ทัวร์แอฟริกาใต้ – นามิเบีย

 นามิเบีย ชมชายฝั่งทะเลแอตแลนติกตะวันออก เนินทรายสีแดงและ แอฟริกาใต้ รอยต่อของสอง

มหาสุทรแอตแลนติกกับมหาสมุทรอินเดียที่แหลมกู๊ดโฮป

ทัวร์ แอฟริกาใต้ – นามิเบีย ประจำปี พ.ศ. 2566

วันที่ 1 : เริ่มต้นการเดินทาง ทัวร์ แอฟริกาใต้ – นามิเบีย กรุงเทพ – โดฮา (Doha)

• 20.40 น. ออกเดินทางสู่กรุงโดฮา (Doha) ประเทศกาต้าร์ สายการบิน Qatar airways QR833
• 23.50 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติ Hamad กรุงโดฮา (Doha)

วันที่ 2 : โดฮา (Doha) – วินด์ฮุก (Windhoek)

• 02.00 น ออกเดินทางสู่ เมืองวินด์ฮุก (Windhoek) เมืองหลวงของประเทศนามิเบีย สายการบิน Qatar airways QR1373
• 10.40 น เดินทางถึง สนามบินนานาชาติโฮเซอาคูทาโก (Hosea Kutako International Airport) นําท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นได้เวลานําท่านเดินทางสู่เมืองวินด์ฮุก (Windhoek) ระยะทาง 45 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
• เมืองวินด์ฮุก (Windhoek) เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใจกลางประเทศนามิเบีย มีร้านอาหาร ร้านค้าและสถานที่บันเทิง เป็นเมืองที่สะอาด ปลอดภัย และมีโครงสร้างเมืองที่เป็นระเบียบอันเนื่องมาจากสมัยยุคล่าอาณานิคมของเยอรมัน ที่ปัจจุยันยังเห็นอิทธิพลได้ตามร้านอาหาร ร้านค้าและการใช้ภาษาเยอรมันอย่างแพร่หลาย
• ที่พัก โรงแรม Hilton Windhoek หรือเทียบเท่า

เมืองวินด์ฮุก (Windhoek)

วันที่ 3 : วินด์ฮุก (Windhoek) – สปิทซ์คอปป์ (Spitzkoppe) ระยะทาง 280 กิโลเมตร

• เช้า รับประทานอาหาร ที่ห้องอาหารของโรงแรม
• เมืองวินด์ฮุก (Windhoek) เป็นเมืองที่สะอาด ปลอดภัย และมีโครงสร้างเมืองที่เป็นระเบียบอันเนื่องมาจากสมัยยุคล่าอาณานิคมของเยอรมัน ที่ปัจจุยันยังเห็นอิทธิพลได้ตามร้านอาหาร ร้านค้าและการใช้ภาษาเยอรมันอย่างแพร่หลาย นำท่านชมตามสถานที่สำคัญต่างๆจากบนรถ
• หลังจากนั้นเราจะเดินทางไกลขึ้นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยระยะทาง 280 กิโลเมตร สู่ ทะเลทรายนามิบ (Namib Desert) ที่เมือง สปิทซ์คอปป์ (Spitzkoppe) ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 3.5 ชั่วโมง
• สปิทซ์คอปป์ (Spitzkoppe) ตั้งอยู่ในทะเลทรายนามิเบียที่งดงาม ได้ชื่อว่าเป็น Matterhorn แห่งนามิเบีย สถานที่แห่งนี้มีรูปร่างหินที่น่าสนใจเป็นยอดหินแกรนิตหัวล้าน โดยหินแกรนิตมีอายุมากกว่า 120 ล้านปี หินเหล่านี้ถือว่าเป็นสวรรค์สำหรับนักปีนเขา
• นำท่านสำรวจ รูปแกะสลักของ bushmen และเดินชมบริเวณโดยรอบของภูเขา สปิทซ์คอปป์ (Spitzkoppe)
  • Natural Arch หนึ่งในไฮไลท์ของที่นี่คือ หินโค้งธรรมชาติ ที่เป็นภาพติดโปสการ์ดไปทั่วโลกของนามิเบีย
  • Groot Spitzkoppe หรือที่ได้ชื่อว่าเป็น Matterhorn แห่งประเทศนามิเบีย สถานที่แห่งนี้มีรูปร่างหินที่น่าสนใจเป็นยอดหินแกรนิตหัวล้าน โดยหินแกรนิตมีอายุมากกว่า 120 ล้านปี หินเหล่านี้ถือว่าเป็นสวรรค์สำหรับนักปีนเขา
  • สำรวจมุมถ่ายรูปต่างๆที่มีความแปลกประหลาด พบปะสัตว์โลกประจำถิ่นเช่น Oryx
• ที่พัก โรงแรม Spitzkoppe Lodge หรือเทียบเท่า
• ตอนกลางคืนท้องฟ้าในที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยดวงดาวเต็มท้องฟ้า ถ้าท่านสนใจสามารถเดินชมบริเวณที่พักในยามค่ำคืนได้เช่นกัน

