ทัวร์เปรู – ล่องเรือแม่น้ำแอมะซอน – ชิลี – เกาะอีสเตอร์ (Peru – Amazon – Chile – Easter Islands)

วันที่ 1 : กรุงเทพฯ (Bangkok) – อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam)

• 08.30 น. นัดหมายพบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาท์เตอร์สายการบิน KLM(Royal Dutch Airlines) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านในการเช็คอิน จัดการเอกสารและตรวจสัมภาระก่อนขึ้นเครื่อง
• 12.05 น. พร้อมแล้วออกเดินทางออกเดินทางสู่ กรุงอัมสเตอร์ดัม โดย สายการบิน KLM  เที่ยวบิน KL0876 ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับอาหารและสิ่งอํานวยความสะดวกบนเครื่องบิน ใช้ระยะเวลาบินประมาณ 11 ชั่วโมง 30 นาที
• 18.45 น. เดินทางถึง สนามบินสคิปโฮล (Schiphol International Airport) กรุงอัมเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้วเข้าสู่ที่พักบริเวณ Transit Hall **ใช้ Transit Visa ของประเทศเนเธอร์แลนด์
• ที่พัก Mercure Schiphol Terminal

สนามบิน Schiphol

วันที่ 2 : อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) – ลิมา (Lima)

• 10.00 น. เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม รอขึ้นเครื่องเพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อไปยังเมืองลิม่า
• 12.35 น. เดินทางสู่ เมืองลิม่า (Lima) โดย สายการบิน KLM เที่ยวบิน KL743 ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับอาหารและสิ่งอํานวยความสะดวกบนเครื่องบินตามอัธยาศัย ระยะเวลาบิน 12 ชั่วโมง 30 นาที
• 18.05 น. เดินทางถึง สนามบินฮอร์เฮ ชาเวส (Jorge Chavez International Airport) เมืองลิม่า ประเทศเปรู ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว เดินทางเข้าสู่ที่พัก
• ที่พัก  Costa del Sol Wyndham Lima Airport หรือเทียบเท่า*

เมืองลิม่า (Lima) ประเทศเปรู

วันที่ 3 : อิกิโตส (Iquitos) – ล่องเรือแม่น้ำแอมะซอน (Amazon River Cruise)

• 10.20 น. เดินทางสู่ สนามบินฮอร์เฮ ชาเวส(Jorge Chavez International Airport) เพื่อเดินทางต่อไปยัง เมืองอิกิโตส (Iquitos) โดยสายการบิน LATAM เที่ยวบิน LA2234 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมง 50 นาที
• 12.05 น. เดินทางถึง สนามบินอิกิโตส เซเฟ ฟรานซิสโก เซกาด้า บีคเน็ตตา (Iquitos CF Francisco Secada Vignetta Airport) จากนั้นเดินทางไปยังท่าเรือเตรียมตัวขึ้นเรือแล้วล่องไปตามแม่น้ำ Nanay และแม่น้ำ Momon เพื่อเข้าสู่ Irapay Amazon Lodge สัมผัสธรรมชาติความอุดมสมบูรณ์ของป่าอะเมซอน และบรรยากาศสองฝั่งริมน้ำ
• เข้าชม ฟาร์มสัตว์เลื้อยคลาน ที่รวบรวมสัตว์นานาชนิดที่สามารถพบได้ในระแวกป่าอะเมซอน อาทิ งูอนาคอนด้า งูโบอา  สลอธ  นกแก้วมาคอว์ นกเงือก ลิง และเต่า
• ชม เมืองอิกิโตส (Iquitos) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตป่าฝนของประเทศเปรู และใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศ  ที่รายล้อมด้วยแม่น้ำและป่าอะเมซอน  สามารถพบเห็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิผลมาจากชาติตะวันตก อาคารบ้านเรือนที่ทำจากโมเสก ระเบียงสไตล์ยุโรป
• ชม Iron House บ้านที่ภายในจัดแสดงเรื่องราวต่างๆของเมืองอิกิโตส ซึ่งออกแบบโดย Gustave Eiffel จากนั้น เข้าชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ตลาดพื้นเมืองริมน้ำให้ได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศตลาดท้องถิ่นและสามารถอุดหนุนงานหัตถกรรมของชาวบ้านได้ จนกระทั่งได้เวบาอันสมควร
• ที่พัก Aqua Expedition ประสบการณ์ห้องพักบนเรือสำราญที่จะลองไปตามแม่น้ำซึ่งสามารถชมวิวความสวยงามได้จากตัวห้องพัก

