ทัวร์รถไฟทรานส์มองโกเลีย ฤดูใบไม้ร่วง (Trans-Mongolian Railway Autumn)

ทัวร์รถไฟทรานส์มองโกเลีย ขบวนรถไฟที่คลาสสิคที่สุดของมวลหมู่นักเดินทาง 3 ดินแดนใน 3 ประเทศคือ จีน มองโกเลีย และ รัสเซีย

ช่วงเวลาเดินทาง ทัวร์รถไฟทรานส์มองโกเลีย ฤดูใบไม้ร่วง ประจำปี พ.ศ. 2566

6 – 22 กันยายน พ.ศ. 2566 (รอคอนเฟิร์มวันอีกครั้ง ทางการจีนยังไม่เปิดทำการรถไฟขบวน K23)

ทัวร์ ทรานส์มองโกเลีย ฤดูใบไม้ร่วง

วันที่ 1 : เดินทางสู่ปักกิ่ง

• 07:00 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิพบที่เคาท์เตอร์สายการบินไทย
• 10.10 น. เดินทางสู่ เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน โดย สายการบินไทย TG 614
• 15.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง นําท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รับ กระเป๋า และขึ้นรถบัสเพื่อออกเดินทางชมเมืองปักกิ่ง
• 18.00 น. รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารจีน
• ที่พัก โรงแรม Holiday Inn Temple of Heaven (หรือเทียบเท่า)

วันที่ 2 : กำแพงเมืองจีน – วัดลามะ

• มุ่งหน้าสู่ “กำแพงเมืองจีนด่านมู่เทียนอยู้” (慕田峪长城 / Mutianyu The Great Wall) หนึ่งในกำแพงที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูง แต่เนื่องจากเป็นกำแพงที่ได้รับการซ่อมแซมจนมีสภาพสมบูรณ์ที่สุด จึงเป็นกำแพงเมืองที่สามารถเดินขึ้นไปเที่ยวชมได้โดยไม่ลำบากนัก อีกทั้งสามารถเก็บภาพบรรยากาศของธรรมชาติที่สวยงามของภูเขาด้านเหนือของเมืองปักกิ่งที่เดินทางผ่านเวลาและประวัติศาสตร์มานับพันปี
• พิเศษสุด นำท่านเดินทางขึ้นลงกระเช้า (Cable Car) ชมวิวกำแพงจากมุมสูง
  แวะรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหารจีน หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่กรุงปักกิ่ง
• ชม วัดลามะ (Yonghe Lamasery) วัดแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นโบราณสถานที่ผสมผสานวัฒนธรรมทั้ง 4 สายหลักของจีน ได้แก่ ฮั่น มองโกล แมนจู และธิเบตอย่างลงตัว
• ที่พัก โรงแรม Hotel Holiday Inn Temple of Heaven (หรือเทียบเท่า)

วันที่ 3 : เดินทางสู่มองโกเลีย

• 05:30 น. เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม ขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางไป สถานีรถไฟ Beijing Railway Station
• 07:27 น. ออกเดินทางจาก ปักกิ่ง สู่ อูลานบาร์ตอร์ ด้วย รถไฟ K23 ซึ่งเป็นรถไฟสายทรานมองโกเลีย ระหว่างทางรถไฟขบวนนี้จะวิ่งผ่านอุโมงค์ที่เจาะทะลุภูเขานับหลายสิบแห่ง ผ่านโตรกผาขนาดใหญ่จำนวนมาก สร้างความตื่นเต้นให้ท่านได้ตลอดการเดินทาง อีกทั้งท่านจะยังมีโอกาสได้มองกำแพงเมืองจีนผ่านทางหน้าต่างรถไฟอีกด้วย
• 13:30 น. พักผ่อนตามอัธยาศัย ท่านจะได้ชมทิวทัศน์สองข้างทางของ เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน (Inner Mongolia) ซึ่งเป็นพื้นที่ของทะเลทรายโกบีในฝั่งแผ่นดินจีน ได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านตลอดสองข้างทาง
• 21:00 น. เดินทางมาจนถึงชายแดนจีน-มองโกเลียที่ เมือง Erlian จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าออกเมืองของ จีน ขึ้นมาตรวจพาสปอร์ต และกระเป๋าของทุกๆคนบนรถไฟ

ตู้เสบียงรถไฟของฝั่งมองโกเลีย

วันที่ 4 : อูลานบาตอร์ (Ulan Bator)

• 00:30 น. เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของมองโกเลีย
• ในช่วงเช้าจนถึงเที่ยงระหว่างทางในช่วงนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในช่วงวิวทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของทางรถไฟสายนี้ ท่านจะได้พบกับทุ่งหญ้าสีเขียวหรือสีทองหรือปกคลุมไปด้วยหิมะ ขึ้นอยู่กับฤดูกาลที่ท่านเดินทางมา พบกับชาวมองโกลที่อยู่บนหลังอานม้าท่องไปทั่วพื้นที่บริเวณ ทอดสายตามองมวลหมู่เกอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของชาวมองโกลตลอดสองข้างทาง
• 14:35 น. เดินทางถึง สถานีรถไฟอูลานบาร์ตอร์ (Ulan Bator)
• ชมความเป็นไปของเมืองหลวงแห่งประเทศมองโกเลียแห่งนี้ นำท่านชม จัตุรัสซุกบาทาร์ (Sukhbaatar square) ที่เป็นลานกล้างขนาดใหญ่ ตรงกลางเป็นอนุสาวรีย์ของซุกบาทาร์ วีรบุรุษของชนชาติมองโกลผู้ทำให้มองโกเลียเป็นเอกราชมาจนถึงทุกวันนี้ เบื้องหน้าของจัตุรัสเป็นที่ทำการของรัฐบาลกลางที่จะมีรูปปั้นของเจงกิสข่านตั้งตระหง่านอยู่เหมือนกับคอยสอดส่องประชาชนของพระองค์
• ที่พัก โรงแรม  Khusvgul Lake Hotel (หรือเทียบเท่า)

บรรยากาศนอกขบวนรถไฟ

วันที่ 5 : อุทยานแห่งชาติ Terelj

• Terelj National Park นำท่านชม หินรูปเต่า (Turtle rock) ก้อนหินขนาดใหญ่ที่รูปร่างเหมือนกับเต่ายักษ์ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติที่นี่
• รับประทานอาหารกลางวัน แบบฉบับคนมองโกเลียพื้นเมือง ปรุงโดยชาวมองโกเลียนแท้ๆ
• อาราม Aryapala ศาสนิกสถานแบบพุทธสไตล์ทิเบต จากจุดนี้ท่านจะได้ชมกับทัศนียภาพที่สวยงามของอุทยานแห่งชาติจากเบื้องบน (ระยะทางเดินไปกลับ ประมาณ 3 กิโลเมตร ต้องมีการขึ้นบันได และมีความชันเพียงเล็กน้อย)
• ขึ้นสู่หลังอานม้าพาหนะคู่ชีวิตของชาวมองโกล ชมวิวไปรอบๆ National Park (มีคนขี่ม้านําทาง)
• ชมบรรยากาศภายในบ้านของชาวบ้านท้องถิ่นที่อาศัยอยู่จริงๆ ชมวิถีชีวิตอันแสนเรียบง่ายของชาวมองโกล
• คืนนี้จะเป็นการพักในกระโจมที่เรียกว่าเกอร์ ซึ่งภายในเกอร์จะมี 4-5 เตียง แล้วแต่ขนาด โดยจะมีเพียงเตียงนอน ฟูก หมอน ผ้าห่ม เตาผิงไฟ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ห้องน้ำอยู่ด้านนอกเกอร์ถัดออกไปประมาณ 50 เมตร เป็นส้วมแบบชักโครก แต่อุณหภูมิที่อาจจะติดลบทำให้น้ำอาจจะไม่ไหลได้ โดยคืนนี้เราจะไม่ได้อาบน้ำกันอย่างแน่นอน ขอให้ท่านเตรียมทิชชูเปียกหรือสิ่งของประจำตัวของท่านให้พร้อม
• ค่ำคืนนี้จะเป็นอีกหนึ่งคืนแห่งความทรงจำที่เราได้นอนในเกอร์ สิ่งมหัศจรรย์ของชาวมองโกล

เกอร์ บ้านอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวมองโกล

อุทยานแห่งชาติ Tereilj

วันที่ 6 : อนุสาวรีย์เจ่งกีสข่าน (Tsonjin Boldog) – เขาไซซาน

• นําท่านเดินทางกลับสู่ตัวเมืองอูลานบาร์ตอร์
• ชม อนุสาวรีย์เจ่งกีสข่าน (Tsonjin Boldog) เจงกีสข่านเป็นจักรพรรดินักรบชาวมองโกลผู้พิชิต ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิมองโกล ที่นี่เป็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่ท่านสามารถเดินขึ้นไปยังบริเวณส่วนหัวของม้า เพื่อชมใบหน้าของข่านผู้ยิ่งใหญ่แห่งนี้ได้อย่างใกล้ชิด และยังมีพิพิธภัณฑ์ที่เล่าถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชนชาติมองโกลตั้งอยู่ที่นี่อีกด้วย
• ชม อนุสรณ์สถานแห่งความทรงจำที่เขาไซซาน (Zaisan Memorial hill) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ความทรงจำของมิตรภาพระหว่างสหภาพโซเวียตในสมัยนั้นและชาวมองโกเลียในฐานะของมิตรภาพที่เกิดขึ้นท่ามกลางสงคราม จากจุดนี้ท่านจะได้ชมกับทัศนียภาพของกรุงอูลานบาตอร์ได้อย่างชัดเจน ได้เห็นขอบเขตเมืองใหม่ที่เกิดขึ้นที่มีตึกระฟ้าจำนวนมากรวมถึงบริเวณเกอร์จำนวนมากที่เรียกว่า Ger district
• ที่พัก โรงแรม  Khusvgul Lake Hotel (หรือเทียบเท่า)

อนุสาวรีย์เจ่งกีสข่าน (Tsonjin Boldog)

วันที่ 7 : อูลานบาตอร์ (Ulan Bator)

• วัดกานดาน (Gandan Monastery) ซึ่งเป็นอารามเก่าแก่ของพุทธศาสนานิกายวัชรยานที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีเทวรูปพระโพธิ์สัตว์อยู่ภายใน
• พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติมองโกเลีย (National History museum)
• พระราชวังฤดูหนาว (Winter Palace of Bolg Khan) ที่พำนักแห่งสุดท้ายของกษัตริย์พระองค์สุดท้ายของมองโกเลียก่อนจะกลายเป็นการปกครองในระบอบสาธารณรัฐเช่นในปัจจุบัน
• 15:22 น. เดินทางจาก อูลานบาร์ตอร์ สู่ เอียร์คุสต์ (Irkutsk) ด้วยรถไฟขบวน 305

วัดกานดาน (Gandan Monastery)

วันที่ 8 : เดินไปทางเอียร์คุสต์ (Train to Irkutsk)

• ช่วงบ่าย จะเป็นช่วงเวลาที่ขบวนรถไฟเดินทางมาถึงทะเลสาบไบคาลทางทิศตะวันออก ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่รถไฟวิ่งอยู่เรียบทะเลสาบก่อนจะวกเข้าไปภูเขา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่วงที่ทิวทัศน์นอกหน้าต่างมีความสวยงามอย่างถึงที่สุด
• 14:37 น. เดินทางถึง สถานีรถไฟเอียร์คุสต์ (Irkutsk) ขึ้นรถเพื่อเดินทางไปเกาะโอคฮอร์น ใช้เวลาเดิน ทางประมาณ 3 ชั่วโมงถึงท่าเรือเฟอร์รี่
• 18:30 น. เดินทางมาถึงหมู่บ้านหลักของเกาะโอคฮอร์น ที่มีชื่อว่า Khuzir
• ที่พัก โรงแรม Baikal View (หรือเทียบเท่า)

วิหารสนาเมนสกี้ แห่งเมือง Irkutsk

วันที่ 9 : ทะเลสาบไบคาล (Baikal lake)

• ออกเดินทางไปทางตอนเหนือของเกาะโดยรถ 4WD ที่เรียกว่า UAZ โดยนั่งคันละ 6 คน เพราะว่า รถปกติไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้ การเดินทางวันนี้จะอยู่ที่ 70-80 กม. โดยระหว่างทางจะจอดแวะถ่ายรูปและชมวิวไปด้วย
• จุดหมายหลักของ เกาะโอลค่อน (Okhon) ที่เราจะเดินทางไปจะอยู่ในตอนเหนือของเกาะตามนี้
  • แหลม Burkhan และ หินชาแมน (Shaman rock)
  • เวิ้งอ่าวหมู่บ้าน Uzur ที่เราจะใช้เป็นจุดปิคนิครับประทานอาหารเที่ยงกันที่นี่
  • แหลม Mys Shunte-Levyy
  • แหลมสามพี่น้อง (Three bother cliff)
  • แหลมโคลบอย (Khoboi cliff)
• ที่พัก โรงแรม Baikal View (หรือเทียบเท่า)

เกาะโอลคอน (Olkhon)

วันที่ 10 – 12 : เส้นทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย

• ช่วงนี้คือช่วงที่เส้นทางรถไฟสายทรานส์มองโกเลียมาบรรจบกับเส้นทางสายทรานส์ไซบีเรีย เส้นทางรถไฟนำท่านวิ่งผ่านเข้าสู่เขตใจกลางของไซบีเรีย ผ่านเมืองใหญ่น้อยตลอดทาง เราจะอยู่บนรถไฟขบวนนี้ รวมเวลาทั้งสิ้นประมาณ 55 ชั่วโมง
• Krasnoyarsky Kray เป็นเขตการปกครองของประเทศรัสเซีย โดยมี ศูนย์กลางการบริหารคือ ครัสโนยาสค์ (Krasnoyarsk) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของไซบีเรีย (รอง จาก Novosibirsk และ Omsk) ดินแดนครัสโนยาสค์เป็นหนึ่งในดินแดนที่ใหญ่ที่สุด ของสหพันธรัฐรัสเซีย โดยใหญ่เป็นอันดับที่สอง (รองจาก สาธารณรัฐซาฮา) และ ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก รองจาก สาธารณรัฐซาฮา และ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย
• Novosibirsk เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศรัสเซีย รองจากกรุงมอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของ รัสเซียส่วนที่อยู่ในทวีปเอเชีย มีประชากร 1,473,754 คน เป็นเมืองหลวงของ โนโวซีบีสค์โอบลาสต์ เมืองตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไซบีเรีย ริมฝั่งแม่นํ้าอ็อบ
• วันที่ 11 เวลาประมาณ 22.05 น. เดินทางถึงเมือง เอกาเทอร์รินเบิร์ก (Yekaterinburg)
• ที่พัก โรงแรม The Double Tree By Hilton (หรือเทียบเท่า)

สถานีรถไฟเมืองกราสโนยาร์สก์ (Krasnoyarsk)

วันที่ 13 : เยคาเทรินเบิร์ก – พรมแดนทวีปเอเชีย-ยุโรป – บ้านอิปาเทียฟ

• ชม อนุสาวรีย์โอเบลีสก์ (Obelisk) อนุสาวรีย์ที่แสดงจุดที่เป็นรอยต่อทวีปยุโรปและเอเชียซึ่งใช้เทือกเขาอูราลเป็นหมุดหมายทางธรรมชาติ
• ชม กานินา ยามา (Ganina Yama) ศาสนสถานอีกแห่งหนึ่งซึ่งสร้างอุทิศแด่พระบรมวงศานุวงศ์ที่ถูกฝ่ายบัลเชวิกปลงพระชนม์
• ชม วัดหยดเลือด (Temple on Spilled Blood) ที่สร้างอุทิศให้กับบรรดาสมาชิกราชวงศ์โรมานอฟที่ถูกปลงพระชนม์หมู่
• จากนั้นอิสระให้ท่านได้เดินเล่นอำลาเมืองหลวงแห่งอูราล
• 23.14 น. รถไฟขบวนที่ 139 ออกเดินทางจากสถานีรถไฟเยคาเทรินเบิร์ก

ชายแดนยุโรปและเอเชีย เมือง เยคาเทรินเบิร์ก (Yekaterinburg)

วัดหยดเลือด (Temple on Spilled Blood)

วันที่ 14 : เดินทางสู่มอสโคว

• พักผ่อนตามอัธยาศัยบนรถไฟ

บรรยากาศภายในรถไฟระหว่างเดินทาง คือ เสน่ห์ของการเดินทางด้วยรถไฟ

วันที่ 15 : เดินทางถึงมอสโคว (Moscow) – จัตุรัสแดง (Red Square)

• 04:11 น. เดินทางถึง สถานีรถไฟกรุงมอสโคว จุดหมายปลายทางสุดท้ายสําหรับทริปนี้
• จัตุรัสแดง (Red Square) สถานที่ที่ถือเป็นจุดศูนย์กลางของประเทศ
• วิหารเซ็นต์บาซิล (St. Basil Temple) ซึ่งถือเป็นโลโก้หลักของกรุงมอสโก สร้างโดยพระเจ้าอิวานที่สี่ผู้เกรี้ยวกราดเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะเหนือพวกตาตาร์และมีตำนานว่าพระองค์สั่งให้ควักลูกตาสถาปนิกผู้สร้างเพื่อมิให้ไปสร้างสิ่งสวยงามแบบนี้ ที่ใดอีก
• สุสานวลาดิมีร์ เลนิน (Lenin Mausoleum)
• Kremlin Cathedrals เพื่อเยี่ยมชมภายในปราสาท และรอบนอก
• วัดพระคริสต์ผู้ไถ่ (Cathedral of the Christ Saviour) วิหารโดมทองที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียบูรณะขึ้นมาใหม่เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 850 ปีแห่งการสถาปนากรุงมอสโก
• ที่พัก โรงแรม Mercure Pavaletskaya หรือเทียบเท่า

บรรยากาศริมฝั่งแม้น้ำมอสควา

วันที่ 16 : มอสโคว (Moscow)

• ตลาดอิสไมลอฟสกี้ ตลาดของฝากและของที่ระลึกที่ใหญ่ที่สุดของกรุงมอสโคว เต็มไปด้วยผู้คนและสินค้าน่าซื้อหา มีความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรมและมีชีวิตชีวายิ่งนัก เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศ ใครมาที่มอสโคว ก็ไม่พลาดที่จะมาเลือกช้อปปิ้งที่นี่ เชิญเลือกซิ้อสินค้าที่ระลึกต่างๆ ในราคาย่อมเยา อาทิ ตุ๊กตาแม่ลูกดก เครื่องประดับจากอำพัน งานหัตถกรรมพื้นบ้าน เป็นต้น
• ยอดเขาสแปร์โรว์ฮิล (Sparrow hill) บริเวณที่มองเห็นทัศนียภาพของนครมอสโควที่อยู่เบื้องล่างได้โดยทั้งหมด พื้นที่ดังกล่าวนี้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมอสโคว เชิญเก็บภาพประทับใจไว้เป็นที่ระลึก พร้อมชมความวิจิตรงดงามของตัวอาคาร มหาวิทยาลัยมอสโคว ซึ่งเป็น 1 ใน 7 อาคารสไตล์ สตาลินกอธิค ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยสุดในมอสโคว
• ทัวร์รถไฟใต้ดินของมอสโคว (Metro tour) ซึ่งมีความแตกต่างกันในแต่ละสถานี โดยไกด์จะพาท่านร่วมขบวนไปกับคนท้องถิ่น  รถไฟฟ้าใต้ดินกรุงมอสโกเป็นสิ่งก่อสร้างที่ชาวรัสเซียสามารถอวดชาวต่างชาติให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ มีประวัติศาสตร์ ความเป็นชาตินิยม และวัฒนธรรมประเพณีอันสวยงาม
• เดินทางไปยัง ท่าอากาศยานนานาชาติมอสโก-เชเรเมเทียวา (Sheremetyevo International Airport)
• 19.20 น.สายการบินแอโรฟลอท เที่ยวบินที่ SU270 ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ

ตลาดอิสไมลอฟสกี้ ตลาดของฝากและของที่ระลึกที่ใหญ่ที่สุดของกรุงมอสโคว

วันที่ 17 :  กรุงเทพมหานคร สิ้นสุดทัวร์รถไฟทรานส์มองโกเลีย

• 07.45 น. กลับถึงกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