Matterhorn แห่งนามิเบีย

Groot Spitzkoppe หรือที่ได้ชื่อว่าเป็น Matterhorn แห่งประเทศนามิเบีย

Natural Arch หนึ่งในไฮไลท์ของที่นี่คือ หินโค้งธรรมชาติ

Groot Spitzkoppe หรือที่ได้ชื่อว่าเป็น Matterhorn แห่งประเทศนามิเบีย

วันที่ 4 : สปิทซ์คอปป์ Spitzkoppe – สวาคอปมุนต์ (Swakopmund)

• เช้า รับประทานอาหาร ที่ห้องอาหารของโรงแรม
• ชม อาณานิคมของแมวน้ำเคปเฟอร์ซีล (Cape Fur Seal) หรือ แมวน้ำแอฟริกาที่เคปครอส (Cape Cross) ในบางช่วงเวลามีแมวน้ำจำนวนถึง 80,000-100,000 ตัว
• จากนั้นเดินทางต่อไปยัง เมืองสวาคอปมุนต์ (Swakopmund) ระยะทาง 152 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นเมืองชายทะเลที่มีสถาปัตยกรรมแบบยุคอาณานิคมแบบเยอรมัน ตั้งอยู่ในทะเลทรายนามิบที่ล้อมรอบไปด้วยภูมิประเทศที่แห้งแล้ง เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2435 เป็นท่าเรือหลักของเยอรมันตะวันตกเฉียงใต้ของแอฟริกา เป็นเมืองที่มีบรรยากาศสบายๆ มีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย
• เมืองที่อยู่ริมมหาสมุทรแอดแลนติกและอีกฝั่งเป็นทะเลทรายแห้งแล้ง เมืองนี้มีประชากรที่เป็นคน ผิวขาวเชื้อสายเยอรมันอยู่จำนวนมากที่อยู่ปะปนกับคนพื้นเมืองทำให้เมืองแห่งนี้มีสีสันและน่าเที่ยว ให้ท่านได้ชมอาคาร บ้านเรือนที่สวยงามแบบเยอรมัน ผ่านชมที่ว่าการประจำเมือง ย่านช้อปปิ้ง หรือแวะท่าเรือ ชมหาดทรายที่สวยงามเป็นแหล่งพักผ่อนของชาวเมืองนี้
• ที่พัก โรงแรม The Beach Lodge หรือเทียบเท่า

อาณานิคมของแมวน้ำเคปเฟอร์ซีล (Cape Fur Seal)

แมวน้ำแอฟริกาที่เคปครอส (Cape Cross)

แมวน้ำแอฟริกาที่เคปครอส (Cape Cross)

วันที่ 5 : สวาคอปมุนต์ (Swakopmund)

