ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่

ทัวร์เยอรมนี แบบเจาะลึก

ไฮไลท์ของเส้นทาง : ทัวร์เยอรมนี ชมความสวยงามบนเส้นทางสายโรแมนติค บ้านเมืองสไตล์บาร๊อค ปราสาทยุคเรเนสซองส์  เที่ยวความสวยงามระดับตำนานที่เมืองเอาส์บวร์ก เมืองเก่าแก่อายุกว่า 2,000 ปี ชมปราสาทนอยชวานสไตน์สัญลักษณ์สุดคลาสิกของวอลซ์ ดิสนีย์  นั่งกระเช้าชมความงามของดินแดน 4 ประเทศบนยอดเขาซุกสปิตเซ่ ชมเหมืองเกลือเมืองเบิร์ชเทสการ์เดน ล่องเรือทะเลสาบโคนิกซีทะเลสาบที่ลึก ใส สะอาดสุดของเยอรมัน

วันที่ 1 : กรุงเทพฯ – แฟรงค์เฟิร์ท(Frankfurt) 

• 20.30 น. นัดหมายพร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4  แถว D เคาน์เตอร์ที่สายการบินไทย จะมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทฯ คอยต้อนรับและให้บริการอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง
• 23.45 น. เดินทางสู่ แฟรงค์เฟิร์ท(Frankfurt) โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 920 ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกบนเครื่อง

วันที่ 2 : แฟรงค์เฟิร์ท(Frankfurt) 

• 06.00 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ท(Frankfurt Airport) ประเทศเยอรมนี  ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ก่อนจะนำท่านชมบรรยากาศเมืองแฟรงค์เฟิร์ท โดยเริ่มต้นที่ บริเวณจัตุรัสรอเมอร์ (Romerberg) ที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง (The Romer)  ตรงข้ามมีอาคารกึ่งไม้แบบฟาคแวร์กเฮ้าส์ เรียกว่า “ออสไซเล่อ” (Ostzeile) ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่โดยยังคงรายละเอียดของอาคารเดิมที่ถูกทำลายตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แวะถ่ายภาพน้ำพุแห่งความยุติธรรม (Gerechtigkeitsbrunnen) ที่อันสวยงามที่ตั้งเด่นใจกลางลานจัตุรัส
• เดินทางสู่ เมืองวูร์ซบวร์ก (Wurzburg) (ระยะทาง 120 กิโลเมตร) เมืองนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา ริมแม่น้ำเมน เมืองที่ได้รับฉายาว่า Baroque City เนื่องจากอาคารบ้านเรือนเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค อีกทั้งเป็นเมืองหนึ่งที่มีชื่อเสียงเรื่องไวน์ เข้าชมพระราชวังวูร์ซบวร์ก (Würzburg Residenz) แลนด์มาร์คสำคัญของเมืองที่ยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลก พระราชวังนี้ตกแต่งสไตล์บาร็อคของปริ๊นซ์ บิชอป ออกแบบโดย Blthasar Neumann  สร้างให้กับสมเด็จพระสังฆราช โจฮันน์ ฟิลิปป์ ฟรานซ์ เพื่อใช้เป็นสถานที่ประทับ มีลักษณะเด่น คือ ภาพเขียนเฟรสโก  หนึ่งในภาพที่สวยงามแห่งหนึ่งคือ การ์เด้นฮอลล์เชื่อมต่อไปยังบันได ไวท์ฮอลล์ และอิมพีเรียลฮอลล์ ที่สร้างสรรผลงานโดย เวเนเชียน จิโอวานนี แบททิสตา ทีโปโล ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในภาพเขียนที่สวยที่สุดในยุโรป
• แวะถ่ายภาพบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำไมน์ที่ชื่อว่า อัลเทอไมน์บรุค (Alte Mainbrücke) สะพานที่มีรูปปั้นนักบุญเรียงรายอยู่สองข้างฝั่ง สะพานนี้เชื่อมระหว่างเขตเมืองเก่า ป้อมมาเรียนแบร์ก และย่านชานเมือง
• ที่พักโรงแรม Maritm Wurzburg ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า*