Aqua Expedition ประสบการณ์ห้องพักบนเรือสำราญ

วันที่ 4 : ล่องเรือแม่น้ำแอมะซอน (Amazon River Cruise)

• สนุกสนานไปกับ กิจกรรมการพายเรือคายัค และล่องเรือ ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพาคายา ซามิเรีย (Pacaya Samiria National Reserve) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่ใหญ่ที่สุดของเปรูที่มีพื้นที่มากถึง 20,800 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นป่าที่น้ำท่วมตลอดเวลาทำให้ต้องใช้เรือในการล่องไปตามแม่น้ำ Yanayacu Pucate ถึงแม่น้ำ Maranon พร้อมสัมผัสบรรยากาศสองข้างทางหมู่บ้านริมน้ำอย่างใกล้ชิดรวมไปถึงโลมาสีชมพูที่มาอวดโฉมรับนักท่องเที่ยว
• ที่พัก Aqua Expedition

Aqua Expedition ประสบการณ์ห้องพักบนเรือสำราญ

วันที่ 5-6 : ล่องเรือแม่น้ำแอมะซอน (Amazon River Cruise)

• เยี่ยมชมตลาดท้องถิ่นยามเช้าที่ Nauta Town บรรยากาศวัตถุดิบสดๆใหม่ๆจากชาวบ้านและชาวประมงไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ ท้องถิ่นหรือหายาก ก่อนกลับไปยังที่พักรับประทานเก็บของ จากนั้นเข้าชม ศูนย์ช่วยเหลือปลาพะยูน (Manatee Rescue Center) สำหรับพะยูนที่กำพร้า เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูและปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
• ชมความน่ารักของเหล่าพะยูน เรื่องราวเกี่ยวกับพะยูน จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร เยี่ยมชมตลาด San Juan ที่เต็มไปด้วยสินค้างานหัตถกรรมให้ได้เลือกชมเลือกอุดหนุน ก่อนเดินทางไปยังสนามบิน อเมซอนเพื่อช่วยเหลือ ฟื้นฟู และปล่อยพวกมันกลับคืนสู่ป่า เราจะไปเยี่ยมชมตลาดหัตถกรรมซานฮวนระหว่างทางไปสนามบิน
• 19.56 น. เดินทางสู่ สนามบินอิกิโตส เซเฟ เซกาด้า บีคเน็ตตา (Iquitos CF Francisco Secada Vignetta Airport) เพื่อเดินทางกลับไปยังเมืองลิม่าโดยสายการบิน LATAM เที่ยวบิน LA2247 19.56 – 21.43 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมง 50 นาที
• 21.43 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติฮอร์เฮ ชาเวส (Jorge Chavez International Airport)
• นำท่านเดินทางโรงแรมเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย
• ที่พัก  Costa del Sol Wyndham Lima Airport

Manatee Rescue Center

วันที่ 7 : ซาเครส วัลเล่ย์ (Sacred Valley)