• เช้า รับประทานอาหาร ที่ห้องอาหารของโรงแรม
• กิจกรรมเสริม!! เครื่องบินเล็ก (Scenic Flight) เพื่อชมวิวบรรยากาศของประเทศนามิเบียจากบนฟ้า ไม่ว่าจะเป็น ทะเลทรายนามิบ (Namib Desert) ชายฝั่งซากเรือ (Skeleton Coast) ดินแดนแห่งดามารา (Damaraland) ให้ท่านได้ชมทัศนียภาพที่สวยที่สุดของโลก กิจกรรมนี้ใช้ระยะเวลาประมาณ 2.5 ชั่วโมง (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 4,500 NAD หรือประมาณ 9,000 บาท ต่อท่าน สำหรับกลุ่ม 7 ท่าน)
• เดินทางสู่ อ่าววาลวิส (Walvis Bay) เพื่อล่องเรือชมแมวน้ำ เรือจะนำเราออกจากชายฝั่งให้ท่านได้ชมวิวทะเลทรายที่มองจากมุมในทะเล พร้อมนกพีลิแกนตัวใหญ่บินโฉบไปมาบนเรือเพื่อขออาหารกินกับนักท่องเที่ยวเพราะเจ้าหน้าที่จะให้อาหารเป็นประจำ นกพีลิแกนจึงคุ้นเคยกับคนและใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวบนเรือ ทำให้สามารถถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนั้นตื่นตาตื่นใจกับแมวน้ำนับพันตัวบนเกาะและชายหาดยาวหลายร้อยกิโลเมตร มองระยะไกลเหมือนก้อนหินขนาดเล็กแต่พอเรือเข้าใกล้มันคือแมวน้ำนับพันตัวอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ ให้ท่านได้ถ่ายรูปอย่างใกล้ชิด ก่อนเรือจะออกมาอีกด้านให้ท่านได้แวะชมฟาร์มหอยนางรมระหว่างเดินทางกลับ บริการอาหาร รวมถึงของว่าง ให้ท่านจะได้ใกล้ชิดกับแมวน้ำที่ว่ายน้ำริมขอบเรือหรือกระโดดขึ้นมาบนเรือเพื่อขออาหารและให้ท่านได้ตื่นเต้นในการถ่ายรูปอย่างใกล้ชิด
• นำท่านสู่ อ่าวแซนวิช (Sandwich Harbour) เนินทรายขนาดใหญ่ที่ก่อตัวกลายสภาพดูเหมือนภูเขาที่ตั้งอยู่ริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติค หนึ่งในความมหัศจรรย์ของที่นี่ นำท่านขับรถ 4WD ตะลุยไปบนเนินทรายอันมโหฬารแห่งนี้
• ที่พัก โรงแรม The Beach Lodge หรือเทียบเท่า

อ่าววาลวิส (Walvis Bay)

นกฟลามิงโก (Flamingo)

อ่าวแซนวิช (Sandwich Harbour)

อ่าวแซนวิช (Sandwich Harbour)

วันที่ 6 : สวาคอปมนุต์ (Swakopmund) – ซอสซุสเฟลย์ (Sossusvlei)

• เช้า รับประทานอาหาร ที่ห้องอาหารของโรงแรม
• ออกเดินทางออกจากเมืองสวาคอปมุนต์ (Swakopmund) มุ่งหน้าลงไปทางทิศใต้ ผ่าน ช่องเขา Kuiseb Pass อันจะเป็นการเข้าสู่เขตทะเลทรายสีแดงของประเทศ ด้วยระยะทาง 343 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.5 ชั่วโมง
• อุทยานแห่งชาตินามิบ-น็อคลัฟท์ (Namib-Naukluft National Park) เป็นที่ที่จะได้พบกับเนินทรายสีแดงอันเป็นสัญลักษณ์ของนามิเบีย และยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าทะเลทรายหลากหลายชนิด เช่น ออริกซ์ สปริงบ็อก นกกระจอกเทศ และสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ
• นำท่านสู่ เขตอุทยานแห่งชาติซอสซุสไฟล์ (Sossusvlei) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำ ภาพยนตร์ และโฆษณาหลายร้อยเรื่องซอสซุสไฟล์ ถือว่าเป็นเนินทรายที่งดงามที่สุด สูงที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่ถึง 32,000 ตารางกิโลเมตร
• ชมพระอาทิตย์ตก (Sundowner) ณ ทะเลทรายแห่งนี้
• ที่พัก โรงแรม Desert Homestead หรือเทียบเท่า

อุทยานแห่งชาตินามิบ-น็อคลัฟท์ (Namib-Naukluft National Park)

เขตอุทยานแห่งชาติซอสซุสไฟล์ (Sossusvlei)

วันที่ 7 : ซอสซุสเฟลย์ (Sossusvlei)