วันที่ 3 : วูร์ซบวร์ก (Wurzburg) – ไวแกร์สไฮม์(Weikersheim) – เนิร์ดลิงเงน(Nordlingen)

• เดินทางสู่ เมืองไวแกร์สไฮม์ (Weikersheim) (ระยะทาง 45 กิโลเมตร) เดินชมจัตุรัสกลางใจเมือง ที่ท่านจะเพลิดเพลินไปกับความน่ารักของอาคารบ้านเรือนสไตล์บาร๊อค  น้ำพุและรูปปั้นสไตล์ร๊อคโคโค โบสถ์ประจำเมืองสไตล์โกธิค ศาลาว่าการเมือง ชมความสวยงามของปราสาทไวแกร์สไฮม์ (Weikersheim Schloss) ปราสาทยุคเรอเนสซองส์ ถูกสร้างโดย Count Wolfgang II of Hohenlohe ในอดีตใช้เป็นที่ประทับของเจ้าชายในราชวงศ์ Hohenlohe จุดเด่นของที่นี่ คือ ห้องริทเตอร์ซาล หรือห้องอัศวิน (Rittersaal หรือ Knight’s Hall) ห้องนี้มีความกว้างขวาง เพดานมีภาพวาด ถูกประดับประดาด้วย รูปปั้นและรูปแกะสลักที่สวยงาม ใช้จัดงานเลี้ยงหรือรับรองแขก ผนังห้องมีภาพวาดของบรรดาสมาชิกในตระกูล ข้างปราสาทมีสวนสไตล์บาร็อก ที่ถูกประดับประดาตกแต่งด้วยรูปปั้น น้ำพุ และดอกไม้นานาชนิด
• เดินทางสู่ เมืองโรเธนบวร์ก ออบ เดอ เทาเบอร์ หรือ เมืองโรเธนบวร์ก (Rothenburg) (ระยะทาง 30 กิโลเมตร)เมืองเก่าแก่ในยุคกลางของจักรวรรดิฟรังค์ ถือว่าเป็นเมืองยุคกลางที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดของเยอรมนี ล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองมีประตูเมือง และหอคอยทั้ง 8  ภายในเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค-เรอเนสซองส์ สัมผัสบรรยากาศของตัวเมือง แวะถ่ายภาพกับศาลาว่าการเมือง (Rathaus) สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมือง ลักษณะเป็นอาคาร 2 หลังติดกัน อาคารด้านหน้าเป็นสไตล์เรอเนสซองส์ อาคารด้านหลังเป็นสไตล์โกธิค มีหอนาฬิกาเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี 1446 ที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจโดยทุกๆชั่วโมง หน้าต่างของหอนาฬิกาแห่งนี้จะเปิดออก ตุ๊กตารูปปั้นชายสองคนทำท่ากำลังดื่มไวน์จากเหยือกขนาดใหญ่ ตามตำนานเล่าว่า ในช่วงระหว่างสงคราม เมืองนี้ถูกรุกรานโดยเคาน์ทิลลี่ (Count Tilly) ซึ่งประกาศว่า หากใครสามารถดื่มไวน์จากเหยือกใหญ่นี้ได้โดยไม่มีการหยุดพัก จะยกเว้นไม่ยึดเมือง ปรากฏว่าลอร์ด นุช (Mayor Nusch) รับคำท้า และดื่มรวดเดียวจนหมด เมืองโรเธนบวร์กจึงรอดพ้นจากการรุกราน โดยนาฬิกาจะจัดแสดงในช่วงตั้งแต่ 10.00 – 15.00 น. และ ตั้งแต่ 20.00 – 22.00 น. ชมความงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากสีสันผ่านโบสถ์เซนต์ จอร์จ ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นโรงแรม และร้านอาหาร ที่ตั้งของ อ่างน้ำพุเซนต์จอร์จ (Georgsbrunnen หรือ St. George’s Fountain) อ่างน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดของเมืองสไตล์เรอเนสซองส์ที่ลึก 8 เมตร
• แวะถ่ายภาพบริเวณจัตุรัส Plönlein ภาษาเยอรแปลว่า “จัตุรัสเล็ก” ตรงจุดนี้มีหอคอยชื่อว่า Siebersturm (Siebers Tower) และประตูเมืองโบราณ Kobolzellertor (Kobolzeller Gate) ถือเป็นจุดที่คลึกครื้นตลอดเวลาเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาไม่ขาดสาย
• นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองเนิร์ดลิงเงน (Nordlingen) (ระยะทาง 90 กิโลเมตร) เมืองนี้มีกำแพงเมืองยาวกว่า 3.5 กิโลเมตร และมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าที่นี่เคยมีอุกกาบาตตกเกิดเป็นหลุมลึกยักษ์ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ตั้งขอเมืองนี้นั่นเอง
• ที่พักโรงแรม NH Klosterle Nordlingen  ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า*