• 09.10 น. เดินทางสู่ สนามบินฮอร์เฮ ชาเวส (Jorge Chavez International Airport) เพื่อเดินทางต่อไปยังเมือง กุสโก (Cusco) โดยสายการบิน LATAM ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
• 10.45 น. เดินทางถึง สนามบินอเลฮานโดร เวลาสโก อเตเต (Alejandro Velasco Astete Airport) เมืองกุสโก ประเทศเปรู
• ชมหุบเขาศักดิ์สิทธิ์ โดยจะผ่านหมู่บ้านชินเชโร(Chinchero), มาราซ(Maras), โมเรย์(Moray) และโอลานเทย์ทัมโบ(Ollantaytambo) เริ่มจาก หมู่บ้านชินเชโร (Chinchero) ที่เป็นหมู่บ้านที่สำคัญแห่งหนึ่งของชาวอินคา สามารถพบเห็นชาวพื้นเมืองแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าทอท้องถิ่นที่มีสีสันสดใส ที่ยังคงการทอแบบโบราณของชาวแอนดีสอยู่ สามารถอุดหนุนงานหัตถกรรมของชาวบ้านได้ตามอัธยาศัย
• เดินทางต่อไปยัง มาราซ (Maras) เหมืองเกลือที่เก่าแก่มีมาตั้งแต่สมัยอินคา ที่ได้ชื่อว่าเกลือที่ได้จากเหมืองนี้เป็นเกลือที่คุณภาพดีที่สุดในโลกซึ่งได้รับการยอมรับและใช้เป็นวัตถุดิบจากเชฟทั่วโลก จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร เดินทางต่อไปยัง โมเรย์ (Moray) นาขั้นบนไดรูปวงกลมขนาดใหญ่ที่ชาวอินคาทำไว้เพื่อทดลองปลูกพืชพันธุ์ต่างๆ และจากจุดนี้เองสามารถมองเห็น หมู่บ้านอูรุมบัมบา (Urubamba) ได้ด้วย
• เดินทางต่อไปสู่ หมู่บ้านโอลานเทย์ทัมโบ (Ollantaytambo) หมู่บ้านเดียวที่ปัจจุบันยังมีชาวอินคาอาศัยอยู่  ที่น่าสนใจคือ หมู่บ้านนี้มีการวางผังเมือง ปูถนนด้วยหินอีกทั้งโครงสร้างตึกซับซ้อน และยังมีชื่อเสียงในการทำนาขั้นบันไดและเป็นเมืองป้อมปราการที่ดี แถมยังเป็นศูนย์กลางทางศาสนา
• ที่พัก Casa Andina Valle Sagrado Hotel Villas

มาราซ  (Maras) เหมืองเกลือที่มีมาตั้งแต่สมัยอินคา

โมเรย์ (Moray) นาขั้นบนไดวงกลมขนาดใหญ่ที่ชาวอินคาทำไว้เพื่อทดลองปลุกพืชพันธุ์ต่างๆ

วันที่ 8 : มาชู ปิกชู (Machu Picchu)

• เดินทางสู่สถานีรถไฟโอลานเทย์ทัมโบ เพื่อเดินทางไปยัง หมู่บ้านอากวาซ คาลิอันเตส(Aguas Calientes) เพื่อเยี่ยมชมมาชูปิกชู *กรุณาเตรียมสัมภาระติดตัวไปได้ไม่เกิน 10 กิโลกรัม (กระเป๋าลาก Carry-on ไซส์ไม่เกิน 22 นื้ว) ส่วนกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่จะนำไปฝากไว้ที่โรงแรมที่กุสโก
• 09.15 น. เดินทางสู่ หมู่บ้านอากวาซ คาลิอันเตส(Aguas Calientes) ด้วยรถไฟขบวนที่ 13 (Vistadome train #31) ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
• 10.52 น. รถไฟถึงสถานี อากวาซ คาลิอันเตส (Aguas Calientes) จากนั้นเดินทางสู่ มาชูปิกชู(Machu Picchu) เมืองที่สาบสูญแห่งอาณาจักรอินคา หนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดระดับโลก ที่ระดับความสูง 2,400 เมตรจากระดับน้ำทะเลกับสถาปัตยกรรมโบราณของชาวอินคาซึ่งเพิ่งถูกค้นพบ โดยนักสํารวจชาวอเมริกันที่ชื่อว่า Hiram Bingham เมื่อปี 1911 จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก มาชูปิกชู ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมระดับโลกเนื่องจากการนำหินขนาดใหญ่มาสร้างเป็นบ้านเรือนและวิหารต่อขึ้นไปโดยที่ไม่มีการใช้ปูนหรือสลักในการเชื่อมต่อหินแต่ละก้อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนและวิหารเหล่านี้ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
• ที่พัก Belmond Sanctuary Lodge หรือเทียบเท่า*

