิเษกขึ้นครองราชย์สถาน จัตุรัสแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2522 อีกด้วย
  • ชม “กาฐมณฑป” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมือง อาคารไม้นี้สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 12 บนจุดที่เส้นทางการค้าสำคัญสองเส้นตัดกัน และใช้เป็นศูนย์กลางของชุมชนในการแลกเปลี่ยนซื้อขาย การพัฒนาของตัวเมืองเกิดขึ้นในรัศมีรอบ ๆ พระราชวังเก่า
  • ชม วัดกุมารี (Temple of Kumari or Kumari Ghar) หรือ ที่พำนักเทพธิดาที่มีชีวิต (Living Goddess) ชาวเนปาลเชื่อกันว่ากุมารีคืออวตารของเทพธิดาพรมจรรย์
  • ชม วัดตะเลจู (Teleju Tempel) สร้างอุทิศให้กับองค์สำคัญประจำราชวงศ์คือเทวีตะเลจูบะวานี เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งไม่เปิดให้ผู้ใดเยี่ยมกราย นอกจากองค์กษัตริย์และนักบวชที่มีสมณะศักดิ์สูง
  • ชม ประตูหนุมาน (Hanuman Dhoka) ประตูที่เป็นที่ตั้งของพระองค์เทพหนุมาน
• ชม วัดปศุปฏินาถ (Pashupatinath Temple) วัดสำคัญทางศาสนาฮินดูที่มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และมีหลังคาสีทอง 2 ชั้นที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าภูบาลสิงห์แห่งราชวงศ์มัลละ วัดนี้ตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ภัคมาติ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางของการแสวงบุญประจำปีของมหาศิวะราตรี ดังนั้นวัดแห่งนี้จึงถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการแสวงบุญประจำปีของชาวฮินดู มหาศิวะราตรีอีกด้วย
• พาท่านเข้าที่พัก รับประทานอาหารเย็น และปล่อยท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย
• เดินช้อปปิ้ง ชมแสงสีบนถนนธาเมลที่คึกคักที่สุดในนครแห่งนี้ ช้อปของฝากติดมือกลับบ้าน ไปฝากคนที่เรารัก
• ที่พัก โรงแรม Ramada Encore by Wyndham Kathmandu Thame (หมายเหตุ กรณีที่เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถกลับมายังกาฐมาณฑุในวันเดียวกันได้ ท่านจะต้องพักที่ Lukla แทน)
• อาหาร เช้า/เที่ยง/เย็น

กาฐมาณฑุ ดูร์บาร์สแควร์ (Kathmandu Durbar Square)

วัดปศุปฏินาถ (Pashupatinath Temple)