วันที่ 4 : เนิร์ดลิงเงน(Nordlingen) – เอาส์บวร์ก (Augsburg) – ฟุสเซ่น(Fussen)

• เดินทางสู่ เมืองเอาส์บวร์ก (Augsburg) (ระยะทาง 85 กิโลเมตร) เมืองที่มีขนาดใหญ่ลำดับที่สามของรัฐบาเยิร์นที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้า และศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง นำท่านชมย่านจัตุรัสกลางเมือง บริเวณดังกล่าวมีสัญลักษณ์ไม่ว่าจะเป็น โบสถ์กลาง(Cathedral Dom), ศาลากลางเมือง (Town Hall) และหอคอยเพอร์ลาชทูร์ (Perlachturm) เป็นต้น
• เข้าชมความสวยงามของห้องโถงทองคำ (Goldener Saal or Golden Hall) แลนด์มาร์กที่ตั้งอยู่ในอาคารศาลากลางลักษณะเป็นห้องโถงสไตล์เยอรมันเรอเนสซองส์สีเหลืองทองจากทองคำสะท้อนเหลืองอร่ามจากส่วนต่างๆของห้องไปทั่วบริเวณ  โดยถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1615-1620  ปัจจุบันมีการบูรณะขึ้นมาใหม่  หลังสงครามโลก ตรงเพดานมีภาพวาดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมือง ผนังด้านข้างมีภาพวาดของเหล่ากษัตริย์หรือนักรบต่างๆที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น
• รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Riegele Wirtshaus พร้อมๆกับการดื่มเบียร์ขึ้นชื่ออย่าง Riegele
• ชมย่านชุมชนฟุกเกอร์ไรน์ (The Fuggerei) ชุมชนเล็กๆที่มีกำแพงล้อมรอบ มีทางเข้า 3 ประตู เป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่มีอาคารชุดที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ไฮไลท์ของชุมชนนี้ คือ ไม้เลื้อยต้น Boston ivy ที่ขึ้นปกคลุมตัวอาคารที่พักอาศัยทำให้ดูสวยงาม ร่มรื่น
• เดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (Fussen) (ระยะทาง 105 กิโลเมตร) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมันติดกับประเทศออสเตรีย เมืองเก่าแก่อายุมากกว่าพันปีที่ได้รับ สมญานามว่า Village of the king’s castles ที่ตั้งของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein) และโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) ปราสาทสีขาวเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ ปราสาทแห่งนี้ล้อมรอบด้วยทะเลสาบเกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม
• ที่พักโรงแรม Luipoldpark  ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า*

วันที่ 5 : ฟุสเซ่น(Fussen) – การ์มิชท์พาร์เท่น เคียร์เช่น(Garmisch-Partenkirchen)

