อลาสก้าเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา และตั้งอยู่ทางมุมตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องธารน้ำแข็ง และสัตว์ป่ามากมาย ซึ่งแต่ก่อนอลาสก้าเคยเป็นของรัสเซียในช่วงในศตวรรษที่ 18 และ 19 ตอนที่นักสำรวจชาวรัสเซียเริ่มทำแผนที่ และสำรวจ Alaska จักรวรรดิรัสเซียได้จัดตั้งอาณานิคมในอลาสก้าในปี ค.ศ.1784 ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางการค้า และการพาณิชย์สำหรับผู้ค้าขนสัตว์ และผู้ประกอบการ ต่อมาในปี ค.ศ.1867 สหรัฐอเมริกาได้ซื้ออลาสก้าจากรัสเซียในราคา 7.2 ล้านดอลลาร์
สิ่งที่ต้องไปทำเมื่อไปถึงอลาสก้า (Alaska)!!
อุทยานแห่งชาติเดนาลี (Denali National Park)
อุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของยอดเขาเดนาลี (Denali) หรือยอดเขา McKinley (Mount McKinley)ยอดเขาที่สูงที่สุดในอเมริกาเหนือด้วยความสูงถึง 6,190 เมตร ตลอดจนสามารถเห็นสัตว์ป่านานาชนิด เช่น หมีกริซลี กวางมูส และกวางคาริบู อุทยานแห่งนี้จะต้องใช้บริการนำเที่ยวของอุทยานเท่านั้น เพราะไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวเข้าไป
อุทยานแห่งชาติกลาเซียร์ เบย์ (Glacier Bay National Park)
ตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ อุทยานแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3 ล้านเอเคอร์หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมในอุทยานแห่งชาติ Glacier Bay คือการล่องเรือเพื่อชมธารน้ำแข็งและฟยอร์ดของอุทยาน รวมถึงสัตว์ป่านานาชนิด เช่น วาฬหลังค่อม นากทะเล แมวน้ำท่าเรือ และสิงโตทะเล
อุทยานแห่งชาติ Kenai Fjords (Kenai Fjords National Park)
ตั้งอยู่บนคาบสมุทร Kenai ทางตอนใต้ของอลาสก้าตอนกลาง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 600,000 เอเคอร์แ ละมีชื่อเสียงในด้านธารน้ำแข็ง ฟยอร์ด และสัตว์ป่าทะเลที่อุดมสมบูรณ์
อุทยานแห่งชาติ Wrangell-St. Elias National Park and Preserve
ตั้งอยู่ทางตะวันออกของอลาสก้า ครอบคลุมพื้นที่กว่า 13 ล้านเอเคอร์ของธรรมชาติอันงดงาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา และเป็นที่ตั้งของยอดเขาที่สูงที่สุดหลายแห่งในอเมริกาเหนือ รวมถึงภูเขาเซนต์อีเลียส หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมคือการเดินป่า เพราะอุทยานมีเส้นทางเดินป่ายาวกว่า 13,000 ไมล์ ตั้งแต่เส้นทางเดินธรรมชาติสั้นๆ ไปจนถึงการเดินทางแบกเป้หลายวัน รวมถึงการชมธารน้ำแข็งฮับบาร์ด (Hubbard Glacier) และยังสามารถล่าแสงเหนือได้ที่นี้ด้วย ซึ่งห้ามพลาดเด็ดขาด
ถ้ำน้ำแข็ง Mendenhall (Mendenhall Ice Cave)
เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยงาม ตั้งอยู่ใกล้เมืองจูโน ภายในป่าสงวนแห่งชาติตองกัส ถ้ำนี้เกิดจากธารน้ำแข็งที่ไหลมาจากธารน้ำแข็ง Mendenhall ซึ่งมีอายุยาวนานถึง 1,200 ปี และถ้าอยากไปชมถ้ำน้ำแข็ง Mendenhall จะต้องเดินจากธารน้พแข็ง Mendenhall ก่อนซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที
Ketchikan
มักถูกเรียกว่า “ประตูสู่อลาสก้าตะวันออกเฉียงใต้” เนื่องจากเป็นเมืองทางใต้สุดของเส้น Inside Passage นอกจากนี้เมือง Ketchikan ยังมีกิจกรรมให้ธรรม เช่น การดำน้ำ ทัวร์ชมวิวบนเครื่องบิน หรือแม้แต่ชมอนุสรณ์สถานแห่งชาติ Misty Fjords
Juneau
เป็นเมืองหลวงของอลาสก้า และเป็นเมืองหลวงของรัฐเพียงเมืองเดียวที่ไม่มีถนน เพราะจูโนสามาเข้าถึงได้แค่เครื่องบิน และเรือเท่านั้น เนื่องจากไม่มีถนนเชื่อมต่อกับรัฐอื่นๆ จูโนก่อตั้งขึ้นในช่วงยุคช่วงปลายทศวรรษ 1800 และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานเกี่ยวกับเหมืองแร่ นักท่องเที่ยวยังสามารถชมอาคาร Alaska State Capitol, พิพิธภัณฑ์ Juneau Douglas City, Macaulay Salmon Hatchery และลานสกี Eaglecrest
Kenai Peninsula
คาบสมุทรขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ รู้จักกันในชื่อ “Alaska’s Playground “ เพราะมีความยาวถึง 150 ไมล์ เมืองที่ใหญ่ที่สุดบนคาบสมุทร Kenai คือเมืองโฮเมอร์ (Homer) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของคาบสมุทร และจะมีหมู่บ้านชาวประมงอยู่ด้วย
ถ้าใครสนใจไปเยื่อนอลาสก้า (Alaska) เราก็มีทัวร์ล่องเรืออันแสนหรูหราสามารถเช้าชมได้ที่นี่ หรือถ้าใครอยากรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆ แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร โดยเราจะนำความรู้ดีๆ สาระดีๆ หรือประวัติศาสตร์ของสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ มาบอกเล่าเรื่องราวให้ได้อ่านกัน สามารถติดตาม หมอๆ ตะลุยโลก และPatourlogy หรือถ้าใครต้องการท่องเที่ยวแบบเป็นกรุ๊ปส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นทัวร์นอกกระแส ขั้วโลกเหนือยังขั้วโลกใต้ ที่ประทับใจยันโลกหน้า สามารถติดต่อทาง Facebookและ Line ได้เลย เรายินดีพร้อมบริการทุกคนเป็นอย่างยิ่ง