• เช้า รับประทานอาหาร ที่ห้องอาหารของโรงแรม
• วันนี้จะออกกันแต่เช้ามืดเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลทราย แสงแดดอ่อนๆ ตกกระทบลงมายังเนินทรายเพียงด้านเดียว ก่อให้เกิดภาพที่สวยงาม ทะเลทรายนามิบเป็นหนึ่งในทะเลทรายที่เก่าแก่ที่สุดของโลก คาดว่ามีอายุอย่างน้อย 55 ล้านปี ทรายที่นี่พิเศษตรงที่มีสีแดงเพราะธาตุเหล็กที่อยู่ในทรายมากระทบกับออกซิเจน สีของทรายยังบอกถึงอายุได้ด้วย ยิ่งสีเข้มแสดงว่าอายุมากแล้ว
• นำท่านชมทะเลทรายที่สวยงามบริเวณ ซอสซุสเฟลย์ (Sossusvlei) ซึ่งได้ชื่อว่าสวยสุดยอดของ ทะเลทรายนามิบ (Namib Desert)
• เนินที่ 45 (Dune 45) ตั้งอยู่ในหลักกิโลเมตรที่ 45 นับจากประตูทางเข้าอุทยาน เป็นเนินทรายขนาดใหญ่สูงกว่า 150 เมตร เนินทรายนี้มีชื่อเสียงเรื่องรูปร่างสง่างามซึ่ง เป็นเนินทรายที่มีคนถ่ายภาพมากที่สุดในโลก สามารถเดินขึ้นบนยอดเนินทราย Dune 45 เพื่อมองเนินทรายสีแดงขนาดใหญ่โดยรอบ 360 องศา
• Dead Vlei เป็นแอ่งโคลนแห้งสีขาวที่แห้งแตกระแหง ถูกโอบล้อมด้วยเนินทรายสีแดงสูง เมื่อก่อนบริเวณนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำทำให้ต้นไม้เลยมีขนาดสูงใหญ่ อย่างเช่นต้น Camel Thorn จนกระทั่งทะเลทรายถูกพัดเข้ามาเลยเเห้งเเล้ง ต้นไม้ไม่มีน้ำเพียงพอที่จะเอาชีวิตรอด ในที่สุดต้นไม้ตายกันหมด เหลือเพียงลำต้นที่ตั้งตระหง่านแต่ไร้ชีวิต
• แคนยอนเซสเรียม (Sesriem Canyon) หุบเขาลึกที่มีความยาวกว่า 1 กิโลเมตรและลึก 30 เมตร เกิดจากขึ้นจากแรงลม พายุทรายและน้ำที่ไหลกัดเซาะ สามารถเดินไปสำรวจภายในหุบเขาที่ล้อมด้วยกำเเพงหินสูงได้เช่นกัน
• ที่พัก โรงแรม Desert Homestead หรือเทียบเท่า

Dead Vlei

เนิน 45 (Dune 45)

วันที่ 8 : ซอสซุสเฟลย์ (Sossusvlei) – เมืองวินด์ฮุก (Windhoek)

• เช้า รับประทานอาหาร ที่ห้องอาหารของโรงแรม
• ช่วงเช้า ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัยภายในแคมป์ที่พัก
• สายๆ หลังจากนั้นออกเดินทางกลับเข้าสู่ เมืองวินด์ฮุก (Windhoek) เมืองหลวงของประเทศนามิเบียอีกครั้ง ระยะทาง 330 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง
• บ่าย เดินทางถึงเมือง เมืองวินด์ฮุก (Windhoek) 
• ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย
• ที่พัก โรงแรม Hilton Windhoek

วันที่ 9 : วินด์ฮุก (Windhoek) – เคปทาวน์ (Cape Town)

• เช้า รับประทานอาหาร ที่ห้องอาหารของโรงแรม
• สายๆ เช็คเอาท์ออกจากที่พัก
• 11.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติโฮเซอาคูทาโก (Hosea Kutako International Airport)
• อาหารเที่ยง (เป็น Lunch box รับประทานภายในสนามบิน)
• 13.40 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเคป ทาวน์ (Cape Town) เมืองหลวงของประเทศ แอฟริกาใต้ โดยสายการบิน Airlink 327
• 15.50 น. เดินทางถึงสนามบินเมืองเคป ทาวน์ (Cape Town) นําท่านผ่านพิธีการตรวจ คนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นได้เวลานําท่านเดินทางสู่เมืองเคปทาวน์ (Cape Town)
• เมืองเคป ทาวน์ (Cape Town) ตั้งอยู่ในแหลมทางใต้สุดของประเทศแอฟริกาใต้ เป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศ และยังมีแหลมต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดีคือแหลมกู๊ดโฮป (Good Hope) ซึ่งตั้งอยู่ปลายใต้สุดของทวีปแอฟริกา เป็นจุดที่มหาสมุทรแอตแลนติคและมหาสมุทรอินเดียมาบรรจบกันจึงทำให้มีอากาศแปรปรวน และบริเณเมืองริมฝั่งทะเลของเคปทาวน์นี้ เป็นเส้นทางที่น่าเที่ยวที่สุดและมีวิวทิวทัศน์ที่งดงามน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก
• ที่พัก โรงแรม DoubleTree by Hilton Cape Town Upper East side

วันที่ 10 : เคปทาวน์ (Cape Town)

• เช้า รับประทานอาหาร ที่ห้องอาหารของโรงแรม
• เดินทางสู่ ชายหาดโบลเดอร์ (Boulder Beach) ชมอาณาจักรของเพนกวินพันธุ์แอฟริกัน ที่มีอยู่อย่างมากมายและสีสันที่เราคุ้นตา ด้วยขนาดตัวสูงเกือบหนึ่งเมตร โดยตัวผู้จะมีสีสันมากกว่าตัวเมีย
• ชม แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) อยู่ในเขตสงวนธรรมชาติ Cape of Good Hope National Reserve ปลายสุดแหลมมีประภาคารขนาดใหญ่จะเห็นรอยตะเข็บที่มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแอตแลนติกมาบรรจบกันได้ชัดเจนบนผิวน้ำ
• จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เทเบิ้ลเม้าท์เท่น (Table Mountain) หรือภูเขาโต๊ะ
• นำท่าน นั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ เทเบิ้ลเม้าท์เท่น (Table Mountain) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ หนึ่งในมรดกโลกซึ่งรับรองโดยองค์การยูเนสโก้เมื่อปี ค.ศ.2000 เป็นภูเขาสูงยอดตัดตรงเหมือนกับโต๊ะ
• นำท่านถ่ายรูปกับ ไลอ้อนเฮด (Lion head) ภูเขาที่มองดูแล้วใครๆ ก็ต้องพูดว่าคล้ายหัวสิงโตในเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าภูเขาลูกนี้จะมีสีแดงสวยงามยิ่งนัก
• ที่พัก โรงแรม Double Tree by Hilton Cape Town Upper East side

ชายหาดโบลเดอร์ (Boulder Beach)

แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope)

แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope)

นั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ เทเบิ้ลเม้าท์เท่น (Table Mountain)

วันที่ 11 : เคปทาวน์ (Cape Town)

• เช้า รับประทานอาหาร ที่ห้องอาหารของโรงแรม
• ชม สวนพฤกษ์ศาสตร์ Kirstenbosch National Botanical Garden ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่เชิงภูเขาหินขนาดใหญ่ (Table mountain stone) จุดเด่นที่ประทับใจในสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้คือ พื้นที่สีเขียวที่มีฉากหลังเป็นภูเขา Table Mountain บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์ไม้ของที่นี่ได้อย่างดี ที่นี่มี Canopy walk ทางเดินช่วงสั้นๆเอาไว้เดินทอดตัวยาวเข้าไปหาภูเขา Table Mountain
• ชม ระเบียงริมน้ำวีแอนด์เอ (Victoria & Alfred Waterfront) ท่าเรือที่มีอายุเก่าแก่กว่า 140 ปี ชมความงามของสถาปัตยกรรมอันงดงาม และพบกับร้านค้าต่างๆ มากมายกว่า 250 ร้านค้า ให้ท่านเลือกซื้อสินค้าต่างๆ มากมาย อาทิ สินค้าหัตถกรรม และสินค้าพื้นเมืองมากมาย และแหล่งรวมร้านอาหารชั้นนำ และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวดังของสถานที่ต่างๆ เช่น อควาเรี่ยมโลกใต้ทะเลสองมหาสมทุรหรือพิพิธภัณฑ์ทางทะเลแห่งแอฟริกาใต้ หรือชมประวัติความเป็นมาของเรือต่างๆ มากมายที่เดินทางมายังบริเวณแหลมกู้ดโฮป และหอนาฬิกาที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงประธานาธิบดีเนลสันแบนเดล่า
• ที่พัก โรงแรม Double Tree by Hilton Cape Town Upper East side

เคปทาวน์ (Cape Town)

ระเบียงริมน้ำวีแอนด์เอ (Victoria & Alfred Waterfront)

วันที่ 12 : เคปทาวน์ (Cape Town)

• 9.00 น. เดินทางไปยังสนามบินเมืองเคปทาวน์ (Cape Town International Airport)
• 12.35 น ออกเดินทางสู่กรุงโดฮา (Doha) ประเทศกาต้าร์ สายการบิน Qatar airways QR1370
• 23.50 น เดินทางถึงสนามบินนานาชาติ Hamad กรุงโดฮา (Doha)

วันที่ 13 : กรุงเทพ

• 01.45 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพ ประเทศไทย สายการบิน Qatar airways QR1373
• 12.30 น. เดินทางกลับถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