• เดินทางไปยัง ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) ระหว่างทางสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดสองข้างทางโดยมีเทือกเขาแอลป์เป็นฉากหลัง ครั้นเมื่อเดินทางถึงปราสาทนอยชวานสไตน์ ปราสาทที่อาจจะคุ้นเคยที่เห็นในสัญลักษณ์ของวอลซ์ ดิสนีย์ หรือปราสาทดิสนีย์แลนด์  ปราสาทแห่งนี้ใช้สถาปัตยกรรมแบบโกธิคผสมยุคกลาง ตกแต่งด้วยจิตรกรรมต่างๆเกี่ยวกับเทพเจ้ากรีก-โรมัน ด้านนนอกเต็มไปด้วยดอกไม้ต้นไม้หลายชนิดคล้ายดินแดนแห่งเทพนิยาย
• ออกเดินทางสู่ เมืองการ์มิชท์พาร์เท่น เคียร์เช่น (Garmisch-Partenkirchen) (ระยะทาง 65 กิโลเมตร) เเมืองทางตอนใต้สุดของเยอรมนี เมืองท่องเที่ยวสำคัญ ที่มีโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร อาคารบ้านเรือนแบบบาเยิร์น อันมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์สวยงาม ไม่พลาดที่จะลองชิมช็อกโกแลตร้านดัง Amelie ที่มีให้เลือกลิ้มลองมากกว่า 40 ชนิด การันตีความอร่อยด้วยรางวัลมากมาย  โดยร้านจะเปิดบริการในจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น.
• ที่พักโรงแรม Zugspitze ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า*

วันที่ 6 : การ์มิช(Garmisch)

• เดินทางสู่ ทะเลสาบไอบ์เซ (Eibsee) (ระยะทาง 15 กิโลเมตร) ทะเลสาบที่มีชื่อเสียงมากเรื่องความสวยงาม นั่งกระเช้าไปยัง ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (Zugspitze) ยอดเขาที่สูงที่สุดของเยอรมนี ด้วยความสูง 2,964 เมตรจากระดับน้ำทะเล บนยอดเขาสามารถมองเห็นทัศนยภาพที่สวยงามได้โดยรอบ สามารถมองเห็ฯยอดเขากว่า 400 ยอดของออสเตรีย อิตาลี สวิสเซอรแลนด์และเยอรมนี ยอดเขาแห่งนี้ในฤดูหนาวช่วงพฤศจิกายนถึงมิถุนายนของทุกปี จะเป็นแหล่งเล่นสกีที่ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากเป็นธารน้ำแข็งเพียงสายเดียวในเยอรมนี
• ช่วงบ่ายเดินทางสู่ หมู่บ้านมิทเทนวาลด์ (Mittenwald) (ระยะทาง 30 กิโลเมตร) หมู่บ้านเล็กๆน่ารักริมภูเขา ที่มีชื่อเสียงด้านการทำไวโอลินมากว่า 300 ปี ชมความงดงามสัมผัสวิถีชีวิตความน่ารักของอาคารบ้านเมืองภาพวาดตามฝาผนัง จนศิลปินชื่อดังแห่งเยอรมันอย่าง  เกอเธ่ บันทึกว่าที่นี่คือ A living picture book หรือหนังสือภาพที่มีชีวิต เพราะทุกผนังอาคารถูกวาดไว้ด้วยลวดลายสวยงามให้บรรยากาศความโรแมนติกเกินบรรยาย ก่อนเดินทางกลับเมืองการ์มิชท์ ให้ท่านได้อิสระในการเดินเล่นชมเมือง
• ที่พักโรงแรม Zugspitze ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า*

วันที่ 7 : การ์มิช(Garmisch) – แบร์กเทสการ์เดน(Berchtesgaden) – มิวนิค(Munich)