รถไฟสู่มาชูปิกชู (Machu Picchu)

มาชูปิกชู (Machu Picchu)

มาชูปิกชู (Machu Picchu)

วันที่ 9 : มาชู ปิกชู (Machu Picchu)

• เดินทางไปยัง มาชูปิกชู (Machu Picchu) อีกครั้งเพื่อเดินขึ้น ฮวานน่าปิกชู (Huayna Picchu) หรือ “Young Mountain” ซึ่งด้านบนจะมี Temple of the Moon  ซึ่งเป็นจุดที่ท่านสามารถมองเห็นมาชูปิกชูได้ทั้งเมือง อิสระในการเดินชมมาชูปิกชูจากมุมอื่นๆโดยรอบ
• เดินทางกลับไปสถานีรถไฟอากวาซ คาลิอันเตส เพื่อขึ้นรถไฟสู่เมืองกุสโก ณ สถานีโปรอย (Poroy Station)
• 15.20 น. เดินทางสู่กุสโก (Cusco) ด้วยรถไฟขบวนที่ 34 (Vistadome train #34) ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 45 นาที
• 19.05 น. รถไฟถึงสถานีโปรอย(Poroy Station)
• ที่พัก Palacio del Inka, A Luxury Collection Hotel

ฮวานน่าปิกชู (Huayna Picchu)

ฮวานน่าปิกชู (Huayna Picchu)

วันที่ 10 : กุสโก (Cusco)

• ช่วงเช้ามีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกนำท่านไปออกวีซ่าโบลิเวีย จากนั้นช่วงบ่ายเยี่ยมชม เมืองคุสโกซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกของ UNESCO โดยจะเริ่มต้นที่ ตลาดซาน เปโดร (San Pedro) ตลาดท้องถิ่นที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับอาหารท้องถิ่น และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกุสโกแบบใกล้ชิด
• เข้าชม วิหาร Koricancha วิหารแห่งดวงอาทิตย์ของชาวอินคาซึ่งปัจจุบันกลายเป็นโบสถ์ที่สร้างทับวิหารเดิมในยุคล่าอาณานิคมของชาวยุโรป จนกระทั่งได้เวลาอันสมควรชมจัตุรัสกลางเมือง โบสถ์คุสโก ที่เป็นสิ่งก่อสร้างสำคัญทางศาสนาประจำเมือง
• ป้อมปราการ Sacsayhuaman สถาปัตยกรรมของชาวอินคา และ Kenko สถานที่สำหรับบูชาดวงอาทิตย์ดวงจันทร์และดวงดาว จากนั้นเดินต่อไปยัง Plaza de Armas จัตุรัสกลางเมืองที่เป็นศูนย์กลางของโบสถ์ที่สำคัญของเมืองกุสโก
• ที่พัก Palacio del Inka, A Luxury Collection Hotel  หรือเทียบเท่า*

Plaza de Armas จัตุรัสกลางเมืองที่เป็นศูนย์กลางของโบสถ์ที่สำคัญของเมืองกุสโก

คุสโกซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกของ UNESCO

วันที่ 11 : กุสโก (Cusco) – ซานติอาโก้ (Santiago)

• เดินทางไปยัง สนามบินอเลฮานโดร เวลาสโก อเตเต (Alejandro Velasco Astete Airport) เมืองกุสโก
• 13.35 น. ออกเดินทางไปยังเมืองซานติอาโก้ ประเทศชิลี โดยสายการบิน LATAM เที่ยวบิน LA2690 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที)
• 16.04 น. เดินทางถึง สนามบินอาร์ตูโร่ เมริโน เบนิเตซ(Arturo Merino Benítez Airport) เมืองกุสโก เมืองซานติอาโก้ ประเทศชิลี

มหาวิหารแห่งซานเตียโก (Cathedral of Santiago)

วันที่ 12 : ซานติอาโก้ (Santiago)

