ปามีร์ ไฮเวย์ คือชื่อของถนนเส้นหนึ่งที่ได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุดในโลก พาดผ่านประเทศเอเชียกลางที่ลึกลับที่สุดสองประเทศคือ ทาจิกิสถาน และ คีร์กิซสถาน
ปามีร์ ไฮเวย์ พาเราเข้าสู่ดินแดนหลังคาโลกของจุดบรรจบกันระหว่างเทือกเขาปามีร์และฮินดูกูซ
พร้อมจะไปผจญภัยยังดินแดนแห่งนี้กันหรือยังครับ ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยกันเลยครับ
ทริปนี้เป็นส่วนหนึ่งของทริปการเดินทางที่จะเกิดขึ้นกับบริษัททัวร์ Patourlogy บริษัทนำเที่ยวการเดินทางของ หมอโจ้และหมอวินแห่งหมอๆตะลุยโลก ครับ
ทริปนี้เราจะออกเดินทางกันวันที่ 02-13 กรกฎาคม 2562 ซี่งตรงกับฤดูร้อนและเป็นช่วง The Best Season ของการเดินทางในเส้นทางนี้ สภาพอากาศแจ่มใส ไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป อีกทั้งถนนหนทางสามารถเปิดใช้ได้สะดวก ทำให้สามารถเข้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเข้าถึงยากในช่วงฤดูกาลอื่นๆได้
จากไทยสู่คีร์กิซสถาน
ไม่มีไฟลต์บินตรงจากกรุงเทพไปที่ทาจิกิสถานหรือคีร์กิซสถานครับ เราต้องไปเปลี่ยนเครื่องรอบแรกที่เมืองอัลมาตี้ ประเทศคาซัคสถานก่อน โดยเราจะบินไปกับสายการบิน Air Astana สายการบินระดับ 4 ดาว เชื้อสายคาซัคสถานสายการบินที่ดีที่สุดของภูมิภาค หลังจากนั้นจึงบินเข้าคีร์กิซสถานต่อ เนื่องจากในแผนการเดินทางเราจะเริ่มต้นที่เมือง Osh เมืองเอกของภาคตะวันตกประเทศคีร์กิซ พอมาถึงก็นั่งไฟลต์ภายในประเทศคีร์กิซสถานต่ออีกครั้ง
เท่ากับสรุปไฟล์การเดินทางจะเป็นดังนี้ครับ
กรุงเทพ > อัลมาตี้ (Almaty) > บิซเคก (Bishkek) > ออส (Osh)
ทั้งหมด 3 ไฟลต์ ใช้เวลาไปเกือบวันครับ กว่าจะมาถึงจุดเริ่มต้นสู่ดินแดนหลังคาโลก
เมือง Osh
เริ่มต้นกันที่ เมือง Osh เมืองโบราณที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศคีร์กิซสถาน มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี มี Sulaiman Too ภูเขาศักดิ์สิทธ์ที่สุดอันเป็นแหล่งศูนย์รวมจิตใจของชาวเมือง มีความเชื่อว่าที่เคยเป็นที่อยู่ของกษัตริย์โซโลมอน (Solomon = Sulaiman) อีกทั้งยังได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลก เมืองที่สำคัญในหุบเขาเฟอร์กาน่า
บนทางหลวงหมายเลข M41 หรือ “ปามีร์ ไฮเวย์”
จุดเริ่มต้นของเส้นทางอันยาวไกลที่ปลายทางคือ เมืองหลวงดูซานเบ ประเทศทาจิกิสถาน ถนนที่สร้างขึ้นทับบนทางเดินเท้าของเหล่าคาราวานตั้งแต่ในสมัยเส้นทางสายไหมใช้เป็นเส้นทางการลำเลียงสินค้าในยุคโบราณ ระหว่างทางผ่าน Taldok Pass ที่ความสูง 3,600 เมตร ถนนที่ได้ชื่อว่า เป็นถนนที่สวยที่สุดของประเทศคีร์กีซสถาน เส้นทางที่คดเคี้ยวไปตามสันเขา ผ่านแนวเทือกเขาที่สวยงามสองข้างทาง
หลังจากผ่าน Taldok pass เราก็จะเข้าสู่เขตของเทือกเขาปามีร์โดยสมบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลเฉลี่ย 3,000 เมตร หรือเรียกว่าบริเวณหลังคาโลกอีกแห่งหนึ่ง เราจะเดินทางต่อไปยัง หมู่บ้าน Sary Mogol ที่อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวในวันนี้นั่นคือ Lenin peak base camp ลานกว้างขนาดใหญ่ที่เป็นจุดตั้งต้นของนักเดินเขาเพื่อจะมาพิชิตยอดเขาเลนิน(Lenin peak) ที่ความสูง 7,134 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งเราสามารถมองเห็นได้จากบริเวณนี้ หนึ่งในจุดชมวิวยอดเขาที่สวยที่สุด
ทะเลสาบ Karakul ไข่มุกแห่งปามีร์
หลังจากใช้เวลายามค่ำคืนที่หมู่บ้าน Sary Mogol รุ่งเช้า เราจะเดินทางต่อลงไปยังด้านทิศใต้ของประเทศคีร์กิซสถานเพื่อข้ามพรมแดนสู่ประเทศทาจิกิสถาน ดินแดนหลังคาโลกที่ไม่มีพื้นที่ออกสู่ทะเล พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง
หลังจากข้ามพรมแดนเข้ามา เราจะผ่าน Ak-Baital pass ถนนที่สูงที่สุดของเส้นทางหลวง M41 แห่งนี้ ก่อนจะลาดลงสู่ทะเลสาบที่สวยที่สุดที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งปามีร์” ทะเลสาบคาราคูล (Karakul) ทะเลสาบน้ำเค็มที่อยู่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก ที่มีน้ำใสเหมือนกระจกสะท้อนให้เห็นวิวทิวทัศน์ในรูปแบบกลับหัว
เมือง Murghab หรือทาทูอีนแห่งปามีร์
เมืองที่มาเส้นปาร์มีร์จะต้องมาไม่งั้นก็เหมือนมาไม่ถึง ลักษณะภูมิประเทศเป็นแบบ alpine desert คือสภาพอากาศแบบสุดขั้ว ร้อนมากๆในหน้าร้อน (40 องศาเซลเซียส) หรือหนาวสุดๆในหน้าหนาว (-30 องศาเซลเซียส)
Murghab ยังเคยเป็นอดีตฐานบัญชาของกองทัพสหภาพโซเวียตสมัยที่แข่งขันด้านอิทธิพลเหนือภูมิภาคเอเชียกลางกับอังกฤษ ซึ่งอาคารบางส่วนยังคงหลงเหลือมาถึงปัจจุบัน ที่นี่เป็นศูนย์กลางของปามีร์ในด้านตะวันออกครับ เป็นเมืองเดียวที่มีโรงแรมและสิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานตะวันตกในเขตภาคตะวันออกของปามีร์
ถนนภายในเขตภาคตะวันออกของปามีร์นั้น จะเป็นแบบนี้ครับ คือโล่งมาก โล่งจนไม่มีอะไรเลย หมู่บ้านแต่ละแห่งก็อยู่ไกลกันมาก เรามองเห็นถนนตรงยาวเป็นเส้นพุ่งไปที่เส้นขอบฟ้าได้อย่างชัดเจน
หมู่บ้าน Langar
เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ระเบียงวาคันด์ (Wakhan corridor) ซึ่งเป็นราบสูงที่อยู่ระหว่างเทือกเขาสองฝั่งคือฮินดูกูซในฝั่งอัฟกานิสถานและปามีร์ในฝั่งทาจิกิสถานโดยมีแม่น้ำสายสำคัญคือแม่น้ำ Panj river เป็นตัวกั้นพรมแดนธรรมชาติ
ป้อมปราการยัมชุน (Yamchun fortresses)
ป้อมปราการแห่งนี้เชื่อว่าสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 เพื่อจุดประสงค์ใช้เพื่อสังเกตการณ์และป้องกันอาณาจักรจากผู้รุกรานโดยป้อมปราการจะตั้งอยู่บนเนินเขามีเบื้องหลังของป้อมปราการสามารถมองเห็นเทือกเขาหิมะของฝั่งอัฟกานิสถานได้
สู่หมู่บ้าน Iskhashim
ที่ หมู่บ้าน Iskhashim เราสามารถมองเห็นแผ่นดินฝั่งอัฟกานิสถาน พบเห็นการใช้ชีวิตประจำวันของคนทั้งสองฝั่งอย่างใกล้ชิด ซึ่งในช่วงที่เหตุการณ์ทางการเมืองปกติ ทุกๆวันอาทิย์จะมีตลาดนัดที่คนทั้งสองฝั่งสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากันได้อย่างเสรี
เมือง Khorog
เมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาและถูกขนาบด้วยแม่น้ำ 3 สาย คือ Shokhdara river และ Ghund river ซึ่งไหลไปรวมที่แม่น้ำ Pyanj river อันเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างประเทศเพื่อนบ้านคืออัฟกานิสถาน
Khorog เป็นเมืองที่สำคัญที่สุดของเขตปามีร์ เป็นศูนย์กลางการปกครอง การศึกษา และการค้า
เมือง Khorog ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น (Local history museum), สวนพฤกษศาสตร์ Khorog (Pamir botanical garden) ที่สร้างขึ้นไว้เพื่อวิจัยเ กี่ยวกับพืชพรรณที่ปลูกในที่สูงและภูมิประเทศที่ต่างๆกัน โดยปัจจุบันมีพืชพรรณมากว่า 4000 ชนิด ซึ่งจากสวนแห่งนี้เสามารถมองเห็นเมือง Khorog ที่ถูกขนาบด้วยหุบเขาและมีแม่น้ำไหลผ่านตรงกลาง
เดินทางกลับเมืองหลวง
หลังจากออกจากเมือง Khorog มาเราก็จะค่อยๆ ไต่ระดับกลับมาอยู่บนพื้นที่ราบเหนือหุบเขาอีกครั้ง และจะผ่านเขื่อนยักษ์ Nurek ที่มีความสวยงามอย่างมาก
เมืองหลวงดูซานเบ (Dushanbe) จุดหมายปลายทางของทางหลวงสายปามีร์
เมืองดูซานเบมีสถานที่สำคัญ ๆมากมาย เช่น สวนรูดากี้ (Rudaki Park), ตลาดชาห์มานซูร์ (Shar Mansur Bazaar), พระราชวังแห่งการรวมชาติ (Palace of Unity), พระราชวังแห่งชนชาติ (Palace of Nations), สวนแห่งชัยชนะ (Victory Park), พิพิธภัณฑ์ของโบราณ (Museum of Antiquities) และเสาธงของดูชานเบ้ (Dushanbe Flagpole) เป็นต้น
เสาธงของดูชานเบ้ (Dushanbe Flagpole)
เป็นเสาธงที่มีความสูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลกซึ่งมีความสูงถึง 165 เมตร อันดับที่ 1 ซึ่งถูกสร้างขึ้นที่หลังอยู่ที่เมืองเจดด้าห์สูงถึง 170 เมตร และอันดับที่ 3 อยู่ที่เมืองบาคู ในอะเซอร์ไบจานที่มีความสูง 162 เมตร
บนถนนที่ทอดยาวอาจไม่มีความหมายเลย
หากมองไม่เห็นเสน่ห์ของการเดินทาง
ร่วมทางไปกับเรา Patourlogy