18 เมษายน พ.ศ. 2566 วันที่ 12 : Kathmandu

• รับประทานอาหารเช้าภายในที่พัก
• ท่องเที่ยวภายในเขตเมืองหลวง (กรณีที่เดินทางกลับมาถึงกาฐมาณฑุในวันนี้ ทางไกด์จะเป็นผู้วางแผนตารางการเดินทางให้เหมาะสมอีกครั้ง ซึ่งอาจต้องมีการปรับลดโปรแกรมในสถานที่บางแห่งออกไปเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์)
• ช่วงเช้า นำท่านชม บัคตะปูร์ (Bhaktapur) 1 ใน 7 กลุ่ม ของมรดกทางวัฒนธรรม ในเขตหุบเขากาฐมาณฑุ (Kathmandu Valley) ซึ่งองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้รับการยกย่องให้ เป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ. 1979 ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งอัญมณีทางวัฒนธรรมของเนปาล
  • นำท่านเข้าชมภายในตัวเมือง คือ จัตุรัสบักตะปูร์ ดูรบาร์ (Bhaktapur Durbar Square) สถานที่ท่องเที่ยวที่มี ความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองบักตะปูร์ เนื่องจากบริเวณจัตุรัสนั้นเป็นที่ตั้งของอาคารและสิ่งก่อสร้างที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม รวมไปถึงสถานที่สำคัญๆของเมืองมากมาย ในอดีตเคยเป็นราชธานีในหุบเขา เป็นเมืองที่เจริญบนเส้นทางการค้าสู่ธิเบต
  • ชม ย่านเดอร์บาสแควร์ หรือ ย่านพระราชวังบักตาปูร์ อันเป็นที่ตั้งของวัง ชมพระราชวัง 55 พระแกล (หน้าต่าง) ประตูทองคำ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมอันงดงาม ชมลานสรงน้ำ หรือ ซุนดารี (Sundari)
  • นำท่านเข้าชม วัดเนียตาโปลา (Nyatapola) เป็นศาสนสถานที่สูงที่สุดในเนปาล มีด้วยกัน 5 ชั้น สูง 98 ฟุต สองข้างบันไดทางขึ้นมีรูปปั้นหินขนาดใหญ่ สลักเป็นรูปสัตว์ และเทพอารักขา เชื่อกันว่าปั้นแต่ละคู่มีอำนาจหยุดสิ่งชั่วร้ายที่เมารุกราน วัดนี้สร้างขึ้นถวายแด่เทพแห่งเนียตะโปลา ผู้ที่มีพลังสูงสุดหรือสิทธิลักษมี (Siddhi Lakshmi) ซึ่งเป็นเทวี ลัทธิตันตระ
• บ่าย นำท่านเดินทางกลับสู่กาฐมาณฑุ
• นำท่านเข้าชม สยมภูวนาถ (Swayambhunath) หรือวัดลิง เป็นเจดีย์ของชาวพุทธ (Buddhist Chaityas) ที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดคือ ส่วนตรงฐานของสถูปซึ่งมีดวงตาเห็นธรรม หรือ Wisdom Eyes ของพระพุทธเจ้าอยู่โดยรอบทั้ง 4 ด้าน ตัวสถูปตั้งอยู่บนเนินเขาจึงทำให้ทิวทัศน์เหนือหุบเขาที่แสนงดงาม สถูปแห่งนี้เป็นสถูปที่เก่าแก่ที่สุดของเนปาล อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่มีการผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธกับฮินดู โดยองค์การยูเนสโกได้ทำการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2522
• นำท่านเข้าสู่ ย่านทาเมล (Thamel) ชุมชนของนักเดินเขาทั่วโลก
• ที่พัก โรงแรม Ramada Encore by Wyndham Kathmandu Thame
• อาหาร เช้า/เที่ยง/เย็น

บัคตะปูร์ (Bhaktapur)

สวยมภูวนาถ (Swayambhunath) หรือวัดลิง

19 เมษายน พ.ศ. 2566

วันที่ 13 : เดินทางกลับกรุงเทพ

• รับประทานอาหารเช้าภายในที่พัก
• ส่งท่านยังสนามบินตรีภูวันเพื่อเดินทางกลับยังกรุงเทพ
• 13.30 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบิน Thai Smile WE 320 (ระยะเวลาบิน 3 ชั่วโมง 10 นาที)
• 18.15 น. เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

__________________________

ราคาแพคเกจ/ท่าน

• ราคาท่านละ 180,000 บาท (พักคู่)
• กลุ่มเดินทาง 8 ท่าน คอนเฟิร์มออกเดินทาง

ข้อควรรู้ก่อนเทรค

1. ต้องมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรงเช่น เบาหวาน ความดัน กระดูกสันหลังเคลื่อน รูมาตอยด์ หัวใจ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ภูมิแพ้อย่างหนัก SLE เนื่องจากสภาพอากาศและภูมิประเทศโหดร้ายการช่วยเหลือทาง การแพทย์ทำได้ยาก และนอกเหนือความรับผิดชอบของประกัน
2. อากาศระหว่างเทรคจะเปลี่ยนแปลงมาก เริ่มจากร้อนประมาณ 30 องศา และหนาวสุดประมาณ -15 องศา และอาจจะมีฝนตก ลูกเห็บ หิมะ แดดที่แรง ท่านต้องเตรียมอุปกรณ์ให้เตรียมพร้อมกับทุกสภาพอากาศ
3. ต้องเตรียมพร้อมก่อนเดินทางโดยการออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง แต่ไม่ได้หมายความว่าท่านจะไม่ป่วย เป็นโรคแพ้ความสูง ซึ่งเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าจะร่างกายแข็งแรงหรือไม่ก็ตาม
4. อาการแพ้ความสูง (Acute Mountain Sickness) เกิดขึ้นได้ในคนไทยที่เดินทางมาเทรคยังประเทศเนปาล โดยเฉลี่ย 1/4 ดังนั้นท่านมีโอกาส 25% ที่จะมีอาการป่วย ท่านสามารถอ่านเรื่องของ AMS ได้ที่นี่ และ สามารถปรึกษาแพทย์ประจำคลินิกก่อนเดินทางได้
5. การออกกำลังกายให้เน้นไม่หนักแต่ให้นานเรื่อยๆแต่ให้อึดทน เช่น การเดินขึ้นบันไดวันละ 1,000 ขั้นต่อวัน การ Squat วันละ 100 ครั้ง/นาที ทำติดต่อ ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนัก แต่ให้ออกต่อเนื่องอย่างน้อยวันละ 30-60 นาทีต่อวัน และก่อนออกเดินทาง 2 สัปดาห์ ให้งดการออกกำลังกายเป็นเพียงการออกกำลังกายเบาๆ เช่นเดินวันละ 1-2 กม. ต่อวัน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บก่อนเดินทาง

***รายละเอียดเพิ่มเติม***: ควรอ่านให้ละเอียดประกอบการตัดสินใจ

1. ภายหลังกำหนดเดินทางแล้ว ทางบริษัทจะไม่มีการคืนเงินแต่ประการใด
2. กรณีมีเหตุสุดวิสัยเช่น ไฟลท์ยกเลิก และท่านต้องการรอไฟลท์วันต่อไป ทางบริษัทจะ ไม่รับผิดชอบค่าที่พัก หากท่านต้องการรอไฟลท์และไม่ยังไม่เทรคกิ้ง อัตราค่าที่พักในโพครา/กาฐมัณฑุ 25 USD/ ท่าน/คืน (พร้อมอาหารเช้า)
3. กรณีมีเหตุสุดวิสัยไม่สามารถเดินทางออกจากกาฐมัณฑุ/โพคขราได้อัตราค่าที่พักในระหว่างเทรคพร้อมไกด์ดูแล 40 USD/ท่าน/วัน (รวมอาหาร3มื้อ)
4. สำหรับเที่ยวบินในประเทศเนปาลล่าช้าบริษัทจะดำเนินการให้ท่านได้ไปถึงจุดหมายเร็วที่สุด โดยหากท่านยืนยัน จะเดินทางโดยสายการบินเดิม ก็จะเข้ากรณีข้อ 2.
5. บริษัทรับทำประกันภัยการเดินทางแบบมีประกันสุขภาพสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้
6. กรณีที่เครื่องบินไม่สามารถบินออกจากกาฐมัณฑุหรือโพขราได้ เราจะนำท่านเดินทางโดยรถตู้/รถบัสเช่า เหมาคัน และจะคืนเงินส่วนต่างของตั๋วเครื่องบินหลังหักค่าใช้จ่ายเรียบร้อย
7. กรณีที่ท่านป่วยและจำเป็นต้องลงด้วยเฮลิคอปเตอร์ทางบริษัทจะดำเนินการติดต่อให้กับประกันเพื่อให้ Rescue เร็วที่สุด
8. เงื่อนไขการยกเลิกไฟลท์หรือการเปลี่ยนเที่ยวบินกรณีที่ท่านเจ็บป่วย เป็นเงื่อนไขของบริษัทประกันภัย ทางบริษัทการเคลมได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัทประกัน
9. นำดื่มระหว่างมื้ออาหาร เราจะบริการน้ำดื่มสะอาดให้ท่านในมื้ออาหารเท่านั้น สำหรับน้ำที่ใส่กระติกที่ติดตัวระหว่างเดินเทรคไม่ได้รวมในแพคเกจ