• ชมความยิ่งใหญ่ของ เมืองซานเตียโก (Santiago) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของ ประเทศชิลี ที่ระดับความสูง 520 เมตร ในหุบเขาตอนกลางของประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นซานเตียโกเมโทรโพลิแทน หรึ่งในเมืองที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในละตินอเมริกา ที่มีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง เช่น ซานเตียโกเมโทร (Santiago Metro) และระบบใหม่ “โกสตาเนรานอร์เต”  (Costanera Norte)” เป็นระบบขนส่งของย่านกลางกรุง เชื่อมระหว่างด้านตะวันออกสุดไปด้านตะวันตกสุดของเขตเมืองภายในเวลา 15 นาที
• ชม ย่านเบอร์นาโด โอ ฮิกกิ้น อเวนิว (Bernardo O Higgins Avenue) หรือที่ชาวชิลีรู้จักในนาม La Alameda ถนนสายหลักของเมืองซานเตียโก ซึ่งเป็นย่านเมืองเก่าที่ยังคงความคลาสสิคอันน่าหลงใหล แวะถ่ายรูปกับ ศาลาว่าการเมือง (Santiago city hall) ผ่านย่านจตุรัสพลาซ่า เดอะ อาร์ม(Plaza De Arm) เข้าชม มหาวิหารแห่งซานเตียโก (Cathedral of Santiago) เป็นมหาวิหารที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอคลาสสิค แวะถ่ายรูปด้านหน้าของพระราชวังโมนิดา (La Moneda Palace) หรือทำเนียบประธานาธิบดีของประเทศชิลีในปัจจุบัน ซึ่งใช้เป็นสถานที่ราชการของกระทรวงต่างๆของประเทศชิลี พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดย โจแอนควิน โทเอากา สถาปนิกชาวอิตาเลี่ยน แบบสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิค โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมและถ่ายรูปบริเวณลานด้านหน้าได้  เสาโรมันขนาดใหญ่บริเวณซุ้มประตู ความสวยงามและเก่าแก่ของพระราชวังแห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้ อีกด้วย
• ที่พัก Plaza San Francisco Hotel หรือเทียบเท่า*

Plaza de Armas, Santiago

วันที่ 13 : บัลปาราอีโซ (Valparaíso)

• เดินทางสู่ เมืองบัลปาราอีโซ (Valparaiso) เมืองท่าสำคัญที่สุดของประเทศชิลี ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของชิลี ที่ตั้งของสถานที่สำคัญๆทางราชการ เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 2007 ที่สะท้อนให้เห็นถึงช่วงยุคทองทางการค้าในสมัยศตวรรษที่ 19  ชมความสวยงามของบ้านเมืองสีสันสดใสตลอดแนวชายฝั่งทะเลที่ได้กลิ่นอายของสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล
• ออกเดินทางต่อสู่ เมืองวินนาเดลมา (Vina del Mar) เมืองแห่งสวน (City of Garden) เนื่องจากเมืองที่มีการออกแบบให้มีสวนหย่อมน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่วเกือบทุกเส้นถนน อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งสวนพฤษกศาตร์ของชิลี ที่สัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้นเบิกบานตลอดการมาเยือนเมืองนี้
• แวะถ่ายรูปกับสัญลักษณ์ของเมืองนาฬิกาดอกไม้ (Flower Clock)
• จากนั้นเดินทางไปยัง หุบเขาคูลาคาฟว์ (Curacavi Valley) ระหว่างทางสัมผัสกับทัศนียภาพของท้องทะเลสลับกับชายฝั่งภูเขาและเทือกเขาสูง
• เข้าชมไร่องุ่นตลอดแนวภูเขาและโรงบ่มไวน์ที่ Casablanca Valley อุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดและถือเป็นหนึ่งในรายได้หลักของประเทศชิลี พร้อมชิมไวน์หลากหลายประเภทที่สามารถซื้อเป็นของฝากกลับบ้านหรือจะลิ้มลองได้
• ได้เวลาอันสมควร เดินทางกลับเมืองซานเตียโก
• ที่พัก Plaza San Francisco Hotel หรือเทียบเท่า*