• เดินทางสู่ เมืองแบร์กเทสการ์เดน (Berchtesgaden) (ระยะทาง 200 กิโลเมตร) เมืองเล็กๆน่ารักที่ถูกโอบล้อมโดยเทือกเขาแอลป์สวยงาม เชมเหมืองเกลือเก่าเมืองเบิร์ชเทสการ์เดน (Berchtesgaden Salt Mine) เหมือง เกลือเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่ค.ศ. 1517 จากนั้นนั่งรถรางลอดอุโมงค์ไปยังถ้ำเกลือที่จะทำให้คุณต้องร้องว้าวกับผลึกเกลืออันระยิบระยับ และทะเลสาบใต้ภูเขา ก่อนเดินทางต่อไปยังทะเลสาบโคนิกซี ระยะทางประมาณ 15  กิโลเมตร
• กิจกรรมล่องเรือที่ทะเลสาบโคนิกซี (Konigssee Lake)  หรือทะเลสาบกษัตริย์ ทะเลสาบกลางหุบเขา ทะเลสาบที่ได้ชื่อว่าลึกที่สุด น้ำใสที่สุด และสะอาดที่สุดในเยอรมนี ชมความงามของทิวทัศน์ที่สวยงามจนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก
• ท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิค(Munich)(ระยะทาง 160 กิโลเมตร) ศูนย์กลางทาง วัฒนธรรมของภูมิภาคมหานครทางตอนใต้ของเยอรมนี ที่ตั้งของอาคารเก่าแก่และพิพิธภัณฑ์ที่เด่นที่สุดของประเทศ
• ที่พักโรงแรม Hilton Munich Park ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า*

วันที่ 8 : มิวนิค(Munich) – อิงโกลชตัดท์(Ingolstadt) – มิวนิค(Munich)

• มุ่งหน้าสู่ เมืองอิงโกลชตัดท์ (Ingolstadt) (ระยะทาง 85 กิโลเมตร) เมืองศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ชื่อดังอย่าง Audi ตั้งอยู่ที่แม่น้ำดานูบ เดินทางสู่แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง Ingolstadt Village  ให้อิสระในการช้อปปิ้งสินค้าในราคาพิเศษไม่ว่าจะเป็น Gucci, Armani, Versace, Bally และแบรนด์อื่นๆอีกมากมาย
• อิสระอาหารกลางวัน ภายในช้อปปิ้งเอ้าท์เลทเพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้งมอบเงินสดให้ท่านละ 25 ยูโร ***
• นำท่านเดินทางกลับ เมืองมิวนิค ชมบรรยากาศบ้านเมือง อาคารเก่าแก่บริเวณจัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (Marienplatz) ที่สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์ Wittelsbach อดีตบริเวณนี้เป็นตลาดปัจจุบันเปลี่ยนเป็นศูนย์กลางในการจัดงานสำคัญทางวัฒนธรรมต่างๆ บริเวณนี้มีสถานที่สำคัญต่างๆ ได้แก่ ศาลาว่าการเมืองใหม่ (Neuse Rathaus) ที่นักท่องเที่ยวมักมาชมโชว์บริเวณหอนาฬิกาที่เรียกว่า Glockenspiel ทุกวันเวลา 11.00 น. มีตุ๊กตาซึ่งจะออกมาเต้นระบำ ส่วนในช่วงฤดูร้อนจะมีโชว์อีกรอบตอน 17.00 น.  โบสถ์Frauenkirche แลนด์มาร์กสำคัญเอกลักษณ์ตรงโดมรูปทรงหัวหอมคู่ และ Mariensaule รูปปั้นพระแม่มารีทองคำบนเสาสูง เป็นต้น
• อิสระช้อปปิ้งบริเวณ จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (Marienplatz) ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านไอศกรีม ร้านขายของที่ระลึก ร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังมากมาย เช่น Louis Vuitton, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani เป็นต้น
• ที่พักโรงแรม Hilton Munich Park ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า*

วันที่ 9 : มิวนิค – กรุงเทพฯ

• รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม ก่อนจะเดินทางไปยังท่าอากาศยานมิวนิค(Munich Airport)
• 14.25 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 925 ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยควาสะดวกต่างๆบนเครื่องบิน

วันที่ 10 : กรุงเทพฯ

• 06.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม