ทัวร์ปากีสถาน – คาราโครัมไฮเวย์ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (Pakistan – Karakoram Highway)

ปากีสถาน คาราโครัมไฮเวย์ (Karakoram Highway) ถนนที่สูงและสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เดินเขาสู่หุบเขาชิการ์วัลเลย์ดินแดนลับแลในเทือกเขาคาราโครัม เต็มอิ่มกับอารยธรรมโบราณที่ฮุนซาวัลเลย์ เที่ยวกันแบบเต็มอิ่มครบมนต์เสน่ห์แห่งปากีสถานในช่วงเวลา 9 วัน 7 คืน

โปรแกรมการเดินทางทัวร์ ปากีสถาน – คาราโครัมไฮเวย์ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ประจำปี พ.ศ. 2567

บินภายในประเทศ 1 ไฟลต์ และ เดินทางกลุ่มเล็กไม่เกิน 10-12 ท่าน

28 ตุลาคม  – 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

โปรดอ่านข้อความนี้ก่อนตัดสินใจจองทัวร์ และกดอ่านเพิ่มเติมที่นี่

1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ยกเว้นเงื่อนไขการยกเลิกการเดินทางตามกำหนดที่ระบุไว้ในแผนการเดินทาง ในกรณีที่สาเหตุที่ต้องทำให้มีการปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางมาจาก ความผิดพลาดของสายการบิน สายการบินดีเลย์ สายการบินยกเลิกไฟลต์บิน สภาพดินฟ้าอากาศที่ทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ การปฎิเสธการเข้าเมือง สภาพการจราจรอันเป็นเหตุสุดวิสัย เหตุการณ์ทางการเมือง การโดนกักตัว หรือถูกส่งตัวกลับ โดยการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้บริษัทฯ จะยึดถือผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
2. ในกรณีการปรับแผนการเดินทาง ทางบริษัทฯ จะขอสงวนสิทธิ์ในการปรับแผนการเดินทางใหม่ให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและใกล้เคียงกับแผนเดิมที่ได้วางไว้อย่างใกล้เคียงที่สุด
3. การใช้ไฟลต์บินในประเทศนั้น จะทำให้การเดินทางนาน 14 ชั่วโมงและต้องพักระหว่างทาง 1 คืน เป็น ใช้เวลาเหลือเพียง 1 ชั่วโมง แต่สายการบินในประเทศ Pakistan Airline (PIA) มีโอกาสที่จะยกเลิกไฟลต์บินได้ระยะเวลาอันสั้นมาก (เช่น ทำการเช็คอินไปแล้วได้ boarding pass มาแล้ว และถูกปฎิเสธการบินโดยนักบินระหว่างประกาศเรียกขึ้นเครื่อง ทำให้แผนการเดินทางต้องปรับอย่างฉับพลันแม้จะคอนเฟิร์มทุกได้แล้วก็ตาม) โดยถ้ามีการยกเลิกไฟลต์บิน ทางบริษัทฯ จะใช้รถโดยสารแทนทันที และปรับแผนให้ใกล้เคียงกับของเดิม อย่างไรก็ตาม สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งจะต้องถูกนำออกไปเพื่อให้เหมาะสมกับแผนการเดินทางใหม่
4. ธรรมชาติคนปากีสถานจะค่อนข้างสบายๆและอัธยาศัยดี โดยปกติในทุกๆภัตตาคารพ่อครัวจะไม่เริ่มทำอาหารให้จนกว่าแขกจะเดินทางมาถึง ทำให้ถึงแม้ว่าจะจองอาหารไว้ทุกอย่างแล้ว เมื่อแขกเดินทางมาถึงยังคงต้องรออาหารนาน 15-30 นาที ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องปกติมากของคนที่นี่ และเช่นเดียวกับระบบการเช็คอินที่ต้องมีการรอทำชื่อห้องของแขกอีกครั้งเมื่อเราเดินทางมาถึง
5. สภาพถนนในปากีสถานนั้นแม้ส่วนใหญ่จะลาดยางอย่างดีแล้ว แต่เนื่องจากเป็นเส้นทางในซอกเขา จึงมีโอกาสที่จะเกิดถนนทางถูกปิดจากเหตุภัยทางธรรมชาติเช่น ดินถล่ม หรือ หินปิดทาง ทำให้ต้องมีการเสียเวลาการเดินทางทำให้พลาดจุดสถานที่บางแห่งเนื่องจากแผนการเดินทางที่เปลี่ยนไป โดยการตัดสินใจจะอยู่บนพื้นฐานของไกด์ท้องถิ่นเป็นสำคัญ
6. การท่องเที่ยวในเส้นทางนี้เป็นการท่องเที่ยวธรรมชาติ ดังนั้นสภาพอากาศจะมีผลอย่างมากต่อสิ่งที่เราจะได้สัมผัส ถึงแม้ว่าทางบริษัทฯ จะเลือกฤดูกาลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเดินทางของสถานที่นั้นๆ แต่สภาพอากาศที่ไม่คาดฝัน เช่น พายุฝน พายุทราย พายุหิมะ น้ำท่วม อาจจะเกิดขึ้นได้โดยทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงแผนการเดินทาง
7. โรงแรมที่พักได้รับการเลือกโดยอิงจากผลรีวิวของนักเดินทางทั่วโลก และถูกจัดสรรว่าดีที่สุดในพื้นที่ๆเราไปถึง แต่อย่างไรก็ตามอาจมีเหตุไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า เช่น การจัดกิจกรรมยามดึกของทางโรงแรมที่ไม่ได้แจ้งแก่ทางบริษัทฯ ไว้ล่วงหน้า ทำให้เกิดความไม่สะดวกสบายสำหรับการพักผ่อน

ปากีสถาน ถือว่าเป็นประเทศโลกที่ 3 ดังนั้นการเดินทางทุกอย่างมีโอกาสเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ได้วางแผนเอาไว้ และอาจต้องปรับใช้แผนที่สอง หรือแผนที่สามได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามด้วยอัธยาศัยไมตรีของคนปากีสถานนั้นจะทำให้ท่านประทับใจและเข้าใจกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น

แผนการเดินทางทริปทัวร์ปากีสถาน

28 ตุลาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 1 : กรุงเทพ  – อิสลามาบัด (Islamabad)  ปากีสถาน 

• 16.00 น. ทุกท่านพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นผู้โดยสารขาออกต่างประเทศ ชั้น 4  ทางออกที่ 4  เคาน์เตอร์สายการบินไทย พบกับทีมงานที่จะคอยดูแลและอำนวยความสะดวก
• 19.00 น. ออกเดินทางไปยัง เมืองอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน  ด้วยสายการบินไทย TG 349 ใช้เวลาในการเดินทาง 5 ชั่วโมง 10  นาที
• 23.00 น. เดินทางถึง สนามบินอิสลามาบัด (Islamabad International Airport) ประเทศปากีสถาน จากนั้นเดินทางเข้าสู่เมือง อิสลามาบัด (Islamabad)
• ที่พัก โรงแรม Legend Hotel Islamabad หรือเทียบเท่า*

Ramada by Wyndham Islamabad

29 ตุลาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 2 : อิสลามาบัด (Islamabad) – สการ์ดู (Skardu)

• เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม (ขึ้นอยู่กับไฟลต์ว่าเป็นเวลาใด)
• ออกเดินทางกลับไปที่ สนามบินอิสลามาบัด (Islamabad International Airport) เพื่อเดินทางสู่เมือง สการ์ดู (Skardu) ไฟลต์บินจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงผ่านวิวทิวทัศน์ที่งดงาม (ไฟลต์บินยังไม่ระบุเวลา โดยจะเลือกไฟลต์ที่เหมาะสมที่สุดแก่การเดินทาง)
• เที่ยง เดินทางถึงเมือง สการ์ดู (Skardu) เขตปกครองตนเอง กิลกิต-บัลติสถาน (Gilgit-Baltistan) ดินแดนแห่งเทือกเขาคาราโครัมที่ยิ่งใหญ่
• รับประทานอาหารเที่ยง
• Katpana Desert (Cold desert) ทะเลทรายเย็น หรือที่รู้จักในชื่อ ทะเลทรายคัทปานา เป็นทะเลทรายบนระดับความสูงที่ตั้งอยู่ในกิลกิต-บัลติสถาน ประเทศปากีสถาน ทะเลทรายมีเนินทรายขนาดใหญ่ที่บางครั้งถูกปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาว ทะเลทรายเย็นตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 2,226 เมตร (7,303 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล เป็นหนึ่งในทะเลทรายที่สูงที่สุดในโลก
• Shigar Valley ประตูสู่ยอดเขาที่ยิ่งใหญ่ของ Karakorams, Gasherbrum และ K2 อยู่ห่างจาก Skardu ทางรถจี๊ปเพียง 23 กม. เนินลาดชลประทานที่อ่อนโยนของหุบเขาชิการ์นั้นเต็มไปด้วยทุ่งข้าวสาลี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าวบาร์เลย์ สวนผลไม้ที่มีทั้งแอปริคอต มัลเบอร์รี่ ลูกพีช ลูกพลัม ลูกแพร์ แอปเปิ้ล และถั่วต่างๆ ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะในบัลติสถาน ชมมัสยิดไม้กลางเมืองสร้างโดยช่างไม้ชาวแคชเมียร์เมื่อหลายร้อยปีก่อน
• ที่พัก Serena Shigar Fort 
• เย็น รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

บรรยากาศจากบนท้องฟ้าระหว่างบิน

ถนนสู่ Shigar valley

Shigar fort

30 ตุลาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 3 : สการ์ดู (Skardu)

• เดินขึ้น ป้อม Kharpocho ป้อมปราการโบราณที่เรียกว่า King of Forts ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มองเห็นเมือง สร้างขึ้นโดยอาลี เชอร์ ข่าน อันชัน ผู้ปกครองบัลติสถานจนถึงปลายศตวรรษที่ 16 แม่น้ำสินธุอันยิ่งใหญ่ที่เลื้อยคลานอยู่ใต้เท้าของคุณเพียงไม่กี่เมตรท่ามกลางหาดทรายสีขาวสีเงินเป็นภาพที่น่าประทับใจ
• เยือน ทะเลสาบแชงกรีลา (Shangrila) ห่างจากสการ์ดูประมาณ 32 กม. (20 ไมล์) และนั่งรถจี๊ป 1 ชั่วโมง ทะเลสาบแชงกรีลาลึกอันเงียบสงบที่ส่องประกายระยิบระยับ เรียกอีกอย่างว่า ทะเลสาบคาชูรา (Kachura lake) ซึ่งเต็มไปด้วยปลาเทราต์สีน้ำตาล ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้ที่แปลกใหม่และหลากสีสันจะประดับประดาริมฝั่ง ในขณะที่ต้นพีช แอปริคอท และต้นแอปเปิลจะบานสะพรั่งในเดือนเมษายน ต่อมาในฤดูร้อนจะได้ชิมแอปเปิลซึ่งมีรสชาติอร่อยหลากหลาย
• กิจกรรม ล่องเรือในทะเลสาบ
• ที่พัก โรงแรม Arish Luxury Suite

ป้อม Kharpocho

Katpana Desert (Cold desert)

ทะเลสาบแชงกรีลา (Shangrila)

31 ตุลาคม พ.ศ. 2567 วันที่ 4 : สการ์ดู (Skardu) – ฮุนซาวัลเลย์ (Hunza valley) – คาริมาบัด (Karimabad) ระยะทางนั่งรถ 286 กิโลเมตร

• เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• นำท่านเดินทางสู่หุบเขาฮุนซา (Hunza Valley)
• เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น ที่เมืองกิลกิต
• แวะ จุดชมวิวราคาโพชิ (Rakaposhi View Point) ที่มีความสูง 7,790 เมตร เดินทางถึง เมืองคาริมาบัด (Karimabad) เมืองหลวงของ หุบเขาฮุนซา (Hunza Valley) ที่อยู่ในระดับความสูง 2,438 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
• เมืองคาริมาบัด (Karimabad) หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า เมืองบัลติท (Baltit) ซึ่งเคยเป็นรัฐอิสระที่มีอำนาจปกครองตนเองเป็นเวลานานหลายร้อยปี ซึ่งชาวบ้านในเมืองส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายอิสมาอิล
• เดินทางถึง เมืองฮุนซา (Hunza) เมืองหลักของหุบเขาฮุนซาวัลเลย์
• ที่พัก โรงแรม Serena Altit Fort residence

หุบเขาฮุนซา (Hunza)

ใบไม้เปลี่ยนสีที่ Hunza

Hunza in Autumn

1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 วันที่ 6 : คาริมาบัด (Karimabad)

• ชม ป้อมบัลติท (Baltit Fort) ที่มีความเก่าแก่กว่า 750 ปี สร้างโดยเจ้าหญิงและบัลติสถาน (Baltistan) ภายหลังการอภิเษกสมรสกับเจ้าชาย ณ เมืองแห่งนี้ ซึ่งทำให้ป้อมปราการแห่งนี้เป็นอดีตพระราชวังหลวงที่มีการผสมผสานสถาปัตยกรรมหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแคชเมียร์หรือทิเบตและได้รับการต่อเติมขยายส่วนต่างๆมากมายจนกระทั่งในสมัยของที่อังกฤษได้เข้ามาปกครอง ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของ Aga Khan Foundation ทำให้เกิดการฟื้นคืนชีวิตให้ป้อมปราการแห่งนี้หลังจากถูกทิ้งร้างไว้เป็นเวลานาน
• ชม ป้อมอัลติท (Altit Fort) ซึ่งเป็นป้อมปราการที่อายุนานที่สุดในหุบเขาฮุนซา ป้อมอัลติทตั้งอยู่บนหน้าผ่านริมแม่น้ำฮุนซามีความสวยงามเป็นอย่างมาก เราจะเห็นยอดเขาสูงจำนวนมากที่อยู่บริเวณนี้
• เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาท้องถิ่น
• หลังจากนั้นชมวิถีชีวิตของชาวปากีสถานกันที่ Hunza Traditional Bazar เป็นตลาดพื้นเมืองที่มีของที่ระลึกให้ท่านเลือกสรรมากมาย
• ชม ทะเลสาบอัตตาบัด (Attabad Lake) เป็นทะเลสาบที่เกิดจากดินถล่มเพราะแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 2010 (Attabad Disaster) ลงมากั้นแม่น้ำฮุนซ่า จนกลายเป็นทะเลสาบสีเทอควอยส์แบบนี้ซึ่งทะเลสาบนี้มีความยาว 21 กิโลเมตร และความลึก 100 เมตร รอบๆทะเลสาบบางส่วนจะเห็นดินที่ถล่มลงมาจนกลายเป็นเขื่อนกั้นทะเลสาบ ทะเลสาบแห่งนี้เป็นจุดศูนย์รวมกิจกรรมทางน้ำจำนวนมากเช่น ขี่เจ็ตสกี หรือว่าจะเป็นการล่องเรือชมความสวยงามของทะเลสาบ
• เย็น รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• ที่พัก โรงแรม Famree Resort หรือเทียบเท่า*

สวนดอกไม้ใน Altit Fort

สีเหลืองสะพรั่งของหุบเขาฮุนซา

2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 วันที่ 6 : ป้อมอัลติท (Altit Fort) – ทะเลสาบอัตตาบัด (Attabad Lake) – พาสสุ (Passu) – กิลกิต (Gilgit) ระยะทางทั้งหมด 210 กิโลเมตร

• เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• นำท่านชม สะพานแขวนฮุซซานี (Hussaini Suspension bridge) ซึ่งมีฉากหลังเป็นภาพของ หุบเขาพาสสุ (Passu Valley) ที่มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง เดินทางต่อสู่ ธารน้ำแข็งพาสสุ (Passu Glacier)
• เดินทางสู่ หุบเขาพาสสุ (Passu Valley) ท่านจะได้พบกับ Passu Cathedral หรือเทือกเขาพาสสุอันยิ่งใหญ่ตระการตา รับรองว่าภาพนี้จะถูกจดจำไปอีกนาน
• เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
• หลังจากนั้นเดินทางกลับเมือง กิลกิต (Gilgit) (ระยะทาง 150 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง)
• เย็น รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• ที่พัก โรงแรม Gilgit Serena หรือเทียบเท่า*

ทะเลสาบอัตตาบัด (Attabad Lake)

ป้อมอัลติท (Altit Fort)

ป้อมบัลติท (Baltit Fort)

หุบเขาพาสสุ (Passu Valley)

3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 วันที่ 7 : กิลกิต (Gilgit) – นารัน (Naran) ระยะทางนั่งรถ 240 กิโลเมตร

• เช้า รับประทานอาหารภายในที่พัก
• สายๆ ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ เมืองนารัน (Naran) ระยะทางประมาณ 240 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง
• เดินผ่านทาง ช่องเขาบาบูร์ซา (Babusar Pass) ที่ระดับความสูง 4,173 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากข้อเท็จจริงที่ว่าจักรพรรดิโมกุล Babur Babur เคยผ่านบริเวณนี้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้มักเรียกกันว่า Babusar Top
• พัก รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
• แวะจุดชมวิว Lulusar Lake Viewpoint
• บ่าย เดินทางถึง เมืองนารัน (Naran) เป็นเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในหุบเขาคากันตอนบนในเขตมานเซห์ราของจังหวัดไคเบอร์ ปัคตุนควาของปากีสถาน อยู่ห่างจากเมืองมันเซห์รา 119 กิโลเมตร (74 ไมล์) เมืองนารันตั้งที่ระดับความสูง 2,409 เมตร (7,904 ฟุต) อยู่ห่างจาก Babusar Pass ประมาณ 65 กิโลเมตร นารันแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ
• เย็น รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• ที่พัก โรงแรม Millennium Inn Hotel หรือเทียบเท่า*

ช่องเขาบาบูร์ (Babusar Pass)

4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 วันที่ 8 : นารัน (Naran) – อิสลามาบัด (Islamabad) ระยะทางนั่งรถ 280 กิโลเมตร

• เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• สายๆ ออกเดินทางมุ่งหน้าลงใต้สู่ เมืองโบราณตักศิลา (Taxila) ระยะทาง 220 กิโลเมตร
• พัก รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
• บ่าย เดินทางถึง เมืองโบราณตักศิลา (Taxila) เป็นเมืองที่ได้รับมรดกโลก อายุกว่า 3,000 ปี ชมพิพิธภัณฑ์เมืองตักศิลายูเนสโกได้ให้ความสำคัญและยกย่องเป็นมรดกโลกทางประวัติศาสตร์ ตักศิลาเป็นเมืองโบราณที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ในช่วงต้นของพุทธศาสนามาจนถึงรัชสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชที่ได้วางรากฐานการพัฒนาเมืองและทำรุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างแข็งขันจนเมืองตักศิลาเป็นเมืองที่อุดมไปด้วยสถาปัตยกรรมและประติมากรรมเก่าแก่ของพุทธศิลป์ในสมัยคันธาระ จนกระทั่งเข้าสู่ยุคของการล่มสลายในช่วงเวลาถัดมา
• หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยัง มัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque) มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้และใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ถูกสร้างโดยกษัตริย์ Faisal bin Abdul-Aziz แห่งซาอุดิอาระเบีย และออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี Vedat Dalokay ผู้ซึ่งได้รับรางวัลสถาปัตยกรรม Agha Khan Award ซึ่งลักษณะของมัสยิดแห่งนี้ถูกออกแบบให้คล้ายกับเต็นท์ของชาว Bedouin ในทะเลทราย มัสยิดแห่งมีนี้ขนาดใหญ่โดยสามารถบรรจุผู้เข้าร่วมภายในโดมได้ถึง 10,000 คน  โดยมีฉากหลังของมัสยิดเป็น Margalla Hills มัสยิดแห่งนี้มีความสวยงามอย่างมากโดยเฉพาะช่วงเวลาเย็น
• เย็น รับประทานอาหาน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
• 19.30 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติอิสลามาบัด (Islamabad International Airport) เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพ
• 23.20 น. เดินทางสู่กรุงเทพด้วย สายการบินไทย TG 350

มัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque)

5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 วันที่ 9  : กรุงเทพ

• 06.25 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิอย่างสวัสดิภาพ