วันที่ 14 : เกาะอีสเตอร์ (Easter Islands)

• เดินทางไปยัง สนามบินซานเตียโก (Santiago de Compostela Airport) เพื่อเตรียมตัวบินไปยังเกาะอีสเตอร์
• 09.25 น. ออกเดินทางสู่เกาะอีสเตอร์ โดยสายการบิน LATAM Airlines เที่ยวบิน LA 841 ใช้เวลาบินประมาณ 5.35 ชั่วโมง
• 13.00 น. เดินทางถึง สนามบิน อีสลา เดอ ปาชัวร์ เกาะอีสเตอร์ ประเทศชิลี หนึ่งในเกาะเล็กๆที่มีพื้นที่เพียง 160 ตารางกิโลเมตร ยาวเพียง 25  กิโลเมตร
• เดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติลาปานุย (Rapa Nui) ทว่าเกาะขนาดเล็กแห่งนี้กลับมีเรื่องราวที่น่าสนใจโดยเฉพาะ รูปปั้นหินหน้าคนขนาดใหญ่ หรือที่เรียกกันว่า โมอาย (Moai) สัญลักษณ์ของเกาะ ที่สร้างขึ้นจากหินและแร่บะซอลต์ รวมไปถึงแร่จากกากภูเขาไฟ ที่มีอายุนับพันๆปีที่มีมากกว่า 600 ตัว กระจายอยู่ทั่วเกาะอีสเตอร์จากความโดดเด่นนี้เองที่ทำให้เกาะอีสเตอร์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในปี 1995
• แวะถ่ายรูปกับ อาฮู อากิวี (Ahu Akivi) หรือโมอายที่ตั้งเรียงกันอยู่ 7 ตัว โมอายนี้สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ โฮตู มาตูอา (King Hotu Matua) ในอิสระในการเดินชมทัศนียภาพดดยรอบ
• ได้เวลาอันสมควรก่อนเยี่ยมชม ปูนาเปา (Puna Pau Quarry) สถานที่ที่เชื่อว่าเป็นที่ทำหมวกของโมอาย
• ที่พัก Taha Tai Hotel หรือเทียบเท่า*

Moai of Ahu Huri a Urenga site, Easter Island

Anakena and its 7 moais of Ahu Nau Nau

วันที่ 15 : เกาะอีสเตอร์ (Easter Islands)

• เที่ยวชมทุ่งโมอายทางตอนใต้ของเกาะอีสเตอร์ ที่ เหมืองหิน ราโน ราราคู (Rano Raraku) เหมืองหินเก่าแก่ที่มีการพบโมอายมากกว่า 400 ตัวที่ค่อนข้างสมบูรณ์ โดยโมอายเกือบทั้งหมดอยู่ในสภาพล้มนอนซึ่งปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดเกี่ยวกับเรื่องราวของเกาะแห่งนี้
• ให้ท่านเดินชมและถ่ายภาพกับทุ่งโมอายหลายร้อยตัว โดยเที่ยงวันนี้จะเป็นการรับประทานอาหารแบบกล่องหรือปิกนิค เพื่อความสะดวกเนื่องจากบนเกาะแห่งนี้ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าที่ควร
• หลังจากนั้นช่วงบ่ายเดินทางสู่ปากปล่องภูเขาไฟ เพื่อถ่ายรูปกับโมอายที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดบนเกาะอีสเตอร์ โมอาย อาฮูตองการิกิ (Ahu Tongariki) รวมถึง โมอาย Ahus Nau Nau, โมอาย Ature Huke และ โมอาย Pukau ที่มีหมวกลักษณะเป็นชิ้นๆหลายๆก้อน ซึ่งปกติมักเป็นหินก้อนเดียว
• ที่พัก Taha Tai Hotel หรือเทียบเท่า*

เหมืองหิน ราโน ราราคู (Rano Raraku)

Ahu Tongariki, Rapa Nui (Easter Island), Chile

วันที่ 16 : เกาะอีสเตอร์ (Easter Islands) – ซานติอาโก้ (Santiago)

• ชมความสวยงามของปากปล่อง ภูเขาไฟราโนเกา (Rano Kau Volcano) จากจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นปากปล่องภูเขาไฟลักษณะคล้ายแอ่งขนาดใหญ่สวยงามแปลกตา
• เดินทางไปยัง หมู่บ้านโอรองโก (Orongo Ceremonial Village) และเกาะนก ซึ่งหมู่บ้านนี้มีประเพณีในการเลือกหัวหน้าเผ่าของชาวลาปานุย  ที่น่าสนใจและท้าทายอย่างมาก นั่นคือการที่ชายหนุ่มผุ้เข้าร่วมจะต้องกระโดดลงหน้าผา และว่ายน้ำไปยังเกาะนกเพื่อเอาไข่นกแล้วว่ายน้ำกลับมายังเกาะอีสเตอร์ จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร ช่วงบ่ายเดินทางสู่สนาบินเพื่อเตรียมตัวกลับเมือวซานเตียโก
• 15.00 น. เดินทางสู่เมืองซานเตียโก โดย สายการบิน LATAM Airlines เที่ยวบินที่ LA842
• 21.45 น. เดินทางถึงสนามบินซานเตียโก ประเทศชิลี เข้าสู่โรงแรมที่พัก
• ที่พัก Plaza San Francisco Hotel หรือเทียบเท่า*

Orongo Stone Ruins – Easter Island

ภูเขาไฟราโนเกา (Rano KAu Volcano)

วันที่ 17 : ซานติอาโก้ (Santiago) – ปารีส (Paris)

• สัมผัสบรรยากาศที่คุณอาจจะไม่เคยเจอมาก่อนในประเทศชิลี ย่านที่ได้ชื่อว่าเป็นย่านโบฮีเมียนของชิลี นั่นคือ ย่านบาริโอ เบลล่า วิสต้า (Barrio Bellavista) เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำมาโปโค (Mapocho River) และ เนินเขา ซาน คริสโตบอล(San Cristobal Hill) เมืองนี้ถือว่ามีความครึกครื้นเต็มไปด้วย ร้านค้า คาเฟ่ ร้านอาหาร อาคารบ้านเรือนที่มีสีสันสดใส จากการทาสีหรือวาดโดยศิลปิน
• เดินเล่นชมเมืองริมแม่น้ำผ่านเรื่องราวและผลงานของศิลปินและจิตกรท้องถิ่น จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
• ช่วงบ่ายให้อิสระในการเดินช้อปปิ้งที่ อะรูโค พาร์ค (Aruco Park) แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่ถือได้ว่าขนาดใหญ่เป็น 1 ใน 3 ของประเทศที่เต็มไปด้วยร้านค้า สินค้า ช้อปแบรนด์เนม สินค้าพื้นเมือง โรงภาพยนตร์ ลานไอซ์สเกต หรือกิจกรรมอื่นๆ ครบครัน จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
• 11.30 น. เดินทางสู่ สนามบินอาร์ตูโร่ เมริโน เบนิเตซ (Arturo Merino Benítez Airport) เมืองกุสโก เมืองซานติอาโก้
• 14.55 น. เดินทางไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดย สายการบิน Air France เที่ยวบินที่ KL 2259 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 13 ชั่วโมง 45 นาที

เมืองซานเตียโก (Santiago)

วันที่ 18 : ปารีส (Paris) – อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) – กรุงเทพ

• 10.55 น. เดินทางถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แวะพักเปลี่ยนเครื่อง 1 ชั่วโมง 25 นาที
• 12.20 น. ออกเดินทางต่อสู่กรุงอัมสเตอร์ดัม โดยสายการบิน Air France เที่ยวบินที่ KL 2012 ใช้เวลาบินประมาณ  1 ชั่วโมง 20 นาที
• 13.45 น. เดินทางถึงกรุงอัมสเตอร์ดัม แวะพักเปลี่ยนเครื่อง 3 ชั่วโมง 45 นาที
• 17.30 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน KLM เที่ยวบินที่ KL0875

วันที่ 19 : กรุงเทพฯ

• 09.30 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับไม่รู้